ผลต่างระหว่างรุ่นของ "บัสตีย์"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Phaisit16207 (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Potapt (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 6:
|name=บัสตีย์
|partof=
|location=[[ปารีส]], ฝรั่งเศส
|coordinates = {{coord|48.85333|2.36917|type:landmark_region:FR-75|display=inline,title|format=dms}}
|map_type = Paris
บรรทัด 13:
|map_caption = The Bastille's location in Paris
|image=[[File:Bastille Exterior 1790 or 1791.jpg|250px]]
|caption=ภาพวิวทางมุมมองด้านตะวันออกของคุกบัสตีย์ ซึ่งถูกวาดขึ้นในราว ค.ศ. 1790
|type=[[Medieval castle|ป้อมปราการสมัยกลาง, เรือนจำ]]
|code=
|built= คริสต์ทษวรรษที่ทศวรรษ 1370–1380
|builder=[[พระเจ้าชาร์ลที่ 5 แห่งฝรั่งเศส]]
|materials=
บรรทัด 32:
}}
 
'''บัสตีย์''' ({{lang-fr|Bastille}}; {{IPA-fr|bastij|pron|LL-Q150 (fra)-Ltrlg-Bastille.wav}}) เป็นป้อมปราการที่ตั้งอยู่ใน[[ปารีส|กรุงปารีส]] ซึ่งมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า '''บัสตีย์ แซ็ง-ต็องตวนตีย์แซ็งต็องตวน''' ({{lang|fr|Bastille Saint-Antoine}}) โดยป้อมบัสตีย์มีบทบาทสำคัญในความขัดแย้งภายในของฝรั่งเศส และในประวัติศาสตร์นั้น พระมหากษัตริย์ของฝรั่งเศสมักใช้ป้อมบัสตีย์ถูกใช้เป็นเรือนจำของรัฐโดยพระมหากษัตริย์ของฝรั่งเศสเป็นส่วนใหญ่ ใน[[การปฏิวัติฝรั่งเศส]] ฝูงชนได้[[การทลายคุกบัสตีย์|ทลายคุกบัสตีย์]]ในวันที่ 14 กรกฎาคม ค.ศ. 1789 และได้เหตุการณ์นี้กลายเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญของขบวนการนิยมระบอบสาธารณรัฐฝรั่งเศส ซึ่งในภายหลัง ป้อมบัสตีย์ถูกรื้อถอนและถูกแทนที่ด้วย[[ปลัสเดอลาบัสตีย์|จัตุรัสบัสตีย์]] ({{lang|fr|Place de la Bastille}})
 
ตัวป้อมนั้นมีแผนที่จะสร้างในช่วงปี 1357 แต่เริ่มสร้างอย่างจริงจังในช่วงปี 1370 เพื่อป้องกันการบุกโจมตีของพวกชาวอังกฤษในช่วง[[สงครามร้อยปี]] โดยตัวอาคารประกอบไปด้วยหอคอย 8 อันหอในการเสริมสร้างโครงสร้างให้แข็งแรง โดยมันตังตั้งอยู่ที่บริเวณประตูปอร์ต แซ็ง-อ็องตวนปอร์ตแซ็งต็องตวน (Porte Saint-Antoine) ทางทิศตะวันออกของเมืองปารีส ซึ่งในฐานะป้อมปราการป้องกันข้าศึก บัสตีย์เลยผ่านเหตุการณ์การต่อสู้มานับไม่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็นการต่อสู้กับพวกชาวเบอร์กันดีบูร์กอญและพวกกลุ่มอาร์มาญักในช่วงศตวรรษที่ 15 หรือในช่วงสงครามศาสนาในศตวรรษที่ 16 ซึ่งในช่วงนั้นยังมีการขยายแนวป้องกันด้วยการขยายกำแพงเมืองสร้างเป็น[[มุขกำแพง]]ยื่นออกไปหน้าป้อม เพื่อทำให้การป้องกันของป้อมแน่นหนาขึ้น ในขณะเดียวกันป้อมบัสตีย์ก็ยังใช้เป็นเรือนจำขังพวกนักโทษด้วย โดยเริ่มขังนักโทษชาวอังกฤษในช่วงปี 1417 ก่อนจะเริ่มขยายพื้นที่ในช่วงทศวรรษที่ 1420s และอีกครั้งในช่วงสมัยการปกครองของ[[พระเจ้าหลุยส์ที่ 11 แห่งฝรั่งเศส]]
 
