ผลต่างระหว่างรุ่นของ "หม่อมเจ้าสวาสดิ์วัฒโนดม ประวิตร"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Poompong1986 (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 1:
{{ความหมายอื่น||นักแสดงและนักพากย์|ดวงดาว จารุจินดา|ดวงดาว}}
{{กล่องข้อมูล นักเขียน
| name = หม่อมเจ้าหญิงสวาสดิ์วัฒโนดม ประวิตร
| image = สวาสดิ์วัฒโนดม ประวิตร.jpg
| imagesize =
| caption =
| pseudonym = ดวงดาว, บังใบ
| birth_date = [[28 เมษายน]] [[พ.ศ. 2454]]
| birth_place =
| death_date = [[1 กันยายน]] [[พ.ศ. {{วันตายและอายุ|2544]] (90 ปี)|9|1|2454|4|28}}
| death_place =
| occupation = นักเขียน
| nationality =
| father = [[พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าประวิตรวัฒโนดม กรมหลวงปราจิณกิติบดี]]
| mother = หม่อมช้อย กัลยาณมิตรประวิตร ณ อยุธยา
| spouse =
| period =
บรรทัด 29:
}}
 
'''หม่อมเจ้าหญิงสวาสดิ์วัฒโนดม ประวิตร''' ([[28 เมษายน]] [[พ.ศ. 2454]] - [[1 กันยายน]] [[พ.ศ. 2544]] )<ref>{{อ้างหนังสือ
|ผู้แต่ง=ศุภวัฒย์ เกษมศรี, พลตรี หม่อมราชวงศ์, และรัชนี ทรัพย์วิจิตร
|ชื่อหนังสือ=พระอนุวงศ์ชั้นหม่อมเจ้าในพระราชวงศ์จักรี
บรรทัด 40:
|จำนวนหน้า=360
}}
</ref> เป็นนักเขียนชาวไทย มีผลงานที่มีชื่อเสียง อาทิ "ผยอง", "เชลยศักดิ์", "เคหาสน์สีแดง" และ "ม่านไฟ" เป็นต้น
</ref>) เป็นพระธิดาพระองค์ที่ 4 ใน[[พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าประวิตรวัฒโนดม กรมหลวงปราจิณกิติบดี]] และเป็นพระองค์ที่ 2 ในหม่อมช้อย กัลยาณมิตร <ref>{{อ้างหนังสือ
== พระประวัติ ==
</ref>)หม่อมเจ้าสวาสดิ์วัฒโนดม ประวิตร เป็นพระธิดาพระองค์ที่ 4 ใน[[พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าประวิตรวัฒโนดม กรมหลวงปราจิณกิติบดี]] และเป็นพระองค์ที่ 2 ในหม่อมช้อย กัลยาณมิตรประวิตร ณ อยุธยา (สกุลเดิม: กัลยาณมิตร)<ref>{{อ้างหนังสือ
|ผู้แต่ง=[[สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์]]
|ชื่อหนังสือ=จุฬาลงกรณราชสันตติวงศ์ พระนามพระราชโอรส พระราชธิดา และพระราชนัดดา
เส้น 51 ⟶ 54:
|จำนวนหน้า=136
}}
</ref> ( หม่อมมารดาเป็นธิดา เจ้าพระยาสุรสีห์วิศิษฐ์ศักดิ์ (เชย กัลยาณมิตร ) หม่อมเจ้าสวาสดิ์วัฒโนดมมีพระเชษฐา และ พระอนุชา ร่วมหม่อมมารดา ดังนี้คือ หม่อมเจ้าสีหวิลาศ และหม่อมเจ้ากวีวิศิษฐ์ ประวิตร
 
