ผลต่างระหว่างรุ่นของ "โรคพิษสุนัขบ้า"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Horus (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Horus (คุย | ส่วนร่วม)
บรรทัด 97:
การรักษาหลังการสัมผัสสามารถป้องกันโรคได้ เมื่อให้อย่างทันท่วงทีภายใน 10 วันหลังจากรับเชื้อ<ref name=Sherris/> การล้างแผลส่วนน้ำและสบู่อย่างหมดจดทันทีเมื่อรับเชื้อ (ภายใน 5 นาที) ก็มีส่วนช่วยในการลดจำนวนอนุภาคไวรัสได้<ref>{{cite web |url=http://www.health.vic.gov.au/ideas/bluebook/rabies_info |title=Rabies & Australian bat lyssavirus information sheet |publisher=Health.vic.gov.au |accessdate=2012-01-30 |deadurl=yes |archiveurl=https://web.archive.org/web/20110818081218/http://www.health.vic.gov.au/ideas/bluebook/rabies_info |archivedate=2011-08-18 |df= }}</ref> และยังสามารถลดจำนวนเชื้อได้อีกด้วยการใช้โพวิโดนไอโอดีนหรือแอลกอฮอล์ในการทำแผล<ref>{{cite web |author1=National Center for Disease Control |title=National Guidelines on Rabies Prophylaxis |url=http://nicd.nic.in/Rabies_guidelines2014.pdf |accessdate=5 September 2014 |format=pdf |year=2014 |deadurl=yes |archiveurl=https://web.archive.org/web/20140905235321/http://nicd.nic.in/Rabies_guidelines2014.pdf |archivedate=5 September 2014 |df= }}</ref>
 
ในประเทศไทย สถานเสาวภา สภากาชาดไทย แนะนำให้ผู้ป่วยสัมผัสโรคระดับ 3 ของ[[องค์การอนามัยโลก]]ได้รับอิมมูโนโกลบูลินโรคพิษสุนัขบ้า (rabies immunoglobulin) 1 ขนาด และ[[วัคซีนโรคพิษสุนัขบ้า]] 4–5 เข็ม โดยขนาดอิมมูโนโกลบูลินไม่ควรเกิน 20 หน่วยต่อน้ำหนักตัวหนึ่งกิโลกรัม ควรฉีดอิมมูโนโกลบูลินรอบแผลให้มากที่สุด และที่เหลือฉีดในชั้นกล้ามเนื้อ ณ จุดที่อยู่ไกลจากจุดฉีดวัคซีน ส่วนการสัมผัสโรคระดับ 1 และ 2 ไม่จำเป็นต้องได้รับอิมมูโนโกลบูลิน<ref name="เสาวภา">[http://saovabha.redcross.or.th/download/2559/thailand%20Rabies-Free/QsmiGuidline2016.pdf แนวทางการให้การดูแลรักษาผู้ป่วยสัมผัสโรคพิษสุนัขบ้า (พ.ศ. 2559)] สถานเสาวภา สภากาชาดไทย สืบค้นเมื่อ 17-3-61</ref>
 
วัคซีนโรคพิษสุนัขบ้าเข็มแรกควรให้โดยเร็วที่สุด ในกรณีของการฉีดใต้หนัง เข็มถัดมาจะฉีดในวันที่ 3, 7 และ 28 หลังฉีดวันแรก รวม 4 เข็ม และในกรณีของการฉีดเข้ากล้ามเนื้อ เข็มถัดมาจะฉีดในวันที่ 3, 7, 14 และ 28 รวม 5 เข็ม แพทย์อาจพิจารณาไม่ฉีดวัคซีนจนครบกรณีที่สามารถสังเกตอาการของสัตว์ได้ ส่วนผู้ป่วยที่เคยได้รับวัคซีนอย่างน้อย 3 เข็ม (วันที่ 0, 3 และ 7) แล้วก่อนสัมผัสโรคครั้งนี้ ไม่ต้องได้รับอิมมูโนโกลบูลิน โดยจะฉีดวัคซีนกระตุ้นในวันที่ 0 และ 3 (รวม 2 เข็ม) เท่านั้น หรือเข็มเดียวกรณีที่เคยฉีดเข็มสุดท้ายไม่เกิน 6 เดือน<ref name="เสาวภา"/>
บรรทัด 103:
อาการปวดและผลข้างเคียงของวัคซีนมีเซลล์สมัยใหม่จะคล้ายกับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ การฉีดวัคซีนเข้ากล้ามเนื้อควรฉีดเข้าต้นแขน ไม่ควรฉีดเข้าบริเวณแก้มก้น ในทารกแนะนำให้ฉีดเข้าด้านข้างของต้นขา<ref>{{cite web|url=http://www.who.int/ith/vaccines/rabies/en/ |title=Rabies |author= |website=www.who.int |publisher=[[World Health Organization]] |accessdate=1 February 2015 |deadurl=no |archiveurl=https://web.archive.org/web/20150215014809/http://www.who.int/ith/vaccines/rabies/en/ |archivedate=15 February 2015 |df= }}</ref>
 
ในสหรัฐ [[ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค]]แนะนำว่า หากตื่นขึ้นมาพบค้างคาวอยู่ในห้อง หรือพบค้างคาวอยู่ในห้องกับเด็กที่ไม่มีผู้เฝ้า หรือบุคคลที่พิการทางจิตหรือมึนเมาเป็นข้อบ่งชี้สำหรับมาตรการป้องกันโรคหลังสัมผัส<ref>{{cite journal |vauthors=De Serres G, Skowronski DM, Mimault P, Ouakki M, Maranda-Aubut R, Duval B | title = Bats in the bedroom, bats in the belfry: Reanalysis of the rationale for rabies post-exposure prophylaxis | journal = Clin Infect Dis | volume = 48 | issue = 11 | pages = 1493–9 | year = 2009 | pmid = 19400689 | doi = 10.1086/598998 }}</ref>
 
หากเริ่มต้นอย่างรวดเร็ว มาตรการป้องกันโรคหลังสัมผัสมีผลป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า 100%<ref name="Lite2009"/> ในกรณีที่ให้มาตรการป้องกันโรคหลังสัมผัสช้าอย่างสำคัญ ยังควรให้การรักษาอยู่เพราะอาจได้ผล มีบุคคลกว่า 15 ล้านคนได้รับวัคซีนหลังการสัมผัส แม้จะได้ผลดี แต่ก็มีราคาแพงมาก<ref>{{Cite web|url=http://www.who.int/neglected_diseases/news/human_rabies_better_coordination_and_emerging_technology/en/ |title=Human rabies: better coordination and emerging technology to improve access to vaccines |website=World Health Organization |language=en-GB |access-date=2017-02-23 |deadurl=no |archiveurl=https://web.archive.org/web/20170224131644/http://www.who.int/neglected_diseases/news/human_rabies_better_coordination_and_emerging_technology/en/ |archivedate=2017-02-24 |df= }}</ref>