ผลต่างระหว่างรุ่นของ "หุย"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
copyvio http://topicstock.pantip.com/religious/topicstock/2006/09/Y4743470/Y4743470.html
Waniosa Amedestir (คุย | ส่วนร่วม)
→‎ประวัติ: แก้คำและเพิ่มบางส่วน
ป้ายระบุ: เครื่องมือแก้ไขต้นฉบับปี 2560
บรรทัด 11:
 
== ประวัติ ==
'''ชาวหุย''' สืบเชื้อสายมาจากมุสลิม[[เปอร์เซีย|ชาวเปอร์เซีย]] [[อาหรับ]] และ[[เอเชียกลาง]] ที่อพยพเข้ามาใน[[จักรวรรดิจีน]]ในฐานะทูตการเมือง ทหาร และพ่อค้า ตั้งแต่ศตวรรษที่ 8 บรรพบุรุษของชาวหุยจึงมีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจของจีน โดยเฉพาะบนเส้นทางสายไหมในภาคตะวันตกเฉียงเหนือ และเมืองท่าแถบชายฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของจีน พ่อค้ามุสลิมนำสินค้ามีค่า เทคโนโลยีใหม่ และความมั่งคั่งสู่จักรวรรดิจีน เช่น เครื่องเทศ งาช้าง เพชรนิลจินดา พวกเขายังเผยแพร่เทคโนโลยีที่ก้าวหน้า ความรู้ด้าน[[ดาราศาสตร์]] และการแพทย์สู่สังคมจีน<ref>[http://www.chinesemuslimthailand.com/ Chinese Muslim Thai Hui Islam]</ref> ถึงแม้ว่าทางราชสำนักจีนได้จำกัดการค้าและการตั้งบ้านเรือนของชาวมุสลิมไว้ในจัตุรัสชาวต่างชาติเท่านั้น แต่ก็อนุญาตให้พ่อค้ามุสลิมแต่งกายได้อย่างอิสระ รับประทานอาหารและปฏิบัติศาสนกิจได้อย่างเสรี พ่อค้ามุสลิมจำนวนมากยึดประเทศจีนเป็นสถานที่ค้าขายและเริ่มก่อร่างสร้างครอบครัวที่นี่ พวกเขาจำนวนมากหัดพูดภาษาจีนและตั้งถิ่นฐานในประเทศจีนอย่างถาวร พ่อค้าบางคนแต่งงานกับสาวชาวฮั่นที่เปลี่ยนมารับอิสลาม ลูกหลานที่สืบเชื้อสายต่อมาจากพวกเขาจึงพูด[[ภาษาจีน]] และได้วางรากฐานชุมชนจีนมุสลิมที่กระจัดกระจายออกไปทั่วประเทศจีน
 
หลายศตวรรษผ่านไป ชาวมุสลิมถูกกลืนเข้าไปในสังคมจีน หลังจีนเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นระบอบคอมมิวนิสต์ รัฐบาลได้แบ่งมุสลิมออกเป็น 10 เชื้อชาติ กลุ่มที่ใหญ่ที่สุดคือ ชาวหุย ซึ่งต่างจากต่างจากชนกลุ่มน้อยอื่น ๆ ตรงที่ไม่มีภาษาเป็นของตัวเอง ชาวหุยพูดภาษาจีนกลางของชาวฮั่น พวกเขาเหมือนกับชนกลุ่มน้อยมุสลิมกลุ่มอื่น ๆ ตรงที่นับถืออิสลามเท่านั้น<ref>[http://www.chinesemuslimthailand.com/content.php?page=content&category=&subcategory=5&id=371 ชาวหุยคือใคร? Who are the Hui?]</ref>
แม้ราชสำนักจีนได้จำกัดการค้าและการตั้งบ้านเรือนของชาวมุสลิมไว้ในจัตุรัสชาวต่างชาติเท่านั้น แต่ก็อนุญาตให้พ่อค้ามุสลิมแต่งกายได้อย่างอิสระ รับประทานอาหารและปฏิบัติศาสนกิจได้อย่างเสรี พ่อค้ามุสลิมจำนวนมากยึดประเทศจีนเป็นสถานที่ค้าขายและเริ่มก่อร่างสร้างครอบครัวที่นี่ พวกเขาจำนวนมากหัดพูดภาษาจีนและตั้งถิ่นฐานในประเทศจีนอย่างถาวร พ่อค้าบางคนแต่งงานกับสาวชาวฮั่นที่เปลี่ยนมารับอิสลาม ลูกหลานที่สืบเชื้อสายต่อมาจากพวกเขาจึงพูด[[ภาษาจีน]] และได้วางรากฐานชุมชนจีนมุสลิมที่กระจัดกระจายออกไปทั่วประเทศจีน
 
หลายศตวรรษผ่านไป ชาวมุสลิมถูกกลืนเข้าไปในสังคมจีน หลังจีนเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นระบอบคอมมิวนิสต์ รัฐบาลได้แบ่งมุสลิมออกเป็น 10 เชื้อชาติ กลุ่มที่ใหญ่ที่สุดคือ ชาวหุย ซึ่งต่างจากต่างจากชนกลุ่มน้อยอื่น ๆ ตรงที่ไม่มีภาษาเป็นของตัวเอง ชาวหุยพูดภาษาจีนกลางของชาวฮั่น พวกเขาเหมือนกับชนกลุ่มน้อยมุสลิมกลุ่มอื่น ๆ ตรงที่นับถืออิสลามเท่านั้น<ref>[http://www.chinesemuslimthailand.com/content.php?page=content&category=&subcategory=5&id=371 ชาวหุยคือใคร? Who are the Hui?]</ref>
 
ชาวหุยมักถูกมองในเรื่องของความไม่เคร่งครัดเกี่ยวกับพิธีการทางศาสนา [[อิมาม|อิหม่ามหญิง]] หรือ ''อะฮง'' มีให้เห็นเป็นจำนวนมากใน[[เขตปกครองตนเองหนิงเซี่ยหุย]] ชาวหุยเริ่มให้ความสำคัญเกี่ยวกับการแต่งกายแบบอิสลามมากขึ้นทั้งชายและหญิง แต่อย่างไรก็ตามในประเทศจีนได้ห้ามมิให้อิหม่ามจากต่างประเทศเข้ามาสอนศาสนาเพื่อความมั่นคงของรัฐ<ref>[http://www.chinesemuslimthailand.com/content.php?page=content&category=&subcategory=54&id=704 การค้าช่วยฟื้นฟูอิสลามในหนิงเซี่ย]</ref><ref>[http://www.csmonitor.com/World/Asia-Pacific/2008/0916/p06s04-woap.html?page=1 Chinese Muslims join global Islamic market]</ref>
เข้าถึงจาก "https://th.wikipedia.org/wiki/หุย"