หม่อมเจ้าหญิงสวาสดิ์วัฒโนดมทรงเข้ารับการศึกษาชั้นต้นใน[[พระบรมมหาราชวัง]] ต่อมาทรงเข้าศึกษาที่[[โรงเรียนอัสสัมชัญ]] ภายหลัง พระบิดาทรงจ้างครูแหม่มมาสอนพิเศษ ณ วังราชสกุลประวิตร เชิงสะพานเทเวศน์ ( บริเวณที่เป็นปัจจุบันคือตลาดจันทร์ประวิตร ในปัจจุบัน ) พร้อมกับทรงศึกษาดนตรีจนมีความเชี่ยวชาญทั้งดนตรีไทยและดนตรีสากล และโปรดกีฬาทรงม้า
* หม่อมเจ้าชายสีหวิลาศ ประวิตร
* หม่อมเจ้าหญิงสวาสดิ์วัฒโนดม ประวิตร
* หม่อมเจ้าชายกวีวิศิษฐ์ ประวิตร
 
หม่อมเจ้าหญิงสวาสดิ์วัฒโนดมโปรดการอ่านหนังสือตั้งแต่ท่านยังทรงพระเยาว์ และเป็นแรงบันดาลใจให้นิพนธ์นิยายต่างๆต่าง ๆ ในเวลาต่อมา เมื่อพระชันษาได้ 17 ปี ทรงสนิทสนมกับ[[หม่อมเจ้าอากาศดำเกิง รพีพัฒน์]] (พระชันษา 23 ปี) พระโอรสใน[[พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์]] ซึ่งประทับอยู่ที่วังใกล้กัน หม่อมเจ้าอากาศดำเกิงทรงกราบทูลให้[[สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต]] ทรงสู่ขอหม่อมเจ้าหญิงสวาสดิ์วัฒโนดม เป็นพระชายา ต่อหม่อมช้อย <ref>{{อ้างหนังสือ
หม่อมเจ้าหญิงสวาสดิ์วัฒโนดมทรงเข้ารับการศึกษาชั้นต้นใน[[พระบรมมหาราชวัง]] ต่อมาทรงเข้าศึกษาที่[[โรงเรียนอัสสัมชัญ]] ภายหลัง พระบิดาทรงจ้างครูแหม่มมาสอนพิเศษ ณ วังราชสกุลประวิตร เชิงสะพานเทเวศน์ ( บริเวณที่เป็นตลาดจันทร์ประวิตร ในปัจจุบัน ) พร้อมกับทรงศึกษาดนตรีจนมีความเชี่ยวชาญทั้งดนตรีไทยและดนตรีสากล และโปรดกีฬาทรงม้า
 
หม่อมเจ้าหญิงสวาสดิ์วัฒโนดมโปรดการอ่านหนังสือตั้งแต่ท่านยังทรงพระเยาว์ และเป็นแรงบันดาลใจให้นิพนธ์นิยายต่างๆ ในเวลาต่อมา เมื่อพระชันษาได้ 17 ปี ทรงสนิทสนมกับ[[หม่อมเจ้าอากาศดำเกิง รพีพัฒน์]] (พระชันษา 23 ปี) พระโอรสใน[[พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์]] ซึ่งประทับอยู่ที่วังใกล้กัน หม่อมเจ้าอากาศดำเกิงทรงกราบทูลให้[[สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต]] ทรงสู่ขอหม่อมเจ้าหญิงสวาสดิ์วัฒโนดม เป็นพระชายา ต่อหม่อมช้อย <ref>{{อ้างหนังสือ
|ผู้แต่ง=พิมาน แจ่มจรัส
|ชื่อหนังสือ=รักในราชสำนัก
เส้น 70 ⟶ 69:
|จำนวนหน้า=448
}}
</ref> เมื่อ พ.ศ. 2471 แต่ทรงปฏิเสธเนื่องจากมิได้ทรงมีจิตปฏิพัทธ์ด้วย <ref>{{อ้างหนังสือ
|ผู้แต่ง=ประทีป เหมือนนิล
|ชื่อหนังสือ=100 นักประพันธ์ไทย
เส้น 82 ⟶ 81:
</ref>
 
