ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ชาวฮั่น"
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ล ย้อนการแก้ไขของ Cuteystudio (พูดคุย) ไปยังรุ่นก่อนหน้าโดย Shoshui ป้ายระบุ: ย้อนรวดเดียว |
ป้ายระบุ: ย้อนรวดเดียว |
||
บรรทัด 135:
* ตามประเพณีทั่วไปนิยมนับถือทั้ง 4 ศาสนาพร้อมกัน ได้แก่ ([[ศาสนาพื้นบ้านจีน]], [[ศาสนาพุทธ]]นิกาย[[มหายาน]], [[ลัทธิขงจื๊อ]], [[ลัทธิเต๋า]]) <br>
* [[การไม่มีศาสนา|ไม่นับถือศาสนา]] <br>
* [[ศาสนาคริสต์]]และความเชื่อ
| related = [[ตระกูลภาษาจีน-ทิเบต|กลุ่มชาติจีน-ทิเบต]]
| footnotes =
บรรทัด 143:
[[File:Hanfu yueyao.jpg|thumb|ชายชาวจีนฮั่นขณะประกอบพิธีแบบดั้งเดิม]]
'''ชาวจีนฮั่น''',<ref>{{Cite book |title=China: A Religious State |last=Hsu |first=Cho-yun |publisher = Columbia University Press |year=2012 |isbn=978-0-231-15920-3 |page=126}}</ref><ref>{{Cite book |title=Learning to Be Tibetan: The Construction of Ethnic Identity at Minzu |last=Yang |first=Miaoyan |publisher= Lexington Books |year=2017 |isbn=978-1-4985-4463-4 |page=7}}</ref><ref name="Chinese people">[http://www.huayuqiao.org/articles/shcheong/shcheong02.htm Who are the Chinese people?] {{zh icon}}. Huayuqiao.org. Retrieved on 2013-04-26.</ref> '''ฮั่นซู''',<ref>{{Cite book |title = The Han: China's Diverse Majority|last=Joniak-Luthi |first=Agnieszka|publisher=University of Washington Press|year=2015|isbn=978-0-295-80597-9 |page = 3 }}</ref><ref>{{Cite book |title=Constructing Nationhood in Modern East Asia|last=Chow|first=Kai-wing|publisher=University of Michigan Press|year=2001|isbn=978-0-472-06735-0 |page = 2 }}</ref><ref>{{cite book |title=The Last Emperors: A Social History of Qing Imperial Institutions|last=Rawski|first=Evelyn|publisher=University of California Press|year=2001|isbn=978-0-520-92679-0 |page = 2 }}</ref> '''ชาวฮั่น'''<ref>{{Cite book |title=China at War: An Encyclopedia |last=Li |first=Xiaobing |publisher= Pentagon Press |year=2012 |isbn=978-81-8274-611-4 |page=155}}</ref><ref name=CHC12>{{cite book |last1=Fairbank |first1=John K. |date=1983 |title=The Cambridge History of China Volume 12: Republican China, 1912–1949, Part 1 |url = http://universitypublishingonline.org/cambridge/histories/ebook.jsf?bid=CBO9781139054799 |location=