ในสมัย[[พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งฝรั่งเศส|พระเจ้าหลุยส์ที่ 14]] ป้อมหรือคุกบัสตีย์นี้มีหน้าที่หลักคือการคุมขังพวกขุนนางที่เห็นต่างกับพระเจ้าหลุยส์ โดยนับตั้งแต่ปี 1659 เป็นต้นมา ป้อมบัสตีย์มีหน้าที่เป็น' "เรือนจำของรัฐ'" ซึ่งคาดการณ์กันว่านับตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงปี 1789 มีนักโทษถูกส่งเข้าไปนอนในเรือนจำไม่ต่ำกว่า 5279 คน ซึ่งในจำนวนนี้ถูกคุมขังเป็นส่วนมากในช่วงสมัย[[พระเจ้าหลุยส์ที่ 15 แห่งฝรั่งเศส|พระเจ้าหลุยส์ที่ 15]] และ[[พระเจ้าหลุยส์ที่ 16 แห่งฝรั่งเศส|พระเจ้าหลุยส์ที่ 16]] ซึ่งคนส่วนมากที่ถูกจับเข้าไปคุมขังส่วนมากเป็นคนทีเห็นต่างทางการเมือง และป้อมนี้ยังใช้สนับสนุนปฏิบัติของตำรวจปารีส โดยเฉพาะในการบังคับใช้การตรวจพิจารณาสื่อสิ่งพิมพ์ในช่วงนั้น ซึ่งนั่นทำให้คุกแห่งนี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์อยู่บ่อยครั้งในช่วงศตวรรษที่ 18 และยิ่งมีแรงหนุนสำคัญจากการเขียนหนังสืออัตชีวประวัติของเหล่านักโทษที่เคยถูกคุมขังในคุกบัสตีย์ ในที่สุดจึงต้องมีการปฏิรูปคุกครั้งใหญ่ซึ่งทำให้มีการกักขังนักโทษลดลงเป็นอย่างมาก
 
ทว่าแค่นั้นก็ไม่พอที่จะลดกระแสความไม่พอใจลงไปได้ ในวันที่ 14 กรกฎาคม 1789 ฝูงชนจำนวนมากบุกเข้าถล่มคุกบัสตีย์เพื่อเอาพวกดินปืนอันมีค่า จากนั้นก็ปลดปล่อยนักโทษที่อยู่ในนั้นเพียงแค่ 7 คน นี่เป็นสัญลักษณ์สำคัญของ[[การปฏิวัติฝรั่งเศส]] หลังจาก[[การทลายคุกบัสตีย์]]รัฐบาลใหม่ก็ได้มีคำสั่งรื้อถอนคุกบัสตีย์แห่งนี้แล้วเอาอิฐไปใช้ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของเมือง ซึ่งการกระทำนี้ถูกมองว่าเป็นการทำลายระบบการผูกขาดอำนาจเบ็ดเสร็จและระบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ของฝรั่งเศส หลังจากนั้นพื้นที่แห่งนี้ก็ได้รับการพัฒนาเป็นจัตุรัส และเป็นพื้นที่สำคัญในการเรียกร้องประเด็นสำคัญต่าง ๆ ของชาวฝรั่งเศส
 
