ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เพกมาไทต์"
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
แจ้งต้องการเก็บกวาดด้วยสจห. |
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 1:
{{เก็บกวาด}}
▲หินเพกมาไทต์([http://en.wikipedia.org/wiki/Pegmatite pegmatite])เป็น[[หินอัคนี]]แทรกซอน(Intrusive igneous) มักปรากฏอยู่เป็นสายแร่ ทำให้มักเรียกเป็น “สายแร่เพกมาไทต์(Pegmatite veins)” ประกอบด้วยแร่หลักเพียงควอตซ์ และ เค-[[เฟลด์สปาร์]](K-[http://en.wikipedia.org/wiki/Feldspar feldspar]) และอาจมีมัสโคไวท์([http://en.wikipedia.org/wiki/Muscovite Muscovite]), ไบโอไทต์([http://en.wikipedia.org/wiki/Biotite Biotite]), [[ทัวร์มาลีน]]([http://en.wikipedia.org/wiki/Tourmaline Tourmaline]) หรือแร่อื่นอยู่บ้าง เป็นส่วนประกอบรอง ผลึกแร่([http://en.wikipedia.org/wiki/Grain_size Grain size])ในเพกมาไทต์โดยปกติแล้วจะมีขนาดใหญ่กว่า 2.5 เซนติเมตรแต่บางครั้งอาจมีขนาดใหญ่มากถึง 10 เซนติเมตรได้ ทั้งนี้เนื่องจากสารละลายร้อนมักมีความเข้มข้นน้อย(มีน้ำ,ไอมาก)และมีพื้นที่สำหรับการตกผลึกดีกล่าวคือมีช่องรอยแตก(fracture)ในหินทำให้สารละลายร้อนและไอค่อยๆทำการตกผลึกช้าๆ และมีเวลาเพียงพอให้เกิดการตกผลึกใหญ่ๆได้<br />
== ส่วนประกอบ ==
== การเกิดสายแร่ ==
[[
การตกผลึกทีละครังของสารละลายที่เข้าไปในสายแร่ทำให้ได้เพกมาไทต์ที่มีลักษณะโซน (Zone) ของแร่ได้ โดยมีการตกผลึกที่ผนังสองข้างของรอยแตกก่อนแล้วสารละลายจึงแทรกเข้าไปตรงกลางเปิดช่องว่างให้กว้างขึ้นอีก และแร่รุ่นใหม่กว่าจึงงอกตกผลึกออกจากผนังช่องว่างเรียกว่า “วัค ([http://en.wikipedia.org/wiki/Vug vug])” หรือหากมีรูปทรงคล้ายลูกมะพร้าวเรียก “จีโอด ([http://en.wikipedia.org/wiki/Geode geode])”<br />▼
▲การตกผลึกทีละครังของสารละลายที่เข้าไปในสายแร่ทำให้ได้เพกมาไทต์ที่มีลักษณะโซน (Zone) ของแร่ได้ โดยมีการตกผลึกที่ผนังสองข้างของรอยแตกก่อนแล้วสารละลายจึงแทรกเข้าไปตรงกลางเปิดช่องว่างให้กว้างขึ้นอีก และแร่รุ่นใหม่กว่าจึงงอกตกผลึกออกจากผนังช่องว่างเรียกว่า “[[วัค
'''ความสำคัญของสายแร่เพกมาไทต์''' คือ การที่มีธาตุอื่นๆซึ่งมีธาตุรองอยู่เป็นจำนวนมากที่ยังคงหลงเหลือในสารละลายร้อนและจะมีโอกาสตกผลึกในสายแร่เพกมาไทต์นี้ ซึ่งแร่สำคัญเหล่านี้ได้แก่ เลพิโดไลท์ ([http://en.wikipedia.org/wiki/Lepidolite Lepidolite]), ทัวร์มาลีน (Tourmaline), [[เบริล]] ([http://en.wikipedia.org/wiki/Beryl Beryl]), สปอดโดมีน ([http://en.wikipedia.org/wiki/Spodumene Spodumene]), แอมบลิโกไนท์ (Ambligonite), โทแพซ ([http://en.wikipedia.org/wiki/Topaz Topaz]), [[อะพาไทต์]] (Apatite) และ ฟลูออไรต์ ([http://en.wikipedia.org/wiki/Fluorite Fluorite]) กลุ่มแร่หายากที่สามารถเกิดได้ในสายแร่เพกมาไทต์ ได้แก่ โคลัมไบต์ ([http://en.wikipedia.org/wiki/Columbite Columbite]), แทนทาไลท์ ([http://en.wikipedia.org/wiki/Tantalite Tantalite]), โมนาไซต์ ([http://en.wikipedia.org/wiki/Monazite Monazite]), โมลิบดีไนท์ ([http://en.wikipedia.org/wiki/Molybdenite Molybdenite]) และ แร่ที่มีธาตุ[[ยูเรเนียม]] (Uranium) ประกอบอยู่ ซึ่งบางครั้งแร่หาหยากเหล่านี้บางครั้งมีขนาดผลึกใหญ่มากทำให้เป็นแร่เศรษฐกิจที่ดี<br />▼
== ความสำคัญ ==
▲
== อ้างอิง ==
* Klein & Hurlburt (1993), Manual of mineralogy (After Dana ) 21st Edition, John Wiley & Sons, Inc., 681p.<br />
* S.I. Tomkeieff (1983), Dictionary of Petrology (Edited by E.K. Walton, B.A.O. Randall, M.H. Battey, O. Tomkeieff), John Wiley & Sons, Inc.,
== แหล่งข้อมูลอื่น ==
[[หมวดหมู่:หินแปร]]
[[หมวดหมู่:เศรษฐธรณีวิทยา]]
|