|publisher=Cambridge University Press |page= |isbn= 978-1-139-05479-9 |access-date=May 20, 2016}}</ref><ref name=Wen2004Nature>{{cite journal |last1 = Wen |display-authors=etal | year = 2004 |title = Genetic evidence supports demic diffusion of Han culture | url = http://www.nature.com/nature/journal/v431/n7006/abs/nature02878.html | journal = Nature | volume = 431 | issue = 7006 | pages = 302–05 | doi=10.1038/nature02878 | pmid=15372031 |bibcode = 2004Natur.431..302W}}</ref> ({{zh|t=漢人 |p=ฮ่านเหริน |l=ชาวฮั่น}}<ref name=Kim2004>{{cite book |last1=Kim |first1=Hodong |date=2004 |title=Holy War in China: The Muslim Rebellion and State in Chinese Central Asia, 1864–1877 |url=https://books.google.com/?id=AtduqAtBzegC |location= |publisher=Stanford University Press |page=320 |isbn=978-0-8047-7364-5 |access-date=May 20, 2016}}</ref> หรือ {{lang|zh-hant|漢族}}, {{zh|links=no |p=ฮ่านซู}}, มีความหมายแปลว่า "ชาติพันธุ์ฮั่น"<ref>{{cite book|year=2015|author=Xiaobing Li |author2=Patrick Fuliang Shan|title=Ethnic China: Identity, Assimilation, and Resistance|publisher=[[Lexington Books]]|page=69|isbn=978-1-4985-0729-5}}</ref> หรือ "กลุ่มชาติพันธุ์ฮั่น")
Victor|author13=Cheng C. Keith |title=Skin Color Variation in Orang Asli Tribes of Peninsular Malaysia |journal=[[PLoS ONE]] |issue=8 |volume= 7 |page= 2 |year=2012 |doi = 10.1371/journal.pone.0042752 |pmid= 22912732 |pmc= 3418284 |bibcode= 2012PLoSO...742752A }}</ref><ref>{{cite journal |author1= Wang, Yuchen |author2= Lu Dongsheng |author3= Chung Yeun-Jun |author4 = Xu Shuhua |title = Genetic structure, divergence and admixture of Han Chinese, Japanese and Korean populations |journal = Hereditas |volume= 155 |page = 19 |year=2018
|url=https://link.springer.com/content/pdf/10.1186%2Fs41065-018-0057-5.pdf |doi = 10.1186/s41065-018-0057-5 |pmid= 29636655 |pmc= 5889524 }}</ref>
บรรทัด 150:
