ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ประเทศฟิลิปปินส์"
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ป้ายระบุ: ทำกลับ |
Cuteystudio (คุย | ส่วนร่วม) ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 66:
| footnotes = * [[ภาษาเซบัวโน]] [[ภาษาอีโลกาโน]] [[ภาษาฮิลิไกนอน]] [[ภาษาบิโกล]] [[ภาษาวาไร-วาไร]] [[ภาษากาปัมปางัน]] [[ภาษาปางาซินัน]] [[ภาษากินาไรอา]] [[ภาษามาราเนา]] [[ภาษามากินดาเนา]] [[ภาษาตากาล็อก]] และ[[ภาษาเตาซุก]] เป็นภาษาทางการช่วยในภูมิภาคต่าง ๆ ส่วน[[ภาษาสเปน]]และ[[ภาษาอาหรับ]] ถือเป็นภาษาทางเลือก และพื้นฐานตามความสมัครใจ}}
'''ฟิลิปปินส์''' ({{lang-en|Philippines}}; {{lang-fil|Pilipinas}}) หรือชื่อทางการว่า '''สาธารณรัฐฟิลิปปินส์''' ({{lang-en|Republic of the Philippines}}; {{lang-fil|Republika ng Pilipinas}}) เป็น[[ประเทศที่เป็นเกาะ|ประเทศเอกราชที่เป็นหมู่เกาะ]]ในภูมิภาค[[เอเชียตะวันออกเฉียงใต้]] ตั้งอยู่ใน[[มหาสมุทรแปซิฟิก]]ตะวันตก ประกอบด้วยเกาะ 7,641 เกาะ<ref>{{cite news|url=http://cnnphilippines.com/videos/2016/02/20/More-islands-more-fun-in-PH.html|title=More islands, more fun in PH|publisher=''[[CNN Philippines]]''|date=February 20, 2016|accessdate=February 20, 2016}}</ref> ซึ่งจัดอยู่ในเขตภูมิศาสตร์ใหญ่ 3 เขตจากเหนือจรดใต้ ได้แก่ [[ลูซอน]]
ฟิลิปปินส์ตั้งอยู่ในแถบ[[วงแหวนไฟ]]และใกล้กับเส้นศูนย์สูตร ทำให้มีแนวโน้มสูงที่จะประสบภัยจากแผ่นดินไหวและไต้ฝุ่น แต่ก็ทำให้มีทั้งทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์และความหลากหลายทางชีวภาพอย่างยิ่งเช่นกัน ฟิลิปปินส์มีเนื้อที่ประมาณ 300,000 ตารางกิโลเมตร (115,831 ตารางไมล์)<ref>{{cite web|url=http://www.geoba.se/population.php?aw=world|title=Geoba.se: Gazetteer – The World – Top 100+ Countries by Area – Top 100+ By Country ()|work=geoba.se|accessdate=December 17, 2015}}</ref> และมีประชากรประมาณ 100 ล้านคน<ref>{{cite web|url=https://www.theguardian.com/world/2014/jul/27/philippines-chonalyn-baby-100m-population|title=Philippines joyous as baby Chonalyn's arrival means population hits 100m|work=the Guardian}}</ref><ref name="rappler.com">{{cite web|url=http://www.rappler.com/nation/64465-100-millionth-filipino-born|title=Philippine population officially hits 100 million|work=Rappler}}</ref> นับเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดเป็นอันดับที่ 8 ในเอเชีย และเป็น[[รายชื่อประเทศเรียงตามจำนวนประชากร|ประเทศที่มีประชากรมากที่สุดเป็นอันดับที่ 12 ของโลก]] นอกจากนี้ ณ ปี พ.