ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เฮาส์ (แนวดนตรี)"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
เอา {{โครง}} ออก บทความยาวแล้ว
Sard112 (คุย | ส่วนร่วม)
บรรทัด 96:
===สหราชอาณาจักร: ปลายทศวรรษที่ 1980 - ต้นทศวรรษที่ 1990===
 
ในประเทศอังกฤษการเจริญเติบโตของแนวดนตรีเฮาส์สามารถแบ่งออกมาได้เป็นช่วงของเพลง 'ซัมเมอร์ ออฟ เลิฟ' ในปี 1988/9 เฮาส์ปรากฏตัวอยู่ในอังกฤษนานพอๆกับที่ปรากฏตัวอยู่ในชิคาโก เฮาส์เริ่มโตมาจากอังกฤษตอนเหนือก่อนจะลงมายังตอนกลางและตอนตะวันออกเฉียงใต้ตามลำดับ แนวดนตรีเฮาส์พบเมื่อปี 1982 โดย[[แฟกตอรี เร้กคอร์ทเรคคอร์ดส์]] [[เดอะ ฮาเซียนดา]]ในเมือง[[แมนเชสเตอร์]]กลายมันเป็นส่วนขยายของแนวเพลงประเภท[[นอร์ทเทิร์นโซล]]และถือว่าเป็นหนึ่งในบรรดาเพลงเต้นหลักๆของคลับใน[[อังกฤษ]]
 
ในปี 1986 คลับเริ่มเจอปัญหาครั้งใหญ่เมื่อฝูงชนจำนวนมากเริ่มโตขึ้นเรื่อยๆเมื่อไรก็ตามที่ดีเจประจำคลับอย่างพิกเกอรฺ์ริ่ง, ปาร์คและดา ซิลวาเริ่มเล่นแนวดนตรีเฮาส์ สถานที่พบปะผู้คนแบบใต้ดินและค่ำคืนแห่งดีเจย์เริ่มกระจายไปทั่วทุกสารทิศในสหราชอาณาจักรดังตัวอย่างเช่น ปาร์ตี้ส่วนตัวที่จัดขึ้นโดย มิส มันนี่เพนนียุคเริ่มแรกในเบอร์มิ่งแฮมและหลายๆสถานที่พบปะผู้คนในลอนดอน แนวดนตรีเฮาส์ถูกเผยแพร่ในประเทศอังกฤษจากการทัศนาจรในปีเดียวกันกับนักเกิ้ลส์, เจฟเฟอร์สัน, ฟิงเกอร์ส อิงซ์(เฮิร์ด)และอโดนิสที่ได้จัดการทัศนาจรดีเจย์นานาชาติ หนึ่งในทำนองเพลงสดุดีของยุคเริ่มแรกอย่าง 'พรอมิสต์ แลนด์'โดยโจ สมิธถูกนำมาร้องใหม่โดย เดอะ สไตล์ เคาน์ซิลและติดชาร์ตภายในหนึ่งอาทิตย์ ทำนองเพลงเฮาส์แบบอังกฤษออกมาครั้งแรกเมื่อปี 1986 ซึ่งได้แก่ 'คาริโน' โดย ที-คอย ชาวยุโรปต่างอ้าแขนรับเฮาส์เข้าสู่อ้อมอกและเริ่มจองดีเจเฮาส์ชาวอเมริกันแห่งตำนานมาเล่นในคลับใหญ่ๆเช่น มินิสทรี ออฟ ซาวน์ที่ซึ่งดีเจประจำอย่างดีเจฮาร์เวย์ได้ดึงเอาแลร์รีย์ ลีแวนเข้ามา
 
เมืองเบอร์มิ่งแฮม, แมนเชสเตอร์และลอนดอนต่างเปิดแนวดนตรีเฮาส์ตามสถานีเพลงใต้ดินอันผิดกฏหมายโดยดีเจจำเป็นที่ช่วยสันบสนุนแนวเพลงประเภทนี้ซึ่งเป็นนิยมชมชอบแต่กลับไม่ได้รับความสนใจจากกระแสดนตรีหลัก หนึ่งในค่ายเพลงเฮาส์และเทคโนอังกฤษที่เก่าแก่ที่สุดและมีอิทธิพลที่สุดในยุคนั้นคือ เนตเวิร์ค เร้กคอร์ท หรือที่รู้จักกันในนาม คูล แคท เร้กคอร์ทผู้ซึ่งมีส่วนช่วยในการแนะนำเพลงเต้นรำแบบอาตาเลียนและอเมริกันรวมทั้งการโปรโมตเพลงเต้นแบบอังกฤษแก่ชาวอังกฤษ
 
