ผลต่างระหว่างรุ่นของ "โยเซ็ฟ เกิบเบิลส์"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
VolkovBot (คุย | ส่วนร่วม)
r2.7.2) (โรบอต เพิ่ม: az:Jozef Göbbels
Horus (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 1:
{{ผู้นำประเทศ
| name = โยเซฟ เกิบเบิลส์เบลส์
| image = Bundesarchiv Bild 183-1989-0821-502, Joseph Goebbels.jpg
| order =
บรรทัด 18:
| successor3 =แวร์เนอร์ นูมันน์
| birth_date = [[29 ตุลาคม]] [[ค.ศ. 1897]]
| birth_place = [[ราชอาณาจักรปรัสเซีย]], [[จักรวรรดิเยอรมัน]]
| death_date = [[1 พฤษภาคม]] ค.ศ. 1945 (อายุ 47 ปี)
| death_place = [[เบอร์ลิน]] [[นาซีเยอรมัน|อาณาจักรไรซ์เยอรมนี]]
| party = [[พรรคนาซี]]
| สัญชาติ = [[เยอรมัน]]
| spouse = แม็กดา เกิบเบิลส์เบลส์
| religion = [[โรมันคาทอลิก]]
| profession = [[นักการเมือง]]
| signature = Joseph Goebbels Signature.svg
}}
'''เพาล์ โยเซฟ เกิบเบิลส์เบลส์''' ({{lang-de|Paul Joseph Goebbels}}) หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ '''โยเซฟ เกิบเบิลส์เบลส์''' นัก[[จิตวิทยามวลชน]] และแกนนำคนสำคัญฝ่ายพลเรือนของ[[พรรคนาซี]] ผู้ดำรงตำแหน่ง[[มุขมนตรีเยอรมัน|มุขมนตรี]]ของ[[นาซีเยอรมัน|จักรวรรดิไรซ์]]ต่อจากการกระทำ[[อัตวินิบาตกรรม]]ของ[[อดอล์ฟ ฮิตเลอร์]] เป็นผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นเสมือนมือซ้ายของอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ (ขณะที่มือขวาคือ [[ไฮน์ริช ฮิมม์เลอร์]])
 
โยเซฟ เกิบเบิลส์เบลส์ เกิดเมื่อวันที่ [[29 ตุลาคม]] [[ค.ศ. 1897]] ที่เมืองเรย์ ใน[[ราชอาณาจักรปรัสเซีย]] [[จักรวรรดิเยอรมัน]] จากครอบครัวชาวนาในชนบท ซึ่งสภาพทางครอบครัวก็อยู่ในฐานะยากจน แต่เกิบเบิลส์เบลส์เป็นเด็กที่มีความขยันหมั่นเพียรและรักความก้าวหน้าในชีวิต ทำให้เขาซึ่งขณะเรียนอยู่นั้นสามารถสอบชิงทุนของรัฐบาลได้ และเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา เมื่อได้มีโอกาสศึกษาต่อแล้ว
 
เกิบเบิลส์เบลส์ทุ่มเทในหน้าที่การเรียนอย่างหนักจนต่อมาอีกไม่กี่ปี ก็สามารถสำเร็จการศึกษาขั้นสูงสุดในระดับปริญญาเอก ในสาขาประวัติศาสตร์วรรณคดีจาก[[มหาวิทยาลัยไฮเดนเบิร์ก]] เมื่อจบจากมหาวิทยาลัยมาแล้วก็หันมาประกอบ อาชีพในด้านสาขาที่ตนสำเร็จเช่นเป็นนักเขียน นักประพันธ์ และนักข่าวมาระยะหนึ่ง ต่อมาไม่นานจากเหตุการณ์ที่เยอรมนีเกิดความผันผวนทางการเมืองภายในประเทศ และการกำเนิดของ[[พรรคนาซี]]ที่กำลังรุ่งเรืองอยู่ในขณะนั้น ก็เป็นช่วงที่พรรคทำการเปิดรับสมัครสมาชิกพรรคอีกด้วยจากการติดตามความ เคลื่อนไหวและนโยบายของพรรคอยู่ตลอดเวลานั้น ทำให้เกิบเบิลส์เบลส์ให้ความสนใจต่อพรรคนาซีเป็นอย่างมาก และอีกเหตุการณ์หนึ่งที่ทำให้ เกิบเบิลส์เบลส์ตัดสินใจเข้าสู่การเป็นสมาชิกพรรคเยอรมันนาซีก็คือ การที่เขาได้มีโอกาสเข้าฟังการกล่าวปราศรัยของฮิตเลอร์ ปรากฏว่าเหตุการณ์ในครั้งนี้ ฮิตเลอร์ทำให้เกิบเบิลส์เบลส์เกิดความศรัทธายิ่งนัก จนทำให้เขาตกลงใจสมัครเข้าร่วมเป็นสมาชิกพรรคนาซีในทันทีโดยไม่ลังเล
 
เมื่อได้เข้าเป็นสมาชิกพรรคแล้วเขาได้รับความไว้วางใจจากฮิตเลอร์ให้เข้ามาทำในด้าน[[การโฆษณา]] [[ประชาสัมพันธ์]]ภายในพรรค ด้วยความสามารถอันอัจฉริยะด้วยแล้วเขาได้สร้างผลงานด้านต่าง ๆ ที่โดดเด่นหลายชิ้นให้แก่พรรคจนสามารถประกาศเผยแพร่พรรคและนโยบายของพรรคจน เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางจนนำไปสู่ชัยชนะอย่างถล่มทลายใน[[การเลือกตั้ง]]ครั้งต่อมา
 
เมื่อ พรรคนาซีได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งจนได้เป็นรัฐบาลแล้ว ฮิตเลอร์มีดำริว่า ควรจะมีการก่อตั้งหน่วยงานด้านการสื่อสารขึ้นให้มีความถาวรและเป็นเอกภาพจึง ได้ก่อตั้ง "[[กระทรวงโฆษณาแถลงข่าวและโฆษณาชวนเชื่อ]]" (Ministry of Public Enlightenment and Propaganda) ขึ้น และผู้ที่ควรจะมาดำรงตำแหน่งอันทรงอิทธิพลแห่งนี้ได้ต้องเป็นผู้ที่ต้องมีความสามารถอย่างยิ่ง ด้วยผลงานอันโดดเด่น ที่ผ่านมาได้ประจักษ์ผลมาอย่างเด่นชัดแล้ว ทำให้ฮิตเลอร์ได้มอบตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงโฆษณาประชาสัมพันธ์ชวนเชื่อนี้ให้แก่เกิบเบิลส์เบลส์เป็นผู้ควบคุมด้วยความที่เป็นผู้มีประสบการณ์ในด้านนี้มานานแล้ว
 
ซึ่งเกิบเบิลส์เบลส์ได้ผลิตสื่อและผลงานของเขาเป็นที่โดดเด่นเพื่อประโยชน์สูงสุดของพรรคและปฏิบัติภารกิจของตนด้วยความซื่อสัตย์สุจริตต่อพรรคและนายของเขามาตลอดช่วงของ[[สงครามโลกครั้งที่สอง]] อย่างไม่เคยเปลี่ยน ทำให้เขาได้รับความไว้เนื้อเชื่อใจจากนายของเขา คือ ฮิตเลอร์เป็นอย่างมากที่ สุดในบรรดาสมาชิกพรรคนาซี จึงไม่แปลกเลยที่หากว่าฮิตเลอร์ไป ณ ที่ใด มักจะปรากฏเกิบเบิลส์เบลส์เคียงข้างไปทุกหนทุกแห่งจนกระทั่งทั้งสองจบชีวิตลงในที่สุด
 
แม้กระทั่งในช่วงสุดท้ายของชีวิตก็ตาม ในช่วงที่สงครามโลกจะยุติลงด้วยความพ่ายแพ้ของนาซี ในขณะที่บรรดาคณะนายทหารชั้นผู้ใหญ่หรือบุคคลใหญ่ ๆ ของพรรคก็ต่างละทิ้งฮิตเลอร์หนีเอาตัวรอดกันทั้งนั้น แต่ปรากฏว่าเกิบเบิลส์เบลส์แม้มีโอกาสเช่นกันแต่เขาก็ไม่คิดจะทอดทิ้งฮิตเลอร์เลย เพราะเขาพร้อมที่จะเป็นหรือตายอยู่กับฮิตเลอร์ได้ตลอดเวลา
 
จนในที่สุดฮิตเลอร์ตัดสินใจยิงตนเองกับภรรยาจนเสียชีวิต เกิบเบิลส์เบลส์รับตำแหน่งมุขมนตรีแห่งชาตินายกรัฐมนตรีต่อจากฮิตเลอร์ได้เพียงแค่วันเดียว เกิบเบิลส์เบลส์เองก็ตัดสินใจกระทำอัตวินิบาตกรรมตามฮิตเลอร์ไป โดยการกรอกยาพิษให้ลูกของตนจนตายทั้งหมด 6 คน แล้วจัดการตนเองกับภรรยาด้วยการยิงตัวตายตามกันหมดทั้งครอบครัว เมื่อวันที่ [[1 พฤษภาคม]] [[ค.ศ. 1945]]
{{คอมมอนส์-หมวดหมู่|Joseph Goebbels}}
 
== อ้างอิง ==
เส้น 50 ⟶ 49:
==แหล่งข้อมูลอื่น==
{{วิกิคำคม}}
{{คอมมอนส์-หมวดหมู่|Joseph Goebbels}}
 
{{นายกรัฐมนตรีเยอรมนี}}