ทว่าแค่นั้นก็ไม่พอที่จะลดกระแสความไม่พอใจลงไปได้ ในวันที่ 14 กรกฎาคม 1789 ฝูงชนจำนวนมากบุกเข้าถล่มคุกบัสตีย์เพื่อเอาพวกดินปืนอันมีค่า จากนั้นก็ปลดปล่อยนักโทษที่อยู่ในนั้นเพียงแค่ 7 คน นี่เป็นสัญลักษณ์สำคัญของ[[การปฏิวัติฝรั่งเศส]] หลังจาก[[การทลายคุกบัสตีย์]]รัฐบาลใหม่ก็ได้มีคำสั่งรื้อถอนคุกบัสตีย์แห่งนี้แล้วเอานำอิฐไปใช้ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของเมือง ซึ่งการกระทำนี้ถูกมองว่าเป็นการทำลายระบบการผูกขาดอำนาจเบ็ดเสร็จและระบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ของฝรั่งเศส หลังจากนั้นพื้นที่แห่งนี้ก็ได้รับการพัฒนาเป็นจัตุรัส และเป็นพื้นที่สำคัญในการเรียกร้องประเด็นสำคัญต่าง ๆ ของชาวฝรั่งเศส
 
== ประวัติ ==
 
=== ช่วงศตวรรษที่ 14 ===
[[ไฟล์:Bastille reconstruction 1420.jpg|thumb|300px|ภาพประวัติศาสตร์ของคูคลองรอบกำแพงเมืองปารีส (ซ้าย), และป้อมบัสตีย์และประตูปอร์ต แซ็ง-อ็องตวนปอร์ตแซ็งต็องตวน (ขวา) inในปี 1420]]
 
ป้อมบัสตีย์สร้างขึ้นด้วยจุดประสงค์หลักคือการป้องกันพวกอังกฤษในระหว่าง[[สงครามร้อยปี]] โดยแต่เดิมนั้นศูนย์กลางอำนาจของปารีสอยู่ที่[[พระราชวังลูฟวร์]]ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันตก แต่เพราะสงครามกับพวกอังกฤษนั้นเน้นหนักไปที่การต่อสู้ในทางฝั่งตะวันออก ทำให้เมืองต้องขยายตัวขึ้น และสถานการณ์การต่อสู้กับทางอังกฤษของฝรั่งเศก็ย่ำแย่ลงเป็นอย่างมาก นับตั้งแต่การที่[[พระเจ้าฌ็องที่ 2 แห่งฝรั่งเศส|พระเจ้าฌ็องที่ 2]] ถูกพวกอังกฤษจัมกุมตัวไปหลังความพ่ายแพ้ของฝรั่งเศสใน[[ยุทธการที่ปัวตีเย]] เหตุการณ์นั้นเร่งให้ต้องมีการป้องกันเมืองปารีสครั้งใหญ่ โดยภาวะขาดผู้นำทำให้ เอเตียน มาร์แซล (Étienne Marcel) ขึ่นมาเป็นผู้ครองนครปารีส และเร่งรัดในการสร้างหอคอยสูงขึ้นมาที่ประตูปอร์ต แซ็ง-อ็องตวน โดยมีแผนเริ่มสร้างในช่วงปี 1357 แต่ก็ยังไม่สามารถทำได้ เพราะเอเตียน มาร์แซลผู้เป็นแม่งานโดนประหารไปเสียก่อน
 