เฮาส์ยังถูกพัฒนาที่อิบิซาอีกด้วย ในช่วงทศวรรษที่ 1970 ได้มีการขัดขวางการจัดปาร์ตี้ที่มีคนหมู่มาก ช่วงกลางทศววษที่ 1980 เฮาส์แบบบาเลริกมิกซ์ได้เกิดขึ้น หลายๆคลับอย่างแอมนีเชียมีดีเจ อัสฟรีโด้ที่คอยเปิดเพลงมิกซ์ของร็อค,ป๊อปป็อป,ดิสโก้และเฮาส์ คลับเหล่านี้ที่ซึ่งถูกเสริมเติมเชื้อเพลิงแห่งความปิติยินดีด้วยเสียงเพลงที่มีความเป็นเอกลักษณ์เริ่มจะมีอิทธิพลต่อวงการอังกฤษ ในช่วงปลายปี 1987 ดีเจพอล โอเคนโฟลและแดนนี่ แรมปลิ้งต่างเริ่มนำเอาเสียงอิบิซาไปใช้ในคลับอังกฤษอย่าง ฮาเซียนดาในแมนเชสเตอร์และคลับในลอนดอน เช่น ชูมในเซาท์วาร์ค, เฮเว่น, ฟิวเจอร์และสเปคตรัม
 
ในสหรัฐอเมริกาดนตรีต่างถูกพัฒนามาอย่างต่อเนื่องเพืื่อสร้างเสียงที่มีความยุ่งยากซับซ้อนมากขึ้น มันรุดหน้าไปไกลกว่าแค่กลองเสียงและแซมเปิ้ลสั้นๆ ที่นิวยอร์คนักแสดงอย่างมาติโนแอนด์มาโตสและเบลสได้สร้างดิสโก้เฮาส์ที่ข้ามไป-มาระหว่างเพลง ในชิคาโกมาแชล เจฟเฟอร์สันได้ฟอร์มกลุ่มเฮาส์ชื่อ เท็น ซิตี้(ที่มาจากคำว่า อินเท็นซิตี้)ขึ้น ในดีทรอยต์ เสียงดนตรีแบบโปรโต-เทคโนเริ่มปรากฏในการบันทึกเพลงของฮวน แอทคินส์, เดอร์ริก เมย์และเควิน ซวนเดอร์สัน
 
แอทคินส์ สมาชิกผู้ก่อตั้ง ไซบอตรอน ได้ออกอัลบั้มที่ชื่อ [[โมเดล 500]] กับงานเพลง 'โน ยูเอฟโอ' ในปี 1985 ซึ่งต่อมากลาบเป็นเพลงฮิตระดับภาคตามด้วยเพลงอีกเป็นโหลบน ทรานสแมท, เมโทนเพล็กซ์และฟราจาย หนึ่งในบรรดาเพลงที่แปลกประหลาดสุดคือเพลง 'สตริงส์ ออฟ ไลฟ์' โดย เดอร์ริก เมย์ ซึ่งเป็นแนวเพลงเฮาส์ที่ฟังดูมืดมนและตรึงเครียดมากขึ้น 'เทคโน-สแครช' ที่ปล่อยออกมาโดย เดอะ ไคน้ท์ ออฟ เดอะ เทิร์นอะเบิล ในปี 1984 มีเสียงเทคโนที่คล้ายคลึงกับ ไซบอตรอน ผู้จัดการของไน้ท์คลับ แฟคตอรี่, โทนี่ วิลสันเป็นอีกหนึ่งบุคคลที่ช่วยโปรโมตวัฒนธรรมทางดนตรีแนวเอซิดเฮาส์บนรายการทีวีประจำสัปดาห์ของเขา เดอะ มิดแลนด์ยังน้อมรับเอาเฮาส์ในยุคปลายทศวรรษที่ 1980 เข้ามารใช้กับสถานที่ชุมนุมคนใต้ดิน เช่น อาคารจอดรถและสถานีเต้นรำที่ถูกกฏหมายอย่าง สถาบัน ดิ๊กเบธ(ปัจจุบันคือ 'เดอะ ซังชัวรี่' บ้านของซันดิสเซนทัล)
 
