ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ไกรทอง"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ย้อนการแก้ไขของ 2001:FB1:13E:2FD0:2108:1782:BA74:8390 (พูดคุย) ไปยังรุ่นก่อนหน้าโดย MayThe2nd
ป้ายระบุ: ย้อนรวดเดียว
บรรทัด 18:
[[ไฟล์:วัดอัมพวันเจติยาราม จังหวัดสมุทรสงคราม 07.JPG|thumb|250px|ภาพการชิงตัวตะเภาแก้ว และตะเภาทอง ของชาละวัน ที่[[วัดอัมพวันเจติยาราม]]]]
 
กาลครั้งหนึ่ง มีถ้ำแก้ววิเศษเป็นที่อยู่ของจระเข้(ใต้) ในถ้ำมีลูกแก้ววิเศษที่ส่องแสงดุจเวลากลางวัน จระเข้ทุกตัวที่เข้ามาในถ้ำจะกลายเป็นมนุษย์ มี''ท้าวรำไพ'' เป็นจระเข้เฒ่าผู้ทรงศีล ไม่กินเนื้อมนุษย์และสัตว์ มีบุตรชื่อ ''ท้าวโคจร ซึ่งนิสัยแตกต่างจากพ่อโดยสิ้นเชิง'' ท้าวโคจรมีบุตรชื่อ ''ชาละวัน'' วันหนึ่ง ท้าวโคจร เกิดทะเลาะวิวาทกับ''ท้าวแสนตา''และ''พญาพันวัง(เหนือ)'' ท้าวโคจรโกรธที่ท้าวแสนตาฆ่าลูกน้องของตนจึงเข้ามาขอท้าสู้ แต่ท้าวแสนตาก็ไม่อาจสู้กำลังของข้ด้เรพหพำเไหงท้าวโคจรได้ พญาพันวังโมโหที่ท้าวโคจรฆ่าพี่ชายของตนจึงขึ้นมาสู้กับท้าวโคจร สุดท้ายทั้งสามก็จบชีวิตลงจากบาดแผลที่เกิดจากการสู้รบกัน
 
หลังจากนั้น ''พญาชาละวัน'' บุตรของท้าวโคจร ก็ได้ขึ้นเป็นผู้ปกครองถ้ำบาดาลโดยไม่มีใครกล้าท้าทายอำนาจ และได้จระเข้สาวสองตัวเป็นเมียคือ ''วิมาลา'' กับ ''เลื่อมลายวรรณ'' ด้วยความลุ่มหลงในอำนาจ ชาละวันจึงมีนิสัยดุร้ายต้องการกินเนื้อมนุษย์ และไม่รักษาศีลเหมือนท้าวรำไพผู้เป็นปู่แต่อย่างใด เพราะถือว่าตนเป็นผู้ปกครองถ้ำ มีอำนาจอยากจะทำอะไรก็ได้
เข้าถึงจาก "https://th.wikipedia.org/wiki/ไกรทอง"