ป้อมบัสตีย์สร้างขึ้นด้วยจุดประสงค์หลักคือการป้องกันพวกอังกฤษในระหว่าง[[สงครามร้อยปี]] โดยแต่เดิมนั้นศูนย์กลางอำนาจของปารีสอยู่ที่[[พระราชวังลูฟวร์]]ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันตก แต่เพราะสงครามกับพวกอังกฤษนั้นเน้นหนักไปที่การต่อสู้ในทางฝั่งตะวันออก ทำให้เมืองต้องขยายตัวขึ้น และสถานการณ์การต่อสู้กับทางอังกฤษของฝรั่งเศก็ย่ำแย่ลงเป็นอย่างมาก นับตั้งแต่การที่[[พระเจ้าฌ็องที่ 2 แห่งฝรั่งเศส|พระเจ้าฌ็องที่ 2]] ถูกพวกอังกฤษจัมกุมตัวไปหลังความพ่ายแพ้ของฝรั่งเศสใน[[ยุทธการที่ปัวตีเย]] เหตุการณ์นั้นเร่งให้ต้องมีการป้องกันเมืองปารีสครั้งใหญ่ โดยภาวะขาดผู้นำทำให้ เอเตียน มาร์แซล (Étienne Marcel) ขึ่นมาเป็นผู้ครองนครปารีส และเร่งรัดในการสร้างหอคอยสูงขึ้นมาที่ประตูปอร์ต แซ็ง-อ็องตวนปอร์ตแซ็งต็องตวน โดยมีแผนเริ่มสร้างในช่วงปี 1357 แต่ก็ยังไม่สามารถทำได้ เพราะเอเตียน มาร์แซล ผู้เป็นแม่งานโดนประหารไปเสียก่อน
ต่อมาในปี 1369 [[พระเจ้าชาร์ลที่ 5 แห่งฝรั่งเศส|พระเจ้าชาร์ลที่ 5]] มีความกังวลในสถานการณ์แนวป้องกันฝั่งตะวันออกที่ต้องทำกับพวกอังกฤษและพวกทหารรับจ้าง พระเจ้าชาร์ลที่ 5 จึงให้รื้อฟื้นโครงการ 'บัสตีย์' ขึ้นมา ปรับโครงสร้างเล็กน้อย ใหสร้างหอคอยสี่อัน เป็นคู่หนึ่งทางทิศเหนือและอีกคู่ทางทิศใต้ ตัวป้อมเริ่มสร้างในปี 1370 ซึ่งก็มาสร้างเสร็จในสมัย[[พระเจ้าชาร์ลที่ 6 แห่งฝรั่งเศส|พระเจ้าชาร์ลที่ 6]] อันเป็นสมัยพระราชโอรส โดยป้อมบัสตีย์ที่สร้างเสร็จนั้นก็เป็นป้อมที่ประกอบด้วยหอคอยสูงแปดหอคอยที่เชื่อมต่อกันด้วยกำแพงอิฐยาวกว่า 223 ฟุต (68 เมตร) กว้าง 121 ฟุต (37 เมตร) และมีความสูงที่ 78 ฟุต (24 เมตร) ด้วยความสูงของหอคอยที่เท่ากันทำให้ที่ด้านบนมีการสร้างทางเดินเชื่อมระหว่างหอคอยท้งหมดเข้าไว้ด้วยกันเพื่อเป็นแนวป้องกัน สำหรับหอคอยทั้งแปดนั้นสองหอคอยเก่าที่สร้างตั้งแต่เริ่มแรกนั้นจะไม่มีชั้นใต้ดินใต้หอคอย บริเวณด้านนอกยังผันน้ำจากแม่น้ำแซมมาเป็นคูน้ำรอบปราการ นอกจากนี้ไม่ห่างไปจากที่ตั้งของบัสตีย์ทางทิศตะวันตก ก็ยังมีนิวาสสถานเก่าของพระเจ้าชาร์ลที่ 5 ที่อพยพมาตั้งหลักอยู่ตรงนี้ ด้วยเพราะว่ามองว่าพื้นที่ของบัสตีย์นั้นปลอดภัยที่สุด
 