ศ. 2556 ยังมีชาวฟิลิปปินส์อีกประมาณ 10 ล้านคนอาศัยอยู่ในต่างประเทศ<ref name="CFO2013">{{cite web|url=http://www.cfo.gov.ph/images/stories/pdf/StockEstimate2013.pdf|title=Stock Estimate of Filipinos Overseas As of December 2013|publisher=Philippine Overseas Employment Administration|accessdate=2015-09-19}}</ref> รวมแล้วถือเป็นกลุ่ม[[การพลัดถิ่น|คนพลัดถิ่น]]ที่ใหญ่ที่สุดกลุ่มหนึ่งของโลก ความหลากหลายทางชาติพันธุ์และวัฒนธรรมปรากฏให้เห็นตลอดทั้งหมู่เกาะ ในยุคก่อนประวัติศาสตร์ มนุษย์กลุ่มแรกที่เข้ามาตั้งรกรากในหมู่เกาะแห่งนี้คือ[[กลุ่มชนนิกรีโต]] ตามมาด้วย[[กลุ่มชนออสโตรนีเซียน]]ที่อพยพเข้ามาอย่างต่อเนื่อง<ref name="Dyen1965">{{cite journal |author=Isidore Dyen|authorlink=Isidore Dyen|title=A Lexicostatistical Classification of the Austronesian Languages|journal=Internationald Journal of American Linguistics, Memoir|year=1965|volume=19|pages=38–46}}</ref> มีการติดต่อแลกเปลี่ยนกับชาวจีน มลายู อินเดีย และอาหรับ จากนั้นก็เกิดนครรัฐทางทะเลขึ้นมาหลายแห่งภายใต้การปกครองของ[[ดาตู]]
[[เฟอร์ดินานด์ มาเจลลัน]] ได้มาขึ้นฝั่งที่[[เกาะโฮโมนโฮน]] (ใกล้กับ[[เกาะซามาร์]]) ในปี พ.ศ. 2063 (ค.ศ. 1521) นับเป็นจุดเริ่มต้นของยุคแห่งอิทธิพลและอำนาจของสเปน ในปี พ.ศ. 2085 (ค.ศ. 1542) นักสำรวจชาวสเปนชื่อ [[รุย โลเปซ เด บิยาโลโบส]] ได้ตั้งชื่อ[[เกาะซามาร์]]และ[[เกาะเลเต|เลเต]]รวมกันว่า "หมู่เกาะเฟลีเป" หรือ "อิสลัสฟิลิปินัส" ({{lang|es|''Islas Filipinas''}}) เพื่อเป็นเกียรติแด่[[พระเจ้าเฟลีเปที่ 2 แห่งสเปน|เจ้าชายเฟลีเปแห่งอัสตูเรียส]] (ต่อมา อิสลัสฟิลิปินัสได้กลายเป็นชื่อเรียกกลุ่มเกาะทั้งหมด) ในปี พ.ศ. 2108 (ค.ศ. 1565) [[มิเกล โลเปซ เด เลกัซปี]] ได้จัดตั้งนิคมสเปนแห่งแรกบน[[เกาะเซบู]]<ref>{{cite web |url=http://www.cebucitytour.com/about-cebu/history/ |title= History of Cebu |publisher= Cebu City Tour |accessdate=February 22, 2013}}</ref> ฟิลิปปินส์กลายเป็นส่วนหนึ่งของ[[จักรวรรดิสเปน]]เป็นเวลานานกว่า 300 ปี ส่งผลให้ศาสนาคริสต์นิกาย[[โรมันคาทอลิก]]กลายเป็นศาสนาหลักของผู้คนในหมู่เกาะ ในช่วงเวลานี้ มะนิลามีฐานะเป็นศูนย์กลางการบริหารของจักรวรรดิสเปนใน[[เอเชีย]] และยังเป็นศูนย์กลางทางทิศตะวันตกของการค้าข้ามมหาสมุทรแปซิฟิก โดยเชื่อมโยงเอเชียเข้ากับเมือง[[อากาปุลโก]]ใน[[ทวีปอเมริกา|อเมริกา]]ผ่านทาง[[เรือใบมะนิลา]]<ref name=Kane>{{cite book|last = Kane|first = Herb Kawainui|authorlink = Herb Kawainui Kane|editor = Bob Dye|chapter = The Manila Galleons|title = Hawaiʻ Chronicles: Island History from the Pages of Honolulu Magazine|volume = I|publisher = [[University of Hawaii Press]]|year = 1996|location = Honolulu|pages = 25–32|isbn = 0-8248-1829-6}}</ref>