มีหลักฐานว่าชาวฮั่นถือกำเนิดมาตั้งแต่สมัย[[หวงตี้]] (黃帝) อาศัยอยู่ในแถบดินแดนจงหยวน และกระจายอยู่ทั่วประเทศจีนมายาวนานกว่า 5,000 ปี นับตั้งแต่สมัยเซี่ย ซาง โจว ชุนชิว-จั้นกั๋ว จนมาเริ่มเป็นปึกแผ่นในสมัยฉินและฮั่น สมัยฮั่นนี่เองที่เริ่มมีคำเรียก 'ฮั่น' ซึ่งเป็นกลุ่มชนที่มีความเชื่อตามแบบ[[ลัทธิเต๋า]]
ชาวฮั่นมีกิจกรรมด้านการเกษตรและหัตถกรรมที่เจริญก้าวหน้า อีกทั้งมีการประดิษฐ์[[เครื่องสำริด]] [[การถักทอ]] [[เครื่องเคลือบดินเผา]] [[สถาปัตยกรรม]] และศิลปะการวาดภาพที่เป็นหน้าตาของชนชาติมาตั้งแต่ยุคโบราณ นอกจากนี้ ยังรวมถึงผลงานวรรณกรรมรูปแบบ
บุคคลสำคัญเชื้อสายฮั่นในแผ่นดินจีนไม่ว่าจะเป็นนักทฤษฎี นักปฏิวัติ นักการเมือง กวี ศิลปินต่าง ๆ ที่ถูกจารึกนามในหน้าประวัติศาสตร์จีนและของโลกที่เรารู้จักกันดี ได้แก่ [[ซุนยัตเซ็น|ดร.ซุนยัตเซ็น]] [[เหมาเจ๋อตง]] [[โจวเอินไหล]] [[หลิวเส้าฉี]] [[จูเต๋อ]] [[เติ้งเสี่ยวผิง]] [[หลู่ซวิ่น]] ฯลฯ ล้วนเป็นชาวฮั่นที่สร้างคุณูปการต่อลูกหลานชนชาวฮั่นในวันนี้
บรรทัด 162:
[[ไฟล์:汉族比例(2000年).png|thumb|แผนที่แสดงการอยู่อาศัยในจีนแผ่นดินใหญ่ (บริเวณที่มีสีน้ำเงินเข้มคือบริเวณที่ชาวฮั่นอยู่อาศัยเยอะและหนาแน่นที่สุด)]]
=== จีนแผ่นดินใหญ่ ฮ่องกงและมาเก๊า ===
ชาวฮั่นเกือบทั้งหมด มากกว่า 1,200 ล้านคน อาศัยอยู่ในอาณาบริเวณภายใต้เขตอำนาจรัฐของสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งชาวฮั่นคิดเป็น 92% ของจำนวนประชากร ภายในสาธารณรัฐประชาชนจีนชาวฮั่นเป็นประชากรส่วนใหญ่ใน
=== ไต้หวัน ===
[[File:艋舺龍山寺 臺北市 直轄市定古蹟寺廟 Venation 2.JPG|thumb|ชาวจีนฮั่นในไต้หวันขณะไหว้พระที่[[วัดหลงซาน|วัดเม่งเจียหลงซาน]]ในกรุง[[ไทเป]]]]
ชาวฮั่นมากกว่า 22 ล้านคนอยู่ในไต้หวัน ชาวฮั่นเริ่มอพยพจากมณฑลชายฝั่งทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของจีนแผ่นดินใหญ่ไปไต้หวันในศตวรรษที่ 17 ในตอนแรกพวกผู้อพยพเหล่านี้เลือกที่จะตั้งถิ่นฐานในทำเลที่คล้ายคลึงกับพื้นที่ที่จากมาในจีนแผ่นดินใหญ่ ไม่ว่าพวกเขาจะมาถึงทางเหนือหรือทางใต้ของไต้หวัน ผู้อพยพชาวฮกโล่ในฉวนโจวตั้งถิ่นฐานบริเวณชายฝั่ง และพวกที่มาจากจางโจวมีแนวโน้วที่จะรวมกลุ่มกันบนที่ราบเข้าไปในแผ่นดิน ในขณะที่ผู้อพยพชาวฮากกาอาศัยบริเวณเนินเขา การกระทบทั่งกันระหว่างกลุ่มเหล่านี้เหนือดินแดน
=== พื้นที่อื่น ๆ ===
