ผลต่างระหว่างรุ่นของ "สาธารณรัฐโรมัน"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Horus (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Horus (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 36:
|leader2 = [[ออกัสตัส ซีซาร์|ไกอัส จูเลียส ซีซาร์ ออกตาเวียนัส]], [[มาร์คัส มาร์คัส วิปซานีอัส อะกริปปา]]
|year_leader2 = 27 BC
|stat_year1 = 326 BC<ref name="size">{{cite journal|journal=Social Science History |title=Size and Duration of Empires: Growth–Decline Curves, 600 BC to 600 AD |first=Rein |last=Taagepera |volume=3 |issue=3/4 |year=1979 |page=125 |doi=10.2307/1170959 |publisher=Social Science History, Vol. 3, No. 3/4 |jstor=1170959 |authorlink=Rein Taagepera |pages=115–138}}</ref>
|stat_year1 = 326 BC
|stat_area1 = 10000
|stat_year2 = 200 BC<ref name="size"/>
|stat_area2 = 360000
|stat_year3 = 146 BC<ref name="size"/>
|stat_area3 = 800000
|stat_year4 = 100 BC<ref name="size"/>
|stat_area4 = 1200000
|stat_year5 = 50 BC<ref name="size"/>
|stat_area5 = 1950000
|
บรรทัด 60:
'''สาธารณรัฐโรมัน''' ({{lang-la|Res-publica Romanorum}}) เป็นยุคสมัยของอารยธรรมโรมันโบราณขณะมีรัฐบาลเป็น[[สาธารณรัฐ]] เริ่มต้นจากการโค่นล้ม[[ราชาธิปไตยโรมัน]] ซึ่งตามธรรมเนียมระบุไว้เมื่อราว 509 ปีก่อน ค.ศ. และแทนที่ด้วยรัฐบาลซึ่งนำโดยกงสุลสองคน ซึ่งพลเมืองเลือกตั้งทุกปีและได้รับคำแนะนำจาก[[วุฒิสภาโรมัน|วุฒิสภา]] [[รัฐธรรมนูญแห่งสาธารณรัฐโรมัน|รัฐธรรมนูญที่ซับซ้อน]]ค่อย ๆ ได้รับการพัฒนา โดยมีศูนย์กลางอยู่บนหลัก[[การแบ่งแยกอำนาจ]]และการตรวจสอบและถ่วงดุล ยกเว้นในสถานการณ์ฉุกเฉินเลวร้ายของประเทศ ตำแหน่งราชการถูกจำกัดไว้ที่หนึ่งปี เพื่อที่ในทางทฤษฎีจะไม่มีปัจเจกบุคคลใดสามารถครอบงำพลเมืองได้
 
ในทางปฏิบัติ [[ชนชั้นทางสังคมในสาธารณรัฐโรมัน|สังคมโรมันเป็นแบบลำดับชั้น]]<ref>Gary Forsythe, A Critical History of Early Rome: From Prehistory to the First Punic War, p.368, University of California Press, 2006</ref><ref>V. Henry T. Nguyen, Christian Identity in Corinth: A Comparative Study of 2 Corinthians, Epictetus and Valerius Maximums, p.24, Mohr Siebeck, 2008</ref> วิวัฒนาการของรัฐธรรมนูญแห่งสาธารณรัฐโรมันได้รับอิทธิพลอย่างมากจากการต่อสู้ระหว่างชนชั้นสูงผู้ถือครองที่ดินของโรม ([[แพทริเซียน]]) ผู้ซึ่งมีบรรพบุรุษย้อนไปตั้งแต่ประวัติศาสตร์ยุคต้นของราชอาณาจักรโรมัน กับพลเมือง-สามัญชน ([[เพลเบียน]]) ที่มีจำนวนมากกว่ามาก เมื่อเวลาผ่านไป กฎหมายซึ่งให้สิทธิ์ขาดตำแหน่งสูงสุดของโรมแก่แพทริเซียนถูกยกเลิกหรือหย่อนลง และชนชั้นสูงใหม่เกิดขึ้นจากท่ามกลางชนชั้นเพลเบียน ผู้นำของสาธารณรัฐพัฒนาประเพณีและศีลธรรมแข็งซึ่งต้องการบริการสาธารณะและ[[การอุปถัมภ์ในโรมโบราณ|การอุปถัมภ์]]ในยามสันติและสงคราม หมายความว่า ความสำเร็จทางทหารและการเมืองเชื่อมโยงกันอย่างแยกไม่ได้ ระหว่างสองศตวรรษแรก สาธารณรัฐได้ขยายตัวผ่านการพิชิตและพันธมิตรร่วมกัน จากอิตาลีตอนกลางเป็นทั้ง[[คาบสมุทรอิตาลี]] เมื่อถึงศตวรรษต่อมา รวมถึงแอฟริกาเหนือ [[คาบสมุทรไอบีเรีย]] กรีซ และพื้นที่ซึ่งปัจจุบันเป็นฝรั่งเศสตอนใต้ อีกสองศตวรรษจากนั้น ใกล้ปลายศตวรรษที่ 1 ก่อนคริสตกาล รวมถึงฝรั่งเศสปัจจุบันที่เหลือ และพื้นที่อีกมากในทางตะวันออก ถึงขณะนี้ แม้จะมีข้อจำกัดตามประเพณีและกฎหมายของสาธารณรัฐต่อการได้มาซึ่งอำนาจทางการเมืองอย่างถาวรของบุคคล การเมืองโรมันถูกครอบงำโดยผู้นำโรมันไม่กี่คน พันธมิตรที่อึดอัดระหว่างพวกเขาถูกคั่นด้วย[[สงครามกลางเมืองสาธารณรัฐโรมัน|สงครามกลางเมือง]]เป็นระยะ
 
== อ้างอิง ==
{{รายการอ้างอิง}}
 
{{ประวัติศาสตร์ยุโรป}}