บรรทัด 88:
=== ยุคอาณานิคมสเปน ===
[[เฟอร์ดินานด์ มาเจลลัน]] มาถึงหมู่เกาะฟิลิปปินส์ในปี ค.ศ. 1521 ([[พ.ศ. 2064]]) [[มีเกล โลเปซ เด เลกัซปี]] มาถึงฟิลิปปินส์ในปี ค.ศ. 1565 ([[พ.ศ. 2108]]) และตั้งชุมชน[[ชาวสเปน]]ขึ้น ซึ่งนำไปสู่การตั้งอาณานิคมในเวลาต่อมา หลังจากนั้น นักบวชศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกได้แปรศาสนาของชาวเกาะทั้งหมดให้หันมานับถือศาสนาคริสต์ ในช่วง 300 ปีนับจากนั้น กองทัพสเปนได้ต่อสู้กับเหตุการณ์กบฏต่าง ๆ มากมาย ทั้งจากชนพื้นเมืองและจากชาติอื่นที่พยายามเข้ามาครอบครองอาณานิคม ซึ่งได้แก่ [[สหราชอาณาจักร|อังกฤษ]] [[จีน]] [[ฮอลันดา]] [[ฝรั่งเศส]] [[ญี่ปุ่น]] และ[[โปรตุเกส]] สเปนสูญเสียไปมากที่สุดในช่วงที่อังกฤษเข้าครอบครองเมืองหลวงเป็นการชั่วคราวในช่วง[[สงครามเจ็ดปี]] (Seven Years' War) หมู่เกาะฟิลิปปินส์อยู่ใต้การปกครองของสเปนในฐานะอาณานิคมของ[[สเปนใหม่]] (New Spain) นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1565
=== รัฐอารักขาของสหรัฐอเมริกา ===
บรรทัด 107:
== การแบ่งเขตการปกครอง ==
ฟิลิปปินส์แบ่งเป็นหน่วยรัฐบาลท้องถิ่น (local government units, LGUs) โดยที่มีจังหวัดเป็นหน่วยหลัก ปัจจุบันมี '''81 จังหวัด (provinces) '''
ฟิลิปปินส์แบ่งออกเป็น '''17 เขต (regions)
หน่วยงานของรัฐบาลส่วนใหญ่จะตั้งสำนักงานในแต่ละภูมิภาค เพื่อรับใช้ประชาชนในจังหวัดที่อยู่ในภูมิภาคนั้น ๆ ภูมิภาคไม่มีรัฐบาลท้องถิ่นแยกต่างหาก ยกเว้น[[เขตปกครองตนเองในมินดาเนามุสลิม]]และ[[เขตบริหารคอร์ดิลเลรา]]ซึ่งปกครองตนเอง ไม่ได้ให้ผู้อื่นปกครอง
บรรทัด 257:
=== ความหลากหลายทางชีวภาพ ===
[[ไฟล์:Bohol Tarsier.jpg|thumb|[[ทาร์เซียร์ฟิลิปปิน]] หนึ่งใน[[ไพรเมต]]ที่เล็กที่สุด]]
ป่าดิบชื้นและชายฝั่งทะเลที่กว้างขวางของฟิลิปปินส์ทำให้กลุ่มเกาะนี้เป็นแหล่งรวมนก พืช สัตว์ และสิ่งมีชีวิตในทะเลหลากชนิด<ref name="etravel">[http://www.etravelpilipinas.com/about_philippines/philippine_natural_resources.htm "Natural Resources and Environment in the Philippines"]. (n.d.). ''eTravel Pilipinas''. Retrieved January 22, 2009.</ref> ฟิลิปปินส์เป็นหนึ่งในสิบเจ็ดประเทศของโลกที่มีความหลากหลายทางชีวภาพอย่างยิ่ง (megadiverse country)<ref name=Chanco>{{cite news|url=http://gbgm-umc.org/asia-pacific/philippines/ecophil.html|archiveurl=https://web.archive.org/web/20010711225954/http://gbgm-umc.org/asia-pacific/philippines/ecophil.html|archivedate=2001-07-11 |author=Chanco, Boo. |title=The Philippines Environment: A Warning |newspaper=The Philippine Star |date=December 7, 1998}} Retrieved February 15, 2010 from gbgm-umc.org.</ref><ref name="AUSGOP">{{Cite journal|url=http://www.environment.gov.au/soe/2001/publications/theme-reports/biodiversity/biodiversity01-3.html|archiveurl=https://web.archive.org/web/20070514125559/http://www.environment.gov.au/soe/2001/publications/theme-reports/biodiversity/biodiversity01-3.html|archivedate=May 14, 2007|title=Biodiversity Theme Report: The Meaning, Significance and Implications of Biodiversity (continued)|author = Williams, Jann|author2 = Cassia Read|author3 = Tony Norton|author4 = Steve Dovers|author5 = Mark Burgman|author6 = Wendy Proctor|author7 = Heather Anderson|last-author-amp = yes|publisher=CSIRO on behalf of the Australian Government Department of the Environment and Heritage|year=2001|isbn=0-643-06749-3|accessdate=November 6, 2009}}</ref><ref name="Carpenter">{{cite journal|author1=Carpenter, Kent E. |author2=Victor G. Springer |lastauthoramp=yes |title=The center of the center of marine shore fish biodiversity: the Philippine Islands|journal=Environmental Biology of Fishes|publisher=Springer Netherlands|date=April 2005|volume=74|issue=2|pages=467–480|doi=10.1007/s10641-004-3154-4}}</ref> เราสามารถพบสัตว์บกที่มีกระดูกสันหลังได้ถึงประมาณ 1,100 ชนิด ซึ่งรวมถึง[[สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม]]กว่า 100 ชนิด และนกกว่า 170 ชนิดที่คาดกันว่าไม่อาศัยอยู่ที่อื่น<ref name="lonelyplanet">{{Cite book|url=https://books.google.com/?id=aaUR07G0yAcC|title=Philippines|author1=Rowthorn, Chris |author2=Greg Bloom |lastauthoramp=yes |edition=9th|publisher=[[Lonely Planet]]|year=2006|page=[https://books.google.com/books?id=aaUR07G0yAcC&pg=PA52 52]|isbn=1-74104-289-5}}</ref> ฟิลิปปินส์เป็นประเทศที่มีอัตราการค้นพบสูงที่สุดประเทศหนึ่งในโลก โดยมีการค้นพบสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดใหม่ 16 ชนิดในช่วงสิบปีที่ผ่านมา ด้วยเหตุนี้ อัตราสิ่งมีชีวิตเฉพาะถิ่นของฟิลิปปินส์จึงเพิ่มสูงขึ้นและมีแนวโน้มที่จะเพิ่มต่อไป<ref>{{cite web|url=http://www.eoearth.org/article/Biological_diversity_in_the_Philippines |title=Biological diversity in the Philippines |publisher=Eoearth.org |accessdate=May 4, 2013}}</ref> ส่วนสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมพื้นถิ่นฟิลิปปินส์ได้แก่ [[อีเห็นข้างลาย]] (''Paradoxurus hermaphroditus'')
แม้ว่าบนหมู่เกาะฟิลิปปินส์จะไม่มีผู้ล่าเหยื่อเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดใหญ่ แต่ก็มี[[สัตว์เลื้อยคลาน]]ขนาดใหญ่อยู่บางชนิด เช่น [[วงศ์งูเหลือม|งูเหลือม]] [[งูเห่า]] รวมทั้ง[[จระเข้น้ำเค็ม]]ขนาดยักษ์ จระเข้น้ำเค็มในที่เลี้ยงตัวใหญ่ที่สุดในโลกมีชื่อว่า [[โลลอง]] ถูกจับได้ใน[[เกาะมินดาเนา]]ทางตอนใต้ของประเทศ<ref>{{cite web|title="Lolong" holds world record as largest croc in the world |url=http://www.pawb.gov.ph/index.php?option=com_content&view=article&id=480:lolong-holds-world-record-as-largest-croc-in-the-world&catid=22:news&Itemid=131 |archive-url=https://web.archive.org/web/20120126140938/http://www.pawb.gov.ph/index.php?option=com_content&view=article&id=480%3Alolong-holds-world-record-as-largest-croc-in-the-world&catid=22%3Anews&Itemid=131 |dead-url=yes |archive-date=January 26, 2012 |work=Protected Areas and Wildlife Bureau |accessdate=June 23, 2012 |date=November 17, 2011 |df= }}</ref><ref>{{cite web|last=Britton|first=Adam|title=Accurate length measurement for Lolong|url=http://crocodilian.blogspot.com.au/2011/11/accurate-length-measurement-for-lolong.html|work=Croc Blog|accessdate=June 23, 2012|date=November 12, 2011}}</ref>
บรรทัด 269:
=== ภูมิอากาศ ===
[[ไฟล์:Haiyan Nov 7 2013 1345Z.png|thumb|170px|upright|[[พายุไต้ฝุ่นไห่เยี่ยน|ไต้ฝุ่นไห่เยี่ยน]] (ในฟิลิปปินส์เรียกว่า ''โยลันดา'') ขณะมีกำลังแรงสูงสุด]]
ฟิลิปปินส์อยู่ในเขต[[ภูมิอากาศ]]ภาคพื้นสมุทรเขตร้อนซึ่งโดยปกติจะมีอากาศร้อนและชื้น มีฤดูกาล 3 ฤดูกาล ได้แก่ ''ตักอีนิต'' ({{lang|tl|''tag-init''}}) หรือ ''ตักอาเรา'' ({{lang|tl|''tag-araw''}}) ซึ่งเป็นฤดูร้อนหรือฤดูที่มีอากาศแห้งร้อนตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงเดือนพฤษภาคม
อุณหภูมิเฉลี่ยรายปีอยู่ที่ประมาณ 26.6 องศาเซลเซียส (79.9 องศาฟาเรนไฮต์)<ref name=climate>{{cite web|author = Philippine Atmospheric, Geophysical and Astronomical Services Administration |authorlink = Philippine Atmospheric, Geophysical and Astronomical Services Administration |url = http://kidlat.pagasa.dost.gov.ph/cab/cab.htm |archiveurl = https://web.archive.org/web/20100531021557/http://kidlat.pagasa.dost.gov.ph/cab/cab.htm |archivedate = May 31, 2010 |title = Climate of the Philippines |date = n.d. |accessdate = April 24, 2010}}</ref> ทั้งนี้ ทำเลที่ตั้งในแง่ละติจูดและลองจิจูดไม่ใช่ปัจจัยสำคัญในการพิจารณาอุณหภูมิ เพราะไม่ว่าจะอยู่เหนือสุด ใต้สุด ตะวันออกสุด หรือตะวันตกสุดของประเทศ อุณหภูมิที่ระดับน้ำทะเลก็มีแนวโน้มที่จะอยู่ในพิสัยเดียวกัน ระดับความสูงของพื้นที่มักจะส่งผลต่ออุณหภูมิมากกว่า อุณหภูมิเฉลี่ยรายปีของเมือง[[บากีโย]]ที่ระดับความสูง 1,500 เมตร (4,900 ฟุต) จากระดับน้ำทะเลคือ 18.3 องศาเซลเซียส (64.9 องศาฟาเรนไฮต์) ทำให้เมืองนี้เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมในฤดูร้อน<ref name=climate/>
บรรทัด 311:
{{บทความหลัก|การศึกษาในฟิลิปปินส์}}
*นโยบายทางการศึกษาในยุคที่เป็นอาณานิคมของสเปน
หลังจากที่ฟิลิปปินส์ตกเป็นอาณานิคมของสเปนอย่างเป็นทางการในปี ค.ศ. 1571 ระบบการศึกษาในฟิลิปปินส์ได้รับอิทธิพลจากนโยบายของจักรวรรดิสเปน สิ่งหนึ่งที่ถือเป็นเอกลักษณ์สำคัญในการเปลี่ยนแปลงของระบบการศึกษาในสมัยนั้น คือ ระบบการศึกษาแบบคาทอลิก โดยศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกมีบทบาทอย่างมากในการพัฒนาระบบการศึกษาทั้งในระดับโรงเรียนและมหาวิทยาลัยภายในฟิลิปปินส์ เพราะเป็นยุทธศาสตร์สำคัญของสเปนในการเผยแผ่คริสต์ศาสนานิกายโรมันคาทอลิกในฟิลิปปินส์
ปัจจัยที่ส่งผลให้ศาสนจักรโรมันคาทอลิกประสบความสำเร็จในการปฏิรูประบบการศึกษาในประเทศฟิลิปปินส์คือ ปัจจัยด้านการถือครองที่ดิน เหตุเพราะศาสนาโรมันคาทอลิกถือครองที่ดินเป็นจำนวนมากภายในฟิลิปปินส์ ซึ่งส่งผลให้นักบวชนิกายโรมันคาทอลิกมีอิทธิพลและมีอำนาจมากในการปฏิรูประบบการศึกษา และประสบความสำเร็จในการเผยแผ่ศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกภายในฟิลิปปินส์
เส้น 318 ⟶ 319:
ในการปฏิรูประบบการศึกษาภายในฟิลิปปินส์ภายใต้อาณานิคมของสหรัฐ ยุทธศาสตร์สำคัญของสหรัฐ คือ ความพยายามที่จะทำให้ชาวฟิลิปปินส์มีความเป็นอเมริกันมากขึ้น (Americanization) ผ่านนโยบายการศึกษาที่ถูกคิดค้นขึ้นโดยชาวอเมริกัน
ตลอดระยะเวลาที่สหรัฐปกครองฟิลิปปินส์ มีการสนับสนุนให้ใช้ภาษาอังกฤษมากขึ้น เพื่อลดบทบาทการใช้ภาษาท้องถิ่น โดยกว่า 5 ทศวรรษของระบบการศึกษาแบบอเมริกัน นักเรียนฟิลิปปินส์ต้องศึกษาบทประพันธ์ของกวีตะวันตกชื่อดังมากมาย อาทิ วิลเลี่ยม เชคสเปียร์ เป็นต้น ส่งผลทำให้ชาวฟิลิปปินส์ให้ความสนใจกับวรรณคดีท้องถิ่นน้อยลง และใช้ภาษาอังกฤษในชั้นเรียนและในชีวิตประจำวันมากขึ้น
ถึงแม้ว่าสหรัฐ พยายามสอดแทรกวรรณกรรมตะวันตกในชีวิตประจำวันของชาวฟิลิปปินส์ แต่เมื่อเทียบกับยุคที่สเปนปกครองฟิลิปปินส์ก่อนหน้านั้น ถือได้ว่าชาวฟิลิปปินส์มีเสรีภาพในการแสดงผลงานด้านบทประพันธ์ กลอน และวารสาร
อย่างไรก็ตาม ผลงานวรรณกรรมของชาวฟิลิปปินส์กลับไม่ได้รับการบรรจุในวิชาภาษาและวรรณคดีในชั้นเรียนเท่าที่ควร ซึ่งส่งผลทำให้ระบบการศึกษาแบบอเมริกันแตกต่างจากระบบการศึกษาในยุคที่เป็นอาณานิคมของสเปนโดยสิ้นเชิง นั่นคือ ชาวฟิลิปปินส์ในยุคที่ถูกปกครองโดยสหรัฐ ไม่มีโอกาสได้เรียนภาษาประจำชาติของตัวเอง เพราะภาษาท้องถิ่นถูกใช้เป็นเพียงตัวช่วยในการเรียนการสอนในวิชาต่างๆ เท่านั้น อีกทั้งสหรัฐยังผูกขาดการใช้ภาษาอังกฤษในระบบการศึกษา จวบจน ค.ศ. 1940 ภายหลังจากที่ญี่ปุ่นเข้ายึดครองฟิลิปปินส์ในสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ญี่ปุ่นไม่ได้มีบทบาทในการพัฒนาการศึกษาภายในประเทศฟิลิปปินส์
|