จากจำนวนชาวฮั่นนอกประเทศจีนประมาณ 40 ล้านคนทั่วโลก เกือบ 30 ล้านคนอาศัยอยู่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สิงคโปร์มีจำนวนประชากรชาวฮั่นเป็นประชากรส่วนใหญ่ที่มากสุดที่ 74% เกาะคริสต์มาสก็มีประชากรชาวฮั่นเป็นส่วนใหญ่ที่ 70% ประชากรชาวฮั่นจำนวนมากยังอาศัยอยู่ใน มาเลเซีย (25%)
== ประวัติศาสตร์ ==
=== ก่อนประวัติศาสตร์และพวกหัวเซี่ย ===
ประวัติความเป็นมาของกลุ่มชาติพันธุ์ฮั่นสัมพันธ์อยู่กับประวัติศาสตร์ของจีนอย่างใกล้ชิด ชาวฮั่นตามรอยบรรพบุรุษของพวกเขากลับไปถึงชาวหัวเซี่ยซึ่งอาศัยอยู่ตลอดลำแม่น้ำฮวงโหหรือแม่น้ำเหลืองในจีนตอนเหนือ หนังสือ "บันทึกประวัติศาสตร์" ของนักประวัติศาสตร์จีนที่มีชื่อเสียง ซือหม่าเชียน จัดให้รัชสมัยของจักรพรรดิเหลืองซึ่งเป็นบรรพบุรุษในตำนานของชาวฮั่นไว้ในตอนเริ่มต้นของประวัติศาสตร์จีน แม้ว่าการศึกษาประวัติศาสตร์ในยุคนี้ยากที่จะเข้าใจเนื่องจากขาดแคลนบันทึกทางประวัติศาสตร์ การค้นพบแหล่งโบราณคดีได้ชี้ชัดการสืบต่อจากวัฒนธรรมนีโอลิทิค (ยุคหินใหม่) ตลอดลำแม่น้ำเหลือง โดยตลอดช่วงกลางของแม่น้ำเหลืองเป็นที่ตั้งของวัฒนธรรม Jiahu (
=== ช่วงแรกของประวัติศาสตร์ ===
ราชวงศ์แรกที่ได้รับการพรรณาในบันทึกประวัติศาสตร์ของจีนคือราชวงศ์เซี่ย เป็นช่วงเวลาในตำนานเนื่องจากมีหลักฐานทางโบราณคดีไม่เพียงพอ พวกเขาถูกล้มล้างโดยคนจากทิศตะวันออกที่ก่อตั้งราชวงศ์ซาง (
พวกโจวเป็นผู้สืบทอดต่อมาจากพวกซางโดยใช้ภาษาและวัฒนธรรมร่วมกับชาวซาง พวกเขาได้ขยายอาณาเขตรวบรวมพื้นที่ส่วนใหญ่ทางตอนเหนือของแม่น้ำแยงซี จากการเข้ายึดครองและครอบครอง พื้นที่ส่วนใหญ่แห่งนี้จึงตกอยู่ใต้อิทธิพลของการทำให้เป็นจีน และวัฒนธรรมจีนฮั่นต้นแบบก็แผ่ขยายไปทางใต้ อย่างไรก็ตามอำนาจของกษัตริย์โจวแตกเป็น
=== ประวัติศาสตร์จักรวรรดิ ===
บรรทัด 185:
[[File:China.Terracotta statues007.jpg|thumb|upright|รูปปั้นหญิงและชายชาวฮั่น ศิลปะกระเบื้องเซรามิกจากยุค[[ราชวงศ์ฮั่นตะวันตก]]]]
ยุคของสงครามรณรัฐสิ้นสุดลงด้วยการรวมประเทศจีนโดยราชวงศ์ฉินหลังจากเอาชนะรัฐอริ
อย่างไรก็ตามรัชสมัยของราชวงศ์แรกอันเกรียงไกรก็อยู่ไม่นาน เนื่องจากกฎอาญาสิทธิ์ของจักรพรรดิองค์แรกและโครงการก่อสร้างขนาดมหึมาของพระองค์ เช่น กำแพงเมืองจีน ปลุกปั่นให้เกิดการก่อกบฏไปสู่ราษฏร ราชวงศ์ล่มสลายในไม่ช้าหลังจากพระองค์เสด็จสวรรคต ราชวงศ์ฮั่น (260-220 ปีก่อนคริสตกาล) ปรากฏขึ้นจากความพยายามสืบทอดอำนาจและประสบความสำเร็จในการสถาปนาราชวงศ์ที่ยืนยาวกว่าขึ้น และได้สานต่อระเบียบแบบแผนจำนวนมากที่ได้สร้างโดยฉินสื่อหวงแต่บรรเทากฎเกณฑ์
