ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เต่าทะเล"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Horus (คุย | ส่วนร่วม)
overlinked +มุมมองสากล
บรรทัด 3:
| image = LeatherbackTurtle.jpg
| image_width =
| image_caption =[[เต่ามะเฟือง]] (''Dermochelys coriacea'') ซึ่งเป็นเต่าทะเลเพียงชนิดเดียวที่อยู่ในวงศ์ Dermochelyidae และสกุล ''Dermochelys'' และเป็นเต่าที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกด้วย
| image2 = Hawksbill Turtle.jpg
| image2_caption = [[เต่ากระ]] (''Eretmochelys imbricata'')
บรรทัด 28:
* วงศ์ [[Thalassemyidae]] (สูญพันธุ์)
}}
'''เต่าทะเล''' ({{lang-en|Sea turtelturtle}}) เป็น[[เต่า]]ที่อยู่ในวงศ์ใหญ่ Chelonioidea เป็นเต่าจำพวกหนึ่งที่พัฒนาตัวเองซึ่งวิวัฒนาการจนสามารถอาศัยอยู่ได้ใน[[ทะเล]]ตลอดเวลา โดยจะไม่ขึ้นมาบนบกเลย นอกจากการวาง[[ไข่]]ของตัวเมียเท่านั้น
 
==ลักษณะ==
ถึงแม้เต่าทะเลจะดำรงชีวิตในทะเล แต่ก็ยังคงคุณลักษณะของ[[สัตว์เลื้อยคลาน]]ทั่วไป เต่าทะเลมีกระดองเป็นเกล็ดปกคลุมร่างกายซึ่งได้[[วิวัฒนาการ]]ให้มีลักษณะเหมาะกับการ[[ว่ายน้ำ]] มีรูป[[ทรงรูปทรงรี]]หรือรูปหัวใจ<ref>[http://www.tkpark.or.th/tk/index.php?option=com_content&view=article&id=413&Itemid=162&lang=th เต่าทะเล]</ref> แต่ทว่าทั้งหัวและขาของเต่าทะเลนั้นไม่สามารถที่จะหดเข้าไปในกระดองได้ อีกทั้งยังมี[[ลำไส้]]ขนาดใหญ่ที่ช่วยในการย่อยอาหารได้ดียิ่งขึ้นรวมทั้งมี[[ไขมัน]]มากกว่าสัตว์เลื้อยคลานจำพวกอื่น เพื่อช่วยในการให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย ส่วนขาทั้งสี่ข้างถูกพัฒนาให้แบนคล้ายพายเพื่อช่วยในการว่ายน้ำให้ดียิ่งขึ้นกว่าเต่าน้ำทั่วไปที่มีแต่พังผืด โดยขาคู่หน้าใช้ในการผลักดันและพุ้ยน้ำ ส่วนคู่หลังใช้เป็นเหมือนหางเสือกำหนดทิศทาง เต่าทะเลบางตัวสามารถที่จะว่ายน้ำได้เร็วถึง 35 [[ไมล์]]ต่อ[[ชั่วโมง]] หรือสามารถที่จะว่ายน้ำข้ามมหาสมุทรนับเป็นระยะทางกว่าร้อยไมล์
 