===สหรัฐอเมริกา: ปลายทศวรรษที่ 1980 - ต้นทศวรรษที่ 1990===
บรรทัด 130:
ย่างเข้าช่วงปลายทศวรรษที่ 1990 ก้าวสู่ทศวรรษที่ 2000 โปรดิวเซอร์อย่าง ดาฟ พังค์, แคสสัส, เซนต์. เจอร์เมนและดีเจ ฟอลคอน เริ่มผลิตเสียงแนวใหม่ออกมาจากเฮาส์ของปารีส พวกเขาได้วางฐานงานเอาไว้เพื่อสิ่งที่รู้จักกันในนาม การเคลื่อนไหวของเฮาส์แบบฝรั่งเศส โดยการรวบรวมเอา ปรัชญาแบบ'เหลี่ยมคมที่ชัดขึ้นแต่ยังคงซึ่งความเป็นโซล'ของชิคาโกเฮาส์กับเสียงดนตรีของเพลงฟังก์และดิสโก้จากยุค 1970 การก้าวหน้าพัฒนาระดับสูงสุดในช่วงเวลาหนึ่งนั้นของเทคนิคกระบวนการผลิต(อย่างสิ่งบางอย่างอาจล้ำสมัยจึงไม่เป็นที่ยิสมในกระแสดนตรีหลัก)รวมไปถึงเสียงจากเครื่องสังเคราะห์เสียงแบบอะนาลอก พวกเขาได้เริ่มสร้างมาตรฐานเพื่อที่จะได้คลอบคลุมแนวเพลงเฮาส์ที่จะถูกสร้างขึ้นมาใหม่โดยเฉพาะอย่างยิ่งดาฟ ฟังก์ที่ช่วยในเรื่องของความก้าวหน้าของประเภทเพลงในหลายๆด้านรวมไปถึงการที่พวกเขาได้นิยามการแสดงของเฮาส์ขึ้นมาใหม่ ก่อนที่พวกเขาจะปรากฏตัวดนตรีอิเลคโทรนิคส่วนใหญ่โดยเฉพาะเฮาส์และอีดีเอ็มที่ดีเจได้นำมาแสดงมักจะถูกสร้างขึ้นในสตูดิโอ วางกดลงไปในไวนิลแล้วนำมาเล่นบนระบบเสียงขนาดยักษ์อย่างไรก็ตามในช่วงเดบิวท์ทัวร์ของพวกเขา ดาฟ พังค์เลือกที่จะนำสตูดิโอของพวกเขาไปด้วยแล้วแสดงสดทุกเพลงบนเกียร์แบบอะนาลอก100เปอร์เซ็นต์ จวบจนปัจจุบันนี้พวกเขายังคงใช้เครื่องมือบางอย่างที่พวกเขาได้เคยใช้ในการแสดงทัวร์ครั้งนั้น
 
===เมื่อป๊อปป็อปก้าวเข้าสู่เฮาส์===
 
แม้แนวดนตรีเฮาส์จะหนักไปทางการเต้นแต่เฮาส์ก็เริ่มก้าวเข้าสู้วงการเพลงป๊อป[[ป็อป]]ใน[[ช่วงปลายทศวรรษที่ 1980]] ด้วยดนตรีแนวเฮาส์สไตล์ใหม่ที่รู้จักกันดีว่า [[ป็อปเฮาส์]] ดนตรีเฮาส์กับป๊อปได้กลายเป็นที่นิยมอย่างมากในช่วงปี 1987-1989 กับศิลปินอย่าง ครัช, โคลคัต[[โคลค์คัต]], [[แย๊ส]], เพนท์เฮาส์4, ป๊อปสตาร์, บอมบ์ เดอะ เบส, เอส-เอ็กซ์เพลสและแบล๊คบ๊อกซ์ซึ่งเป็นกลุ่มศิลปินแนวป็อปเฮาส์จากอิตาลี
.
===ศตวรรษที่ 21: ช่วงทศวรรษที่ 2000===