ผลต่างระหว่างรุ่นของ "อำเภอท่าตูม"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Potapt (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 22:
ชุมชนอำเภอท่าตูมเป็นชุมชนเก่าแก่ดั้งเดิมตั้งแต่ปลายสมัยเจนละ (ยุคศตวรรษที่ 12-13) ที่มีการปกครองที่อิสานปุระ (สุรินทร์) เมื่อสมัยของพระเจ้าชัยวรมันที่ 2 ประกาศลัทธิเทวราชาและสถาปนาอาณาจักรอังกอร์ ได้มีการแผ่ขยายการปกครองออกไปอย่างกว้างขวาง การนับถือเทวนิยมดังกล่าว จะมีการสร้างเทวสถานในการประกอบพิธี และปราสาทที่พำนักของผู้แสวงบุญทั่วไป ในการไปมาหาสู่ระหว่างเมืองสำคัญต่าง ๆ ในสมัยนั้นจะติดต่อกันทั้งในทางบกและทางน้ำซึ่งเป็นไปในรูปแบบของการส่งส่วย การส่งเครื่องราชบรรณาการ การแลกเปลี่ยนผลิตผลการค้าขาย ตลอดจนการยกกองทัพไปรบ การติดต่อระหว่างเมืองในแดนอีสานตอนล่าง จึงเป็นทางเรือเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งในการล่องเรือดังกล่าวตามแม่น้ำนั้นจะมีการติดต่อทางด้านนครจำปาศักดิ์ ปากเซ และฝั่งแม่น้ำโขง (เจนละบก) และทางด้านนครธม นครวัด กำปงจาม กำปงฉนังมาตามลำน้ำ เพื่อติดต่อเมืองพิมาย
 
จากการเดินทางรอนแรมมาถึงที่ตั้งบริเวณอำเภอท่าตูมในปัจจุบัน คณะเดินทางได้มาตั้งค่ายพักแรมที่บริเวณริมฝั่งที่มีต้นมะม่วงใหญ่ จึงได้ตั้งค่ายพักแรมและสร้างเป็นที่พักชั่วคราว และเรียกที่พักแรมนี้ว่า "กำปงสวาย" (ท่ามะม่วง) ชุมชนกำปงสวายได้ดำรงอยู่เรื่อยมาแม้ว่าเมื่ออาณาจักรเจนละและขอมโบราณจะเสื่อมอำนาจลง จนเมื่อสมัยรัชกาลที่ 2 และรัชกาลที่ 3 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ได้มีการรบพุ่งกันระหว่างไทยกับกัมพูชาอีก ไทยได้อพยพชาวกัมพูชาบางส่วนเข้ามาในประเทศไทย ชาวกัมพูชาที่มีเชื้อสายเดิมก็ได้อพยพมาอยู่ในชุมชนกำปงสวายนี้ ได้เปลี่ยนมาเป็น "พงสวาย" ในปัจจุบัน (หมู่ที่ 13 ตำบลท่าตูม) ประมาณปี พ.ศ. 2330 อำเภอท่าตูมได้มีการอพยพมาบริเวณปากน้ำมูลและชี มาบรรจบกันโดยชาวกูย (ส่วย) ซึ่งอพยพมาจากแคว้นจำปาสักจำปาศักดิ์เป็นพวกที่รักสงบ รักธรรมชาติ มีความชำนาญในการเลี้ยงช้างและการเกษตร เห็นว่าบริเวณดังกล่าวมีต้นโพธิ์ ซึ่งเป็นอาหารของช้างมาก มีทำเลเลี้ยงช้างเหมาะสม จึงได้อพยพมาอาศัยอยู่บริเวณนั้น และเรียกบริเวณนั้นว่า "กระโพ" (ตำบลกระโพในปัจจุบัน)
 
ในสมัยรัชกาลที่ 5 บริเวณอำเภอท่าตูมได้ยกขึ้นเป็น '''อำเภอสุรพิน''' และขึ้นอยู่กับเจ้าเมืองขุขันธ์ ปี พ.ศ. 2452 ทางราชการเห็นว่าอำเภอสุรพินอยู่ห่างจากเมืองขุขันธ์เป็นระยะทางไกลมาก สร้างความลำบากให้แก่ข้าราชการและราษฎรไปติดต่อราชการ จึงได้พิจารณาให้อำเภอสุรพินมาขึ้นต่อเจ้าเมืองสุรินทร์ และเปลี่ยนชื่อเป็น '''อำเภออุดรสุรินทร์''' ในปี พ.ศ. 2454 ครั้งแรกให้ขึ้นอยู่กับอำเภอเมืองสุรินทร์ มีหลวงแพ่งเป็นนายอำเภอคนแรก ต่อมาปี พ.ศ. 2456 ได้มีการตั้งอำเภออุดรสุรินทร์บริเวณริมฝั่งแม่น้ำมูล บ้านกำปงสวาย แล้วเสร็จเมื่อ พ.ศ. 2465 ขุนสุรสิทธิ์ สาราการ (พิน จรัณยานนท์) ได้รับแต่งตั้งให้เป็นนายอำเภอคนแรก เมื่อเทศาภิบาลได้ตรวจงานอำเภอและชมทิวทัศน์ในแม่น้ำที่แพหน้าที่ว่าการได้พลาดตกลงน้ำเสียงดังตูม ชาวบ้านจึงเรียกท่าแห่งนั้นว่า "ท่าตูม" และเนื่องจากท่าแห่งนั้นเป็นที่ตั้งอำเภอด้วย จึงเรียกที่ว่าการอำเภอท่าตูมมาจนติดปาก