ผลต่างระหว่างรุ่นของ "บ็อกด์ ข่าน"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Novaskosia (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Phyblas (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 24:
| issue-pipe =
| house =
| full name = จอว์ซาน ดัมบา คูทักต์ บอดจ์บ็อกด์ กาเกน เอเซน ข่าน
| father = [[กอนซิกทเซเรน]]
| mother = ไม่ปรากฏพระนาม
บรรทัด 41:
== พระราชประวัติ ==
=== ช่วงต้นพระชนม์ชีพ ===
บอจด์ กาเกน องค์ที่ 8 ประสูติในปีค.ศ. 1869<ref>บางแหล่งข้อมูลระบุว่าประสูติในปีค.ศ. 1870 อ้างจากหนังสือ — датировку см. ''Сонинбаяр Ш., Пунсалдулам Б.'' 2009. Монголын тусгаар тогтнол оюун санааны их удирдагч VIII Богд Жэвзундамба хутагт. Улаанбаатар. Кроме того, могла быть просто не учтена разница в календарях.</ref> ที่ [[จังหวัดหลี่ถาง]] [[ภูมิภาคคาม]] ในครอบครัวข้าราชการชาวทิเบต<ref>Soninbayar, Sh. and Punsaldulam, B. 2009. Mongolyn Tusgaar Togtnol Oyuun Sanaany Ikh Unirdagch VIII Bogd Jevzundamba Khutagt. Ulaanbaatar.</ref> ในปีหลังจาก[[บอจด์ กาเกนที่ 7]] หรือ [[จอว์ซาน ดัมบา คูทักต์]] องค์ที่ 7 สวรรคต ทำให้ทรงถูกเลือกขึ้นเป็นผูสืบทอดตำแหน่งองค์ต่อไป พระบิดาของเด็กหนุ่มคือ กอนชิกทเซเรน เป็นสมุหบัญชีในราชสำนักของ[[ทะไลลามะที่ 12]] ช่วงปีแรกๆของพระชนม์ชีพ พระองค์ประทับร่วมกับพระมารดาที่[[ลาซา]]ใน[[พระราชวังโปตาลา]]ของทะไลลามะ<ref>По данным [[Позднеев, Алексей Матвеевич|А. М. Позднеева]]; цит. по: [http://journal.iea.ras.ru/online/2006/EOO2006_5c.pdf ''Монгуш М.'' Известный и неизвестный Богдо-гэгэн // Этнографическое обозрение Online. 2006. Сентябрь. С. 3]</ref> เด็กชายได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการในฐานะบอจด์ กาเกนองค์ใหม่ ที่พระราชวังโปตาลา โดย[[ทะไลลามะที่ 13]] และ[[ปันเชนลามะ]]<ref>Knyazev, N.N. The Legendary Baron. - In: Legendarnyi Baron: Neizvestnye Stranitsy Grazhdanskoi Voiny. Moscow: KMK Sci. Press, 2004, {{ISBN|5-87317-175-0}} p. 67</ref> ในปีค.ศ. 1873-1874 มีการจัดขบวนขนาดใหญ่รวมถึงเหล่าลามะ ออกจากกรุงลาซา<ref>См.: [[Сазыкин, Алексей Георгиевич|''Сазыкин А. Г.'']] В Лхасу за гэгэном // Историография и источниковедение истории стран Азии и Африки. Вып. XIII. — Л., 1990. C. 202—214.</ref> เพื่อติดตามรับใช้องค์[[ตูลกู]] (หมายถึงเด็กชายที่ได้รับยศตำแหน่งทางศาสนา) ไปยังมองโกเลีย ในปี ค.ศ. 1875 [[บอดจ์บ็อกด์ กาเกนที่ 8]] มาถึง[[อูลานบาตาร์]] เมืองหลวงของมองโกเลียส่วนนอกอย่างปลอดภัย
 
มีบันทึกของพยานในเหตุการณ์ ว่า <blockquote>"''...พระองค์ไม่ได้เป็นหุ่นเชิดของเหล่าลามะ แต่ในทางกลับกัน เหล่าลามะต่างหากที่อยู่ในกำมือของพระองค์ ในช่วงวัยเยาว์ทรงมีพระประสงค์ที่จะฟื้นฟูอาณาจักรชาวมองโกเลียอันยิ่งใหญ่ของเจงกิสข่าน หรืออย่างน้อย คือการปลดปล่อยมองโกเลียออกจากการยึดครองของชาวจีน และสร้างให้มองโกเลียพึ่งพาตนเองได้ เหล่าเจ้าขุนมูลนายในท้องถิ่นหวาดกลัวพระองค์ยิ่งนัก แต่ประชาชนชื่นชอบพระองค์... ทรงเป็นผู้ปกครององค์แรกที่เฉลียวฉลาดและเป็นอิสระ พระองค์ไม่ยอมรับอำนาจใดๆให้มามีเหนือมองโกเลีย ทั้งจากทิเบตและจีน''"<ref>Tornovsky, M.G. Events in Mongolia-Khalkha in 1920-1921. - In: Legendarnyi Baron: Neizvestnye Stranitsy Grazhdanskoi Voiny. Moscow: KMK Sci. Press, 2004, {{ISBN|5-87317-175-0}} p. 181</ref></blockquote>
 
=== การเผชิญหน้ากับคณะบริหารแห่งราชวงศ์ชิงในอูการ์ ===
เพียงเวลาห้าปีหลังจากบอจด์ กาเกนเสด็จจากทิเบตมาถึงอูการ์ (อูลานบาตาร์) ตอนนั้นมีพระชนมายุเพียง 10 ชันษา บอดจ์บ็อกด์ กาเกนได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับการปกครองเมืองหลวงที่นำโดยกลุ่มพ่อค้าชาวจีน ที่พยายามทำให้ประชาชนเกิดความห่างเหินต่อศาสนาและห่างเหินจากสังคมโลก กลุ่มพ่อค้าชาวจีนได้ยึดครองพระอารามตามศาสนาพุทธเป็นร้านค้าจำหน่ายสินค้า ในปีค.ศ. 1882 พระองค์ได้มีสาส์นถวายรายงานต่อ[[จักรพรรดิกวังซฺวี่]]แห่งราชวงศ์ชิง โดยทรงชี้แจงว่า ถ้ากลุ่มพ่อค้าชาวจีนไม่ย้ายออกไปจากอูการ์ พระองค์เองจะย้ายเมืองหลวงจากอูการ