การล่มสลายของราชวงศ์ฮั่นตามมาด้วยยุคแห่งการแตกแยกและอีกหลายศตวรรษแห่งความขัดแย้งท่ามกลางการสู้รบระหว่างอาณาจักร
ราชวงศ์สุ่ย (581–618) และถัง (618–907) เห็นความต่อเนื่องของกระบวนการทำให้เป็นฮั่นอย่างสมบูรณ์ในชายฝั่งทางใต้ที่ตอนนี้เป็นส่วนหนึ่งของประเทศจีน รวมทั้งส่วนที่เป็นจังหวัดฝูเจี้ยนและกวางตุ้ง ในตอนปลายราชวงศ์ถังรวมทั้งยุคห้าราชวงศ์ถัดมาประสบกับการสู้รบที่ต่อเนื่องยาวนานทางตอนเหนือและกลางของจีน ความมั่งคงของชายฝั่งทางใต้เมื่อเทียบกันแล้วทำให้เป็นจุดหมายที่น่าดึงดูดใจสำหรับผู้ลี้ภัย
บรรทัด 195:
อีกสองสามศตวรรษถัดมาต้องประสบกับการรุกรานอย่างต่อเนื่องของคนที่ไม่ใช่ฮั่นจากทางเหนือ เช่น พวก Khitan และ Jurchen ในปี 1279 พวกมองโกล (ราชวงศ์หยวน) ก็เอาชนะประเทศจีนได้ทั้งหมด นับเป็นครั้งแรกที่คนที่ไม่ใช่คนในแผ่นดินจีนจะทำเช่นนั้นได้ พวกมองโกลแบ่งสังคมออกเป็นสี่ชนชั้นโดยจัดให้พวกตัวเองอยู่ชั้นบนสุด และชาวฮั่นอยู่สองชั้นล่างสุด ส่วนราชวงศ์ซ่งและหยวนก็สั่งห้ามการอพยพเพราะเห็นว่าเป็นการไม่จงรักภักดีต่อบรรพบุรุษและแผ่นดินเกิด ถ้าจับได้ต้องถูกลงโทษอย่างรุนแรง
ในปี 1368 ผู้ต่อต้านชาวฮั่นขับไล่พวกมองโกลออกไป หลังจากขัดแย้งกันเองภายในพักหนึ่งก็ได้สถาปนาราชวงศ์หมิง (1368–1644) การตั้งถิ่นฐานของชาวฮั่นในภูมิภาครอบนอกยังคงดำเนินต่อไปในระหว่างช่วงเวลานี้ โดยมณฑลยูนนานทางตะวันตกเฉียงใต้รับผู้อพยพเป็นจำนวนมาก
[[File:Boxer queue.JPG|thumb|ในยุคหลังปี ค.ศ. 1644 [[ชาวแมนจู]]ได้เข้าครองแผ่นดินจีนและตั้ง[[ราชวงศ์ชิง]]ขึ้น ชาวฮั่นถูกบังคับให้โกนผมด้านหน้าและไว้หางเปียด้านหลังตามแบบชาวแมนจู]]
ในปี 1644 ปักกิ่งถูกยึดครองโดยกบฏชาวนานำโดย Li Zicheng และจักรพรรดิหมิงองค์สุดท้ายปลงพระชนม์ชีพพระองค์เอง พวกแมนจู (ราชวงศ์ชิง) ให้การสนับสนุนนายพลของราชวงศ์หมิงอู๋ซานกุ้ยและยึดกรุงปักกิ่งไว้ กองทัพหมิงที่เหลืออยู่นำโดยโคซิงกาจึงหนีไปไต้หวันที่ซึ่งในท้ายที่สุดพวกเขายอมจำนนต่อกองทัพชิงในปี 1683 เกาะไต้หวันที่ผู้อยู่อาศัยแต่เดิมส่วนใหญ่เป็นชาวพื้นเมืองที่ไม่ใช่ฮั่นถูกทำให้กลายเป็นฮั่นโดยผู้อพยพจำนวนมากประกอบกับการผสมกลมกลืนไปด้วยในช่วงเวลานี้ แม้ว่าจะมีความพยายามจากพวกแมนจูในการขัดขวางก็ตาม เนื่องจากพวกแมจูพบความยากลำบากในการควบคุมดูแลเกาะแห่งนี้ ในขณะเดียวกันพวกแมนจูก็ห้ามไม่ให้ชาวฮั่นอพยพไปแมนจูเรีย