ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ลูเธอร์ แวนดรอส"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
บรรทัด 42:
 
===ศิลปินเดี่ยวและการประสบความสำเร็จ===
สังกัดอิปิค เรคคอร์ดส์ เซ็นสัญญากับ ลูเธอร์ แวนดรอส ในปี ค.ศ.1981 ซิงเกิลแรกและอัลบั้มชุดแรกชื่อ Never Too Much ทั้งสองชุดแวนดรอสรับเป็นโปรดิวเซอร์ เมื่อออกจำหน่ายอัลบั้มขายได้กว่าหนึ่งล้านก๊อบปี้ ส่วนในชาร์ทซิงเกิลติดอันดับ Top 20 ในอาร์แอนด์บีชาร์ต ลูเธอร์ แวนดรอส เริ่มเป็นที่รู้จักของแฟนเพลง ได้รับเชิญให้ไปเป็นศิลปินเปิดวงให้กับ[[โรเบอต้า แฟลค]] ร้องเพลง A House Is Not A Home ประพันธ์โดยนักประพันธ์ชื่อดัง [[เบิร์ต บัคคาราค]] กับ [[ฮัล เดวิด]] นักวิจารณ์เพลงหลายคนบอกว่าเพลงนี้ที่แวนดรอสถ่ายทอดอารมณ์ ความโดดเดี่ยวได้ดีกว่าศิลปินคนอื่นที่นำไปคัฟเวอร์ จากนั้นลูเธอร์ แวนดรอส ออกอัลบั้มอย่างต่อเนื่องชุด Forever For Always, For Love (1982) ชุด Busy Body(1983) และยังเป็นโปรดิวเซอร์ให้กับ[[ดิออน วอร์วิค]] ในซิงเกิล How Many Time Can We Say goodbye (1983) รวมถึงแวนดรอสได้ร่วมดูเอตกับดิออน วอร์วิคในเพลงนี้ด้วย จากนั้นตามด้วยอัลบั้มชุด I Fell In Love (1985) กับ Give Me The Reason (1986) ทั้งสองชุดได้รับความนิยมในอังกฤษเกินคาด ซิงเกิลฮิตที่ออกตามมา อาทิเช่นเพลง I Really Didn't Mean It กับ Stop To love ได้รับความนิยมติดอันดับ TOP 30 อันดับแรกในอังกฤษชาร์ทซิงเกิ้ลฝั่งอังกฤษ ส่วนอัลบั้ม Give Me The Reason ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิง[[รางวัลแกรมมี่]] ลูเธอร์ แวนดรอส กลายเป็นศิลปินยอดนิยมฉายาว่า "THE PAVAROTTI OF POP"
 
ปี ค.ศ. 1982 ไคลว์ เดวิส โปรดิวเซอร์ชื่อดังติดต่อให้ลูเธอร์ แวนดรอส มาเป็นโปรดิวเซอร์และช่วยเขียนเพลงให้กับอารีธา แฟรงกลิน เมื่อแวนดรอสได้รับการทาบทามให้มาช่วยศิลปินในดวงใจได้ทำเพลง "Jump To It" ซึ่งก็ติดชาร์ท Top 10 ในอเมริกา
 
ลูเธอร์ แวนดรอส ได้ออกอัลบั้มชุด Any Loveค.ศ. ในปี 1988 มีเพลงดังติดอันดับ 6 ในชาร์ทซิงเกิ้ลอย่าง Here And Now ขณะเดียวกันแวนดรอสเกิดปัญหาด้านสุขภาพ น้ำหนักตัวขึ้นลงระหว่าง 190 กับ 340 ปอนด์ อีกทั้งมีโรคเบาหวานเข้าแทรก สิ่งที่เกิดขึ้นไม่เคยล้มเลิกความตั้งใจในการปรากฏตัวต่อแฟนๆ ปี ค.ศ. 1989 คอนเสิร์ตที่[[สนามกีฬาเวมเบลย์]] ในอังกฤษ กับ[[เมดิสันสแควร์การ์เดน]]ในนิวยอร์ก บัตรจำหน่ายหมดทั้ง 4 รอบ จากนั้นออกอัลบั้มรวมฮิต The Best Of Luther Vandross...The Best Of Love มียอดขายแพลตินั่มสองแผ่น ส่วนซิงเกิลที่ออกตามมาได้รับความนิยมติด TOP 10 อาทิ Power Of Love / Lovepower (# 4), Don't Want To Be A Fool (# 9) รวมทั้ง The Best Things In Life Are Free(# 10) ที่ร้องกับ[[เจเน็ต แจ็กสัน‎]] ส่วนอัลบั้มชุด Power Of Love ได้รับรางวัลแกรมมี่สองรางวัล ช่วงนี้ลูเธอร์ แวนดรอส มีปัญหากับบริษัทโซนี่มิวสิก ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของอิปิคเรคคอร์ดส์ เริ่มจากปี ค.ศ. 1991 ที่แวนดรอสขอปลีกตัวออกแต่ยังติดสัญญา ขณะเดียวกันยังออกอัลบั้มกับอิปิค ที่ประสบความสำเร็จอีกชุดคือชุด Songs (1994) เป็นงานเพลงคัฟเวอร์ทั้งอัลบั้ม อัลบั้มขึ้นถึงอันดับหนึ่งในอังกฤษ อันดับห้าในอเมริกา แถมซิงเกิล Endless Love ที่ร้องดูเอตกับกับ[[มารายห์ แครี]] ได้รับความนิยมขึ้นถึงอันดับ 3 ทั้งในอเมริกาและอังกฤษ
 
กในปีในปี ค.ศ. 1998 สัญญากับโซนี่มิวสิลูเธอร์ ได้สิ้นสุดลง แวนดรอสได้เซ็นสัญญาเข้าอยู่กับสังกัดเวอร์จินเรคคอร์ดส์ ออกอัลบั้มอยู่ชุดหนึ่ง แต่ไม่ประสบความสำเร็จตามที่คาดหวัง แวนดรอสจึงย้ายมาอยู่กับสังกัด J Records ที่มี[[ไคลว์ เดวิส ]]เป็นเจ้าของ ออกอัลบั้มชุด Luther Vandross (2001) ขายได้กว่าหนึ่งล้านก๊อบปี้ ถัดมาในปี ค.ศ. 2002 ลูเธอร์ แวนดรอส กลับมาทัวร์อังกฤษอีกครั้ง บัตรการแสดงขายหมด
 
===ป่วยและการจากไป===