== งานพระนิพนธ์ ==
หม่อมเจ้าหญิงสวาสดิ์วัฒโนดมทรงนิพนธ์นวนิยายเรื่องแรกเมื่อ พ.ศ. 2478 ขณะพระชันษาได้ 24 ปี โดยใช้นามปากกาว่า "ดวงดาว" โดยทรงให้เหตุผลว่า เพราะโปรดที่จะทอดพระเนตรดวงดาวในยามค่ำคืน เพราะดูแล้วน่ารักดี แต่เมื่อทรงส่งเรื่อง ''"คำอธิษฐานของดวงดาว"'' ลงตีพิมพ์ใน[[หนังสือพิมพ์]]ประชาชาติวันอาทิตย์ นามปากกาได้กลายเป็น "บังใบ" ไป ซึ่ง[[มาลัย ชูพินิจ]] เป็นผู้ตั้งถวายโดยความเข้าใจผิด ชื่งต่อมาในภายหลังทรงเปลี่ยนมาใช้นามปากกา "ดวงดาว" ตลอดมา และมีผลงานติดต่อมาหลายเรื่อง เช่น นวนิยายเรื่อง ''"ผยอง"'', ''"เชลยศักดิ์"'' และ ''"เคหาสน์สีแดง"''
 
พระองค์ท่านมีพระนิสัยรักสวยรักงาม และมีพระอารมณ์สนุก ขัน โปรดในการประพาสต่างจังหวัด เสด็จไปในที่ที่ไม่เจริญ เพื่อทอดพระเนตรความเป็นอยู่ของชาวบ้าน นำมาเป็นข้อมูลในงานพระนิพนธ์ เรื่องสั้นต่างๆต่าง ๆ โดยมีหม่อมราชวงศ์หญิงวงศ์ศิริ กฤดากร เป็นพระสหายสนิทที่โปรดที่สุด
 
หม่อมเจ้าหญิงสวาสดิ์วัฒโนดม ประวิตร ทรงหยุดเขียนนวนิยายในปี พ.ศ. 2508 เพราะไม่ทรงเห็นด้วยกับนิตยสารบางเล่ม ที่ให้ผู้อ่านทายชื่อนักประพันธ์ในนิยายที่ไม่ลงชื่อผู้แต่ง <ref>[http://www.thaiwriter.org/writers/MJswatwarodom/MJsawtwarodom.htm พระประวัติ หม่อมเจ้าหญิงสวาสดิ์วัฒโนดม ประวิตร] ชุมนุมนักเขียนไทย</ref> แต่ยังทรงพระนิพนธ์เรื่องสั้นต่อมาอีกบ้าง เรื่องสุดท้ายที่ทรงพระนิพนธ์ในปี พ.ศ. 2529 คือ เรื่อง ''"อดีตที่รัก"'' ซึ่งเป็นพระประวัติเมื่อครั้งทรงพระเยาว์ ลงพิมพ์ในหนังสือแจกในงานพระราชทานเพลิงศพ หม่อมหลวงหญิงเหมือนจันทร์ ประวิตร
 
ทรงได้รับการประกาศเกียรติคุณจาก[[สมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย]] ได้รับ[[รางวัลนราธิป]]ครั้งที่ 1 ประจำปี พ.ศ. 2544 <ref>[http://www.thaiwriterassociation.org/columnread.php?id=55 รายพระนามและรายนามผู้ได้รับรางวัลนราธิป]</ref>
 
หม่อมเจ้าหญิงสวาสดิ์วัฒโนดม ประวิตร ถึงชีพิตักษัยด้วยอาการเส้นพระโลหิตในสมองตีบ เมื่อวันที่ [[1 กันยายน]] [[พ.ศ. 2544]] ณ โรงพยาบาลบำรุงราษฏร์ สิริรวมพระชันษา 90 ปี
 
==ผลงาน==
{{บน}}
* คำอธิษฐานของดวงดาว
* ระเริงไพร
* สุริยา
* ชาตรี
* อยู่เพื่อรัก
* ข้ามฝั่งวารินทร์
* ใจเดียว
* แพรชมพู
* เคหาสน์สีแดง
{{กลาง}}
* เหนือพื้นพสุธา
* ดาวรุ่ง
* ผยอง
* โดมไพร
* [[เชลยศักดิ์]]
* ชายโฉด
* ตะวันตรง
* วสันต์ทราย
* ม่านไฟ
{{ล่าง}}