ต่อมาในปี 1369 [[พระเจ้าชาร์ลที่ 5 แห่งฝรั่งเศส|พระเจ้าชาร์ลที่ 5]] มีความกังวลในสถานการณ์แนวป้องกันฝั่งตะวันออกที่ต้องทำกับพวกอังกฤษและพวกทหารรับจ้าง พระเจ้าชาร์ลที่ 5 จึงให้รื้อฟื้นโครงการ '"บัสตีย์'" ขึ้นมา ปรับโครงสร้างเล็กน้อย ใหสร้างหอคอยสี่อัน เป็นคู่หนึ่งทางทิศเหนือและอีกคู่ทางทิศใต้ ตัวป้อมเริ่มสร้างในปี 1370 ซึ่งก็มาสร้างเสร็จในสมัย[[พระเจ้าชาร์ลที่ 6 แห่งฝรั่งเศส|พระเจ้าชาร์ลที่ 6]] อันเป็นสมัยพระราชโอรส โดยป้อมบัสตีย์ที่สร้างเสร็จนั้นก็เป็นป้อมที่ประกอบด้วยหอคอยสูงแปดหอคอยที่เชื่อมต่อกันด้วยกำแพงอิฐยาวกว่า 223 ฟุต (68 เมตร) กว้าง 121 ฟุต (37 เมตร) และมีความสูงที่ 78 ฟุต (24 เมตร) ด้วยความสูงของหอคอยที่เท่ากันทำให้ที่ด้านบนมีการสร้างทางเดินเชื่อมระหว่างหอคอยท้งหมดเข้าไว้ด้วยกันเพื่อเป็นแนวป้องกัน สำหรับหอคอยทั้งแปดนั้นสองหอคอยเก่าที่สร้างตั้งแต่เริ่มแรกนั้นจะไม่มีชั้นใต้ดินใต้หอคอย บริเวณด้านนอกยังผันน้ำจากแม่น้ำแซมมาเป็นคูน้ำรอบปราการ นอกจากนี้ไม่ห่างไปจากที่ตั้งของบัสตีย์ทางทิศตะวันตก ก็ยังมีนิวาสสถานเก่าของพระเจ้าชาร์ลที่ 5 ที่อพยพมาตั้งหลักอยู่ตรงนี้ ด้วยเพราะว่ามองว่าพื้นที่ของบัสตีย์นั้นปลอดภัยที่สุด
นักประวัติศาสตร์ได้อธิบายว่าป้อมบัสตีย์นั้น เป็น 'ป้อมที่ทรงอำนาจมากที่สุดในยุคกลาง' โดยบัสตีย์เป็นป้อมสำคัญในช่วงปลายยุคกลางของปารีส สำหรับป้อมบัสตีย์นั้นถูกสร้างขึ้นโดยพัฒนาการออกแบบมาจากปราสาทในชนบทที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 13 ที่มักจะค่อนข้างอ่อนแอ และมีหอคอยสูงคอยสั่งการหอคอยต่าง ๆ ซึ่งเป็นการยากลำบากที่จะปรับรูปแบบการป้องกันด้านบนหอคอยหากทหารบนหอคอยเป็นอะไรไป นั่นเป็นเหตุผลทำให้บัสตีย์มีหอคอยทุกหอสูงเท่ากันและมีทางเชื่อมเดินถึงกัน เพื่อสามารถส่งกำลังพลและอาวุธยุทธโปกรณ์ไปยังพื้นที่ว่างของหอคอยในการป้องกันได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งต่อมาความคิดทางด้านสถาปัตยกรรมของบัสตีย์ก็ได้รับการปรับใช้ในการสร้างป้อมของฝรั่งเศส ลามไปจนถึงอังกฤษที่ลอกเลียนแบบในการสร้างปราสาทนันนีย์ (Nunney Castle) ด้วยเช่นกัน
 
นักประวัติศาสตร์ได้อธิบายว่าป้อมบัสตีย์นั้นตีย์นั้นเป็น เป็น '"ป้อมที่ทรงอำนาจมากที่สุดในยุคกลาง'" โดยบัสตีย์เป็นป้อมสำคัญในช่วงปลายยุคกลางของปารีส สำหรับป้อมบัสตีย์นั้นถูกสร้างขึ้นโดยพัฒนาการออกแบบมาจากปราสาทในชนบทที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 13 ที่มักจะค่อนข้างอ่อนแอ และมีหอคอยสูงคอยสั่งการหอคอยต่าง ๆ ซึ่งเป็นการยากลำบากที่จะปรับรูปแบบการป้องกันด้านบนหอคอยหากทหารบนหอคอยเป็นอะไรไป นั่นเป็นเหตุผลทำให้บัสตีย์มีหอคอยทุกหอสูงเท่ากันและมีทางเชื่อมเดินถึงกัน เพื่อสามารถส่งกำลังพลและอาวุธยุทธโปกรณ์ยุทโธปกรณ์ไปยังพื้นที่ว่างของหอคอยในการป้องกันได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งต่อมาความคิดทางด้านสถาปัตยกรรมของบัสตีย์ก็ได้รับการปรับใช้ในการสร้างป้อมของฝรั่งเศส ลามไปจนถึงอังกฤษที่ลอกเลียนแบบในการสร้างปราสาทนันนีย์ (Nunney Castle) ด้วยเช่นกัน
 
[[หมวดหมู่:การปฏิวัติฝรั่งเศส]]