เพราะพวกแมนจูเห็นว่าเป็นฐานที่มั่นของราชวงศ์ ในปี 1681 พวกแมนจูจึงสั่งให้ก่อสร้างคูน้ำและทำนบเพื่อห้ามชาวฮั่นไม่ให้ตั้งถิ่นฐานเลยออกไปจากเขตนี้ ราชวงศ์ชิงเริ่มเข้าครอบครองแผ่นดินพร้อมชาวจีนฮั่นในภายหลังภายใต้กฎของราชวงศ์ การเคลื่อนย้ายชาวฮั่นครั้งนี้ไปแมนจูเรียถูกเรียกว่า Chuang Guandong (ในระหว่างราชวงศ์
ในศตวรรษที่ 19 ผู้อพยพชาวฮั่นเป็นจำนวนมากอพยพไปส่วน
=== ประวัติเมื่อไม่นานมานี้ ===
ราชวงศ์ชิงถูกแทนที่โดยสาธารณรัฐจีนในปี 1912 ในปี 1942 สาธารณรัฐประชาชนจีนได้ถูกก่อตั้งขึ้นภายหลังสิ่นสุดสงครามกลางเมือง ในขณะที่สาธารณรัฐจีนล่าถอยไปไต้หวัน ผู้ลี้ภัยประมาณหนึ่งล้านคนหนีไปด้วยทำให้ประชากรไต้หวันเพิ่มขึ้นอีก ในปี 1980 นโยบายลูกคนเดียวถูกนำมาใช้ในสาธารณรัฐประชาชนจีนเพื่อควบคุมการเพิ่มจำนวนประชากร ซึ่งมีผลบังคับใช้กับชาวฮั่นเท่านั้น
การอพยพของชาวจีนไปโพ้นทะเลก็ได้ดำเนินต่อมาจนถึงศตวรรษที่ 20 และ 21 การกลับมาของฮ่องกงสู่การปกครองของจีนในปี 1977 ก่อให้เกิดคลื่นอพยพขนาดใหญ่ของชาวจีนฮ่องกงไปอเมริกาเหนือ, ออสเตรเลีย และที่
== วัฒนธรรม ==
[[ไฟล์:Along the River During the Qingming Festival (detail of original).jpg|thumb|''ริมแม่น้ำในเทศกาลชิงหมิง'' เก็บภาพบรรยากาศการใช้ชีวิตของผู้คนจากยุคซ่งในเมืองหลวง เบียนจิง, เมืองไคฟงในทุกวันนี้]]
จีนเป็นหนึ่งในอารยธรรมที่เก่าแก่และซับซ้อนที่สุดของโลก วัฒนธรรมจีนย้อนกลับไปได้นับ
ซึ่งเล่าปรัมปราถึงหัวหน้าชนเผ่าอาวุโส จักรพรรดิเหลืองและจักรพรรดิยันเมื่อหลายพันปีก่อน ดังนั้นชาวฮั่นบางส่วนจึงเรียกตนเองว่า "ลูกหลานของจักรพรรดิเหลืองและเหยียน" วลีที่มีความหมายโดยนัยสะท้อนบรรยากาศการเมืองที่แตกแยกดังในจีนแผ่นดินใหญ่และไต้หวัน
ตลอดประวัติศาสตร์ของจีน วัฒนธรรมของจีนได้รับอิทธิพลอย่างใหญ่หลวงจากลัทธิขงจื้อ ซึ่งได้สร้างรูปแบบความคิดแบบจีนมากมาย ลัทธิขงจื้อเป็นหลักปรัชญาอย่างเป็นทางการตลอดช่วงประวัติศาสตร์ส่วนใหญ่ของจีนยุคจักรวรรดิ ความรอบรู้ในหลักคำสอนของขงจื้อคือหลักเกณฑ์อันแรกสำหรับการสอบเข้ารับราชการ
บรรทัด 215:
=== ภาษา ===
[[ไฟล์:Map of sinitic languages full-th.svg|alt=|thumb|295x295px|แผนที่แสดงพื้นที่ที่มีกลุ่มชาวฮั่นที่พูดสำเนียงภาษาจีนท้องถิ่นต่าง ๆ ใน[[ประเทศจีน]]]]
