ผลต่างระหว่างรุ่นของ "รูด็อล์ฟ เฮ็ส"
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 1:
[[ไฟล์:Bundesarchiv Bild 146II-849, Rudolf Heß.jpg|thumb|200px|รูดอล์ฟ เฮสส์ เมื่อปี 1933]]
'''รูดอล์ฟ
เฮสส์สมัครเข้าเป็นทหารในกรมทหารปืนใหญ่สนามบาวาเรียที่ 7
ในฤดูใบไม้ร่วงปี 1919 เฮสส์
▲'''รูดอล์ฟ วอลเตอร์ ริชารด์ เฮสส์''' (26 เมษายน 1894 - 17 สิงหาคม 1987) เป็นนักการเมือง[[พรรคนาซี]]คนสำคัญ ได้รับตำแหน่งรักษาการฟือเรอร์ในปี 1933 เขาได้ทำงานในตำแหน่งนี้จนกระทั่งปี 1941 เมื่อเขาบินเดี่ยวไปประเทศสก็อตแลนด์โดยตั้งใจจะไปเจรจาสันติภาพกับสหราชอาณาจักร แต่เขาถูกจับเป็นนักโทษ เมื่อสงครามยุติเขาถูกตันสินโทษจำคุกตลอดชีวิต
เมื่อนาซียึดอำนาจในปี 1933 เฮสส์ได้รับแต่งตั้งเป็นรองฟือเรอร์ของพรรคนาซีและได้รับตำแหน่งในคณะรัฐมนตรีของฮิตเลอร์ เขาเป็นผู้ทรงอำนาจสูงสุดอันดับสามในประเทศเยอรมนี รองแต่เพียงฮิตเลอร์และ[[แฮร์มันน์ เกอริง]] นอกเหนือจากการปรากฏตัวแทนฮิตเลอร์ในการปราศรัยและชุมนุม เฮสส์ลงนามผ่านกฎหมายหลายฉบับซึ่งรวม[[กฎหมายเนือร์นแบร์ก]]ปี 1935 ซึ่งถอดสิทธิของชาวยิวในประพเทศเยอรมนีนำไปสู่[[ฮอโลคอสต์]]
▲เฮสส์สมัครเป็นทหารในกรมทหารปืนใหญ่บาวาเรียที่7 โดยเป็นทหารราบเมื่อเริ่มสงครามโลกครั้งที่1 เขาได้รับบาดเจ็บหลายครั้งระหว่างสงคราม และได้รับเหรียญกล้าหาญกางแขนเหล็กชั้นที่2ในปี 1945 เมื่อช่วงท้ายสงครามเขาได้สมัครเป็นนักบิน แต่ไม่มีโอกาสได้ออกรบจนกระทั่งจบสงคราม เขาออกจากกองทัพในปี 1918 โดยมียศร้อยโท
▲ในฤดูใบไม้ร่วงปี 1919 เฮสส์ เขาเรียนในมหาวิทยาลัยเมืองมิวนิค ที่ซึ่งเขาได้ศึกษาวิชาภูมิศาสตร์การเมืองกับศาสตราจารย์ คารล์ เฮาส์โฮเฟอร์ ผู้เสนอแนวคิดพื้นที่ชีวิต ซึ่งต่อมาได้เป็นหนึ่งในอุดมการณ์หลักสำคัญของพรรคนาซี เฮสส์ได้เข้าร่วมพรรคนาซีเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 1920 เขาได้เข้าร่วมในความล้มเหลวของเหตุการณ์[[กบฏโรงเบียร์]]ซึ่งคือเหตุการณ์ที่[[อดอล์ฟ ฮิตเลอร์]] และพรรคนาซีพยายามยึดอำนาจรัฐบาลบาวาเรีย ขณะที่รับโทษในเรือนจำเขาได้มีส่วนช่วยฮิตเลอร์ในการเขียนหนังสือเรื่องการต่อสู้ของข้าพเจ้า([[ไมน์คัมพฟ์]]) ซึ่งต่อมาได้เป็นรากฐานสำคัญของพรรคนาซี
เมื่อพรรคนาซีขึ้นสู่อำนาจในปี 1933 เฮสส์ได้รับตำแหน่งรักษาการฟือเรอร์และได้เข้าร่วมคณะรัฐบาลของฮิตเลอร์ เขาเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดอันดับ3ในเยอรมัน รองจากอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ และ [[แฮร์มันน์ เกอริง]] นอกเหนือจากนั้นยังได้ปรากฏตัวในนามของฮิตเลอร์ในการโต้วาทีและการชุมนุม เขาได้ลงนามในการออกหลายกฏหมาย รวมทั้งกฏหมายนูเรมเบิร์ก เมื่อปี 1935 ซึ่งนำไปสู่ การริดรอนสิทธิ์ชาวยิวไปจนถึงการสังหารหมู่ชาวยิว
|