เต่าทะเลทุกชนิดมีการวิวัฒนาการตัวเองให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมในทะเลและลดการแก่งแย่งกันเอง เช่น การกินอาหารที่แตกต่างกัน ซึ่งเต่าทะเลกินได้ทั้ง[[พืช]]และ[[สัตว์]] แต่ทว่าก็จะมีการกินที่แตกต่างออกไปในแต่ละชนิด การขึ้นมาวางไข่บนหาดที่มีลักษณะและช่วงเวลาที่แตกต่างกัน กระดองก็สามารถที่จะเปลี่ยนแปรได้ตามสิ่งแวดล้อม โดยในปัจจุบัน พบเต่าทะเลได้ใน[[มหาสมุทร]]และ[[ทะเล]]ทั่วโลก ยกเว้น[[มหาสมุทรใต้]]เท่านั้น
ถึงแม้เต่าทะเลจะดำรงชีวิตในทะเล แต่ก็ยังคงคุณลักษณะของ[[สัตว์เลื้อยคลาน]]ทั่วไป เต่าทะเลมีกระดองเป็นเกล็ดปกคลุมร่างกายซึ่งได้[[วิวัฒนาการ]]ให้มีลักษณะเหมาะกับการ[[ว่ายน้ำ]] มีรูป[[ทรงรี]]หรือรูปหัวใจ<ref>[http://www.tkpark.or.th/tk/index.php?option=com_content&view=article&id=413&Itemid=162&lang=th เต่าทะเล]</ref> แต่ทว่าทั้งหัวและขาของเต่าทะเลนั้นไม่สามารถที่จะหดเข้าไปในกระดองได้ อีกทั้งยังมี[[ลำไส้]]ขนาดใหญ่ที่ช่วยในการย่อยอาหารได้ดียิ่งขึ้นรวมทั้งมี[[ไขมัน]]มากกว่าสัตว์เลื้อยคลานจำพวกอื่น เพื่อช่วยในการให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย ส่วนขาทั้งสี่ข้างถูกพัฒนาให้แบนคล้ายพายเพื่อช่วยในการว่ายน้ำให้ดียิ่งขึ้นกว่าเต่าน้ำทั่วไปที่มีแต่พังผืด โดยขาคู่หน้าใช้ในการผลักดันและพุ้ยน้ำ ส่วนคู่หลังใช้เป็นเหมือนหางเสือกำหนดทิศทาง เต่าทะเลบางตัวสามารถที่จะว่ายน้ำได้เร็วถึง 35 [[ไมล์]]ต่อ[[ชั่วโมง]] หรือสามารถที่จะว่ายน้ำข้ามมหาสมุทรนับเป็นระยะทางกว่าร้อยไมล์
 
เต่าทะเลทุกชนิดมีการวิวัฒนาการตัวเองให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมในทะเลและลดการแก่งแย่งกันเอง เช่น การกินอาหารที่แตกต่างกัน ซึ่งเต่าทะเลกินได้ทั้ง[[พืช]]และ[[สัตว์]] แต่ทว่าก็จะมีการกินที่แตกต่างออกไปในแต่ละชนิด การขึ้นมาวางไข่บนหาดที่มีลักษณะและช่วงเวลาที่แตกต่างกัน กระดองก็สามารถที่จะเปลี่ยนแปรได้ตามสิ่งแวดล้อม โดยในปัจจุบัน พบเต่าทะเลได้ใน[[มหาสมุทร]]และ[[ทะเล]]ทั่วโลก ยกเว้น[[มหาสมุทรใต้]]เท่านั้น
 
==การวางไข่==
ในแต่ละปี จะมีเต่าทะเลที่อยู่ในวัยเจริญพันธุ์[[ผสมพันธุ์]]ตามบริเวณต่าง ๆ ในมหาสมุทร หลังจากนั้นตัวเมียจะขึ้น[[หาด]]ขุด[[ทราย]]วางไข่ โดยเต่าทะเลทุกชนิดขึ้นมาวางไขเฉพาะเวลา[[กลางคืน]] ยกเว้นเต่าหญ้าแอตแลนติกเท่านั้นที่มีพฤติกรรมวางไข่ในเวลา[[กลางวัน]]ด้วย<ref>[http://animals.nationalgeographic.com/animals/reptiles/kemps-ridley-sea-turtle/ Kemp's Ridley Sea Turtle] จาก[[สมาคมเนชั่นแนลจีโอกราฟฟิก|เนชั่นแนลจีโอกราฟฟิก]]]</ref> และส่วนใหญ่จะขึ้นมาวางไข่บนหาดที่ถือกำเนิด เต่าทะเลตัวเมียเมื่อขึ้นจากน้ำก็จะคลานขึ้นมาบนหาดเพื่อหาจุดที่เหมาะสมในการวางไข่ แต่ถ้าพบว่าหาดนั้นมีแสงสว่างและเสียงรบกวนจะคลานกลับลงน้ำโดยไม่วางไข่ เมื่อพบจุดที่ต้องการก็จะใช้ขาคู่หลังขุดหลุม จนมีลักษณะคล้ายหม้อสองหู การขุดก็จะทำอย่างระมัดระวังโดยใช้พายข้างหนึ่งโกยทรายแล้วดีดออก เมื่อทรายที่ขุดมากขึ้นก็จะใช้พายอีกข้างช่วยโกยออก ต่อจากนั้นก็จะวางไข่ ซึ่งมีลักษณะนิ่มคลุม โดยเต่าแต่ละตัวสามารถที่จะขึ้นมาวางไขได้สองหรือสามครั้ง ขณะที่วางไข่อาจมีของเหลวไหลออกมาจากตา ทั้งนี้เพื่อรักษาระดับ[[ความชื้น]]และป้องกันทรายเข้าตา ซึ่งดูแล้วเหมือนกับว่าเต่า[[ร้องไห้]] ซึ่งของเหลวที่ขับออกมานี้คือ [[เกลือ]]<ref>[http://travel.sanook.com/pickup/pickup_09859.php ทำไมเต่าถึงร้องไห้]</ref> ไข่เต่าแต่ละฟองจะมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 4 ถึง 7 [[เซนติเมตร]] (1.5-2.5 นิ้ว) หลังจากไข่เสร็จ เรียบร้อยแล้วก็กลบหลุมและทุบทรายให้แน่น แล้วพรางหลุมโดยการกวาดทราบข้างเคียงจนสังเกตตำแหน่งได้ยาก
 
ในแต่ละฤดูกาล เต่าตัวเมียจะวางไข่ทุกช่วง[[สัปดาห์]]จนกว่านกว่าจะหมดท้อง ซึ่งบางตัวอาจจะมีถึง 1,000 ฟอง โดยใช้เวลาในการขึ้นมาวางไข่บนหาด 3-8 ครั้ง แล้วจะกลับมาวางไข่อีกครั้งหลังจากเวลาผ่านไป 2-4 [[ปี]] ดังนั้น จำนวนรังในแต่ละปีจึงเปลี่ยนแปลงตลอด ด้วยสาเหตุที่ปริมาณการรอดตายของลูกเต่าทะเลน้อยมาก ดังนั้น ในการวางไข่แต่ละครั้งจึงมีจำนวนมาก ถ้าหาดที่เต่าทะเลขึ้นมาวางไข่ มีพื้นที่น้อย โอกาสที่ไข่เต่าทะเลจะถูกทำลายโดยน้ำท่วมหรือจากน้ำฝนจะมีมาก อุณหภูมิภายในหลุมก็มีผลกระทบต่อการฟังตัว กล่าวคือ ถ้าอุณหภูมิอยู่ในระดับปรกติ โอกาสที่ลูกเต่าทะเลจะฟังจากไข่เป็นเพศเมียทั้งหมดมีมาก ในทำนองเดียวกัน ถ้าอุณหภูมิภายในหลุมต่ำกว่าภายนอก ลูกเต่าทะเลที่ออกจากไข่ก็จะเป็น[[เพศผู้]]ทั้งสิ้น
ในแต่ละปี จะมีเต่าทะเลที่อยู่ในวัยเจริญพันธุ์[[ผสมพันธุ์]]ตามบริเวณต่าง ๆ ในมหาสมุทร หลังจากนั้นตัวเมียจะขึ้น[[หาด]]ขุด[[ทราย]]วางไข่ โดยเต่าทะเลทุกชนิดขึ้นมาวางไขเฉพาะเวลา[[กลางคืน]] ยกเว้นเต่าหญ้าแอตแลนติกเท่านั้นที่มีพฤติกรรมวางไข่ในเวลา[[กลางวัน]]ด้วย<ref>[http://animals.nationalgeographic.com/animals/reptiles/kemps-ridley-sea-turtle/ Kemp's Ridley Sea Turtle จาก[[สมาคมเนชั่นแนลจีโอกราฟฟิก|เนชั่นแนลจีโอกราฟฟิก]]]</ref> และส่วนใหญ่จะขึ้นมาวางไข่บนหาดที่ถือกำเนิด เต่าทะเลตัวเมียเมื่อขึ้นจากน้ำก็จะคลานขึ้นมาบนหาดเพื่อหาจุดที่เหมาะสมในการวางไข่ แต่ถ้าพบว่าหาดนั้นมีแสงสว่างและเสียงรบกวนจะคลานกลับลงน้ำโดยไม่วางไข่ เมื่อพบจุดที่ต้องการก็จะใช้ขาคู่หลังขุดหลุม จนมีลักษณะคล้ายหม้อสองหู การขุดก็จะทำอย่างระมัดระวังโดยใช้พายข้างหนึ่งโกยทรายแล้วดีดออก เมื่อทรายที่ขุดมากขึ้นก็จะใช้พายอีกข้างช่วยโกยออก ต่อจากนั้นก็จะวางไข่ ซึ่งมีลักษณะนิ่มคลุม โดยเต่าแต่ละตัวสามารถที่จะขึ้นมาวางไขได้สองหรือสามครั้ง ขณะที่วางไข่อาจมีของเหลวไหลออกมาจากตา ทั้งนี้เพื่อรักษาระดับ[[ความชื้น]]และป้องกันทรายเข้าตา ซึ่งดูแล้วเหมือนกับว่าเต่า[[ร้องไห้]] ซึ่งของเหลวที่ขับออกมานี้คือ [[เกลือ]]<ref>[http://travel.sanook.com/pickup/pickup_09859.php ทำไมเต่าถึงร้องไห้]</ref> ไข่เต่าแต่ละฟองจะมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 4 ถึง 7 [[เซนติเมตร]] (1.5-2.5 นิ้ว) หลังจากไข่เสร็จ เรียบร้อยแล้วก็กลบหลุมและทุบทรายให้แน่น แล้วพรางหลุมโดยการกวาดทราบข้างเคียงจนสังเกตตำแหน่งได้ยาก
 
ไข่เต่าทะเลที่รอดจากน้ำท่วมและสัตว์อื่นกินเป็นอาหาร ก็จะฟักออกมาเป็นตัวภายใน 60 วันพร้อมกัน เมื่อลูกเต่าทะเลออกจากไข่ก็จะคลานขึ้น ผิวทราย ก่อนจะถึงผิวหน้าทรายก็จะหยุดตรงจุดที่ลึกจากผิวประมาณ 5 เซนติเมตร เพื่อรอให้อุณหภูมิภายนอกต่ำจึงออกจากทราย ซึ่งส่วนใหญ่ ก็เป็นเวลากลางคืนจึงออกจากหลุมแล้วคลานลงทะเลอย่างรวดเร็ว ช่วงคลานลงทะเลนี้จะเป็นช่วงเวลาที่อันตรายที่สุด ลูกเต่าทะเลทุกตัวจะหันหัวไปยัง[[เส้นขอบฟ้า]]ในทะเลที่สว่างที่สุด ถ้ามี[[แสง]]บนหาดก็จะชักจูงให้คลานเข้าหาและในที่สุดก็จะเป็นอันตรายถึงตายได้ มีสัตว์หลายชนิดกินลูกเต่าทะเลเป็นอาหาร เช่น ในช่วงที่คลานลงทะเลก็จะเกิดอันตรายจาก[[นก]] สัตว์เลื้อยคลานด้วยกันเช่น [[เหี้ย]] หรือ[[สัตว์กินเนื้อ|สัตว์ผู้ล่า]]อื่น ๆ เช่น [[พังพอน]] รวมทั้งมนุษย์ เมื่อถึงน้ำอาจจะถูก[[ปลาฉลาม]]หรือปลาขนาดใหญ่กว่ากินเป็นอาหารได้
ในแต่ละฤดูกาล เต่าตัวเมียจะวางไข่ทุกช่วง[[สัปดาห์]]จนกว่าจะหมดท้อง ซึ่งบางตัวอาจจะมีถึง 1,000 ฟอง โดยใช้เวลาในการขึ้นมาวางไข่บนหาด 3-8 ครั้ง แล้วจะกลับมาวางไข่อีกครั้งหลังจากเวลาผ่านไป 2-4 [[ปี]] ดังนั้น จำนวนรังในแต่ละปีจึงเปลี่ยนแปลงตลอด ด้วยสาเหตุที่ปริมาณการรอดตายของลูกเต่าทะเลน้อยมาก ดังนั้น ในการวางไข่แต่ละครั้งจึงมีจำนวนมาก ถ้าหาดที่เต่าทะเลขึ้นมาวางไข่ มีพื้นที่น้อย โอกาสที่ไข่เต่าทะเลจะถูกทำลายโดยน้ำท่วมหรือจากน้ำฝนจะมีมาก อุณหภูมิภายในหลุมก็มีผลกระทบต่อการฟังตัว กล่าวคือ ถ้าอุณหภูมิอยู่ในระดับปรกติ โอกาสที่ลูกเต่าทะเลจะฟังจากไข่เป็นเพศเมียทั้งหมดมีมาก ในทำนองเดียวกัน ถ้าอุณหภูมิภายในหลุมต่ำกว่าภายนอก ลูกเต่าทะเลที่ออกจากไข่ก็จะเป็น[[เพศผู้]]ทั้งสิ้น
 
ในสัปดาห์แรก ลูกเต่าทะเลไม่สามารถที่จะดำน้ำและใช้ชีวิตใต้ท้องทะเลได้เป็นเวลานาน เพราะยังว่ายน้ำไม่แข็งพอที่จะหลบหลีกจากผู้ล่าได้ การหลบหลีกศัตรูในช่วงนี้จึงใช้วิธีหลบอาศัยและดำรงชีวิตตาม[[สาหร่ายทะเล]]หรือพืชทะเลที่ล่องลอยในทะเล ซึ่งใช้เวลาประมาณ 1 ปี จึงจะแข็งแรงพอที่จะเอาชีวิตรอดได้ คาดว่าเต่าทะเลมีอายุยืนยาวนานกว่า 60 ปี<ref>[http://www.webng.com/becutepet/content/BUU48933140/content.html สาระน่ารู้เกี่ยวกับเต่า]</ref>
ไข่เต่าทะเลที่รอดจากน้ำท่วมและสัตว์อื่นกินเป็นอาหาร ก็จะฟักออกมาเป็นตัวภายใน 60 วันพร้อมกัน เมื่อลูกเต่าทะเลออกจากไข่ก็จะคลานขึ้น ผิวทราย ก่อนจะถึงผิวหน้าทรายก็จะหยุดตรงจุดที่ลึกจากผิวประมาณ 5 เซนติเมตร เพื่อรอให้อุณหภูมิภายนอกต่ำจึงออกจากทราย ซึ่งส่วนใหญ่ ก็เป็นเวลากลางคืนจึงออกจากหลุมแล้วคลานลงทะเลอย่างรวดเร็ว ช่วงคลานลงทะเลนี้จะเป็นช่วงเวลาที่อันตรายที่สุด ลูกเต่าทะเลทุกตัวจะหันหัวไปยัง[[เส้นขอบฟ้า]]ในทะเลที่สว่างที่สุด ถ้ามี[[แสง]]บนหาดก็จะชักจูงให้คลานเข้าหาและในที่สุดก็จะเป็นอันตรายถึงตายได้ มีสัตว์หลายชนิดกินลูกเต่าทะเลเป็นอาหาร เช่น ในช่วงที่คลานลงทะเลก็จะเกิดอันตรายจาก[[นก]] สัตว์เลื้อยคลานด้วยกันเช่น [[เหี้ย]] หรือ[[สัตว์กินเนื้อ|สัตว์ผู้ล่า]]อื่น ๆ เช่น [[พังพอน]] รวมทั้งมนุษย์ เมื่อถึงน้ำอาจจะถูก[[ปลาฉลาม]]หรือปลาขนาดใหญ่กว่ากินเป็นอาหารได้
[[ภาพไฟล์:A leatherback turtle covering her eggs, Turtle Beach, Tobago.ogv|thumb|[[วีดีโอคลิป]]การวางไข่ของเต่ามะเฟือง ที่[[ตรินิแดดและโตเบโก|โตเบโก]]]]
 
ในสัปดาห์แรก ลูกเต่าทะเลไม่สามารถที่จะดำน้ำและใช้ชีวิตใต้ท้องทะเลได้เป็นเวลานาน เพราะยังว่ายน้ำไม่แข็งพอที่จะหลบหลีกจากผู้ล่าได้ การหลบหลีกศัตรูในช่วงนี้จึงใช้วิธีหลบอาศัยและดำรงชีวิตตาม[[สาหร่ายทะเล]]หรือพืชทะเลที่ล่องลอยในทะเล ซึ่งใช้เวลาประมาณ 1 ปี จึงจะแข็งแรงพอที่จะเอาชีวิตรอดได้ คาดว่าเต่าทะเลมีอายุยืนยาวนานกว่า 60 ปี<ref>[http://www.webng.com/becutepet/content/BUU48933140/content.html สาระน่ารู้เกี่ยวกับเต่า]</ref>
[[ภาพ:A leatherback turtle covering her eggs, Turtle Beach, Tobago.ogv|thumb|[[วีดีโอคลิป]]การวางไข่ของเต่ามะเฟือง ที่[[ตรินิแดดและโตเบโก|โตเบโก]]]]
==การจำแนก==
 
ปัจจุบันมีเต่าทะเลทั้งหมด 7 [[สปีชีส์|ชนิด]] โดยสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 [[วงศ์ (ชีววิทยา)|วงศ์]]ย่อย คือ Cheloniidae ซึ่งเต่าทะเลส่วนมากจะอยู่ในวงศ์นี้ กับ วงศ์ Dermochelyidae ซึ่งมีเพียงชนิดเดียวเท่านั้น ได้แก่
 
เส้น 64 ⟶ 62:
 
==ความสัมพันธ์กับมนุษย์และการอนุรักษ์==
{{มุมมองสากล}}
เต่าทะเลมีความสัมพันธ์กับ[[มนุษย์]]มาเป็นระยะเวลายาวนาน ดังจะปรากฏอยู่ใน[[นิทาน]]พื้นบ้านของหลายชนชาติ เช่น [[อุระชิม่า ทาโร่ ]]ของ[[ญี่ปุ่น]] ที่ว่าด้วยเด็กหนุ่มที่ชื่ออุระชิมะได้ช่วยชีวิตเต่าทะเลตัวหนึ่งไว้จากการถูกฆ่า ต่อมาเต่าทะเลตัวนี้ได้พาเขาไปยังวังมังกรใต้ทะเลอันเป็นที่ประทับของเจ้าหญิง เป็นต้น <ref>[http://www.thaigoodview.com/library/studentshow/st2545/5-5/no26/33.htm อุราชิมา ทาโร]</ref>
 
โดยมากแล้ว มนุษย์จะจับเต่าทะเลได้โดยบังเอิญจากการทำ[[ประมง]] ส่วนใหญ่มักจะนำไป[[รับประทาน]]และนำกระดองไปทำเป็น[[เครื่องประดับ]]หรือ[[สตั๊ฟฟ์]]ไว้แสดง ไข่ก็ถูกขุดนำมารับประทาน อีกทั้งบางส่วนยังถูกจับมาเป็น[[สัตว์เลี้ยง]]อีกด้วย ทำให้ปริมาณเต่าทะเลทั่วทั้งโลกลดลงไปมากอย่างน่าใจหายในช่วงระยะเวลาไม่นาน ประกอบกับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไปที่ส่งผลถึงทะเลอันเป็นที่อยู่อาศัย
 
ปัจจุบันนี้ หลาย[[ประเทศ]]มีโครงการอนุรักษ์และเพาะพันธุ์เต่าทะเล รวมทั้งออก[[กฏหมาย]]ที่ช่วยในเรื่องการอนุรักษ์ด้วย สำหรับใน[[ประเทศไทย]] หน่วยงานภาครัฐที่มีบทบาทในส่วนนี้มากที่สุด คือ [[กรมประมง]]โดยการร่วมมือกับ[[กองทัพเรือไทย|กองทัพเรือ]]<ref>[http://www.navy.mi.th/sattahipbase/tour/antiair_tao.php ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล ]</ref> ทำการอนุรักษ์ชาย[[หาด]]หลายแห่งทั้งบนบกและที่เป็น[[เกาะ]]ใน[[อ่าวไทย]]และ[[ทะเลอันดามัน]]เพื่อการวางไข่ของเต่าทะเล ซึ่งก็มีอยู่หลายแห่ง เช่นที่ [[หาดไม้ขาว]], [[อุทยานแห่งชาติสิรินาถ]]ใน[[จังหวัดภูเก็ต]]<ref>[http://www.dnp.go.th/parkreserve/asp/style1/default.asp?npid=90&lg=1 อุทยานแห่งชาติสิรินาถ]</ref> ที่[[อุทยานแห่งชาติเขาลำปี-หาดท้ายเหมือง]] [[จังหวัดพังงา]] บริเวณชายหาดของ[[หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง]] [[จังหวัดชลบุรี]] เป็นต้น ซึ่งไข่ที่ได้รับการวางและขุดหลุมฝังเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่จะมาเก็บเพื่อนำไปฟักต่อไป โดยจะมีบ่ออนุบาลเพื่อเลี้ยงดูลูกเต่าจนกระทั่งมีความแข็งแรงพอที่จะดำรงชีวิตตนเองได้แล้ว จึงจะนำไปปล่อย อีกทั้ง เมื่อพบเจอเต่าทะเลที่ได้รับบาดเจ็บก็จะนำกลับมารักษาพยาบาลให้อีกด้วย
 
สำหรับสถานะทางกฏหมายแล้ว เต่าทะเลทุกชนิดในประเทศไทย ถือเป็น[[สัตว์ป่าคุ้มครอง]]ตาม[[พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พุทธศักราช 2535]]<ref>[http://www.verdantplanet.org/protect/protectedanimal.php สัตว์ป่าคุ้มครอง]</ref>
 
==อ้างอิง==
*{{รายการอ้างอิง}}
* [http://www.allthesea.com/Sea-Turtles.html Sea turtle]
* [http://docs.google.com/viewer?a=v&q=cache:7Bc8m7t4SWkJ:dekdee.buu.ac.th/~s52140073/hw/brochure.doc+%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%A5+%E0%B8%96%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%99&hl=th&gl=th&pid=bl&srcid=ADGEESiAD-TOYDUPfG_SmeMrb6bZ6qvjA49YXuxFEf0A4IleN76waXZ_hDFW44Afo256qeADdLi9Lz-ML7Oti1jNBMB7TmhsVL5St1petlEh-cIVwYGGO0dYvZ-rflu4GarI0-dwebSS&sig=AHIEtbQ_2HRNYzHzDWoqpnVBb6UDgmEM5Q อาหารและการกินของเต่าทะเล]