ชาวจีนพูดภาษาหลากหลายแบบ หนึ่งในชื่อของกลุ่มภาษานั้นคือ "ฮั่นอวี่" หมายถึงภาษาฮั่น (อวี่ แปลว่า ภาษา) ในทำนองเดียวกันอักษรจีนที่ใช้เขียนภาษาเรียกว่า "ฮั่นจื่อ" หรืออักษรฮั่น (จื่อ แปลว่าตัวหนังสือ)ในขณะที่มีภาษาถิ่นอยู่มากมายแต่ภาษาเขียนมีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันอย่างมาก ความเป็นเอกภาพนี้ต้องยกให้ราชวงศ์ฉินซึ่งได้สร้างมาตรฐานให้กับรูปแบบการเขียนอันหลากหลายของจีนในยุคนั้น เป็นเวลานับ
ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ภาษาเขียนมาตรฐาน หรือ ภาษาเขียนสมัยใหม่ (Written Vernacular Chinese) ที่มีรากฐานจากภาษาฮั่นปักกิ่งซึ่งได้พัฒนาขึ้นสองสามร้อยปีมาแล้ว ถูกทำให้เป็นมาตรฐานและรับเข้ามาใช้เพื่อแทนที่ภาษาเขียนโบราณ ในขณะที่รูปแบบการเขียนสมัยใหม่ในภาษาจีน
ต้นทศวรรษที่ 1950 อักษรฮั่นตัวย่อถูกรับเข้ามาใช้ในจีนแผ่นดินใหญ่และต่อมาในสิงคโปร์ ในขณะที่ชุมชนชาวจีน
===การแบ่งภาษาตามท้องถิ่น===
บรรทัด 231:
=== การแต่งกาย ===
[[File:Traditional chinese wedding 002.jpg|250px|thumb|พิธีแต่งงานแบบชาวฮั่น]]
ทุกวันนี้ชาวฮั่นทั่วไปสวมใส่เสื้อผ้าตามแบบตะวันตก ส่วนน้อยสวมใส่เสื้อผ้าแบบชาวฮั่นดั้งเดิมเป็นประจำ อย่างไรก็ตามชุดแบบจีนสงวนไว้สำหรับ เครื่องแต่งกายในศาสนาและพิธีการ ตัวอย่างเช่น พระในลัทธิเต๋าสวมใส่ชุดเดียวกับบัณฑิตในสมัยราชวงศ์ฮั่น ชุดพิธีการในญี่ปุ่นอย่างเช่นพระในลัทธิชินโตเหมือนมากกับชุดพิธีการในจีนในสมัยราชวงศ์ถัง ในปัจจุบันชุดจีนแบบดั้งเดิมที่นิยมมากที่สุดสวมใส่โดยหญิงสาวมากมายในโอกาส
<center>
<gallery mode="nolines" widths="190" heights="150">
บรรทัด 240:
</center>
=== ที่อยู่อาศัย ===
บ้านแบบฮั่นแตกต่างจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่ง ชาวฮั่นในปักกิ่งอาศัยรวมกันทั้งครอบครัวในบ้านหลังใหญ่ที่มีลักษณะสี่เหลี่ยม บ้านแบบนี้เรียกว่า 四合院 บ้านเหล่านี้มีสี่ห้องทางด้านหน้าได้แก่ ห้องรับแขก, ครัว, ห้องน้ำ และส่วนของคนรับใช้ ข้ามจากประตูคู่บานใหญ่คือส่วนสำหรับผู้สูงอายุในครอบครัว ส่วนนี้ประกอบด้วยสามห้อง ห้องกลางสำหรับสักการะแผ่นจารึก 4 แผ่นได้แก่ สวรรค์, โลกมนุษย์, บรรพบุรุษ และอาจารย์ มีสองห้องที่อยู่ติดทางด้านซ้ายและขวาเป็นห้องนอนสำหรับปู่ย่าตายาย ส่วนด้านตะวันออกของบ้านสำหรับลูกชายคนโตกับครอบครัว ในขณะที่ด้านตะวันตกสำหรับลูกชายคนรองกับครอบครัว แต่ละด้านมีเฉลียงบางบ้านมีห้องรับแสงแดดสร้างจากผ้ามีโครงเป็นไม้หรือไม้ไผ่
== "ฮั่น" แนวคิดที่เปลี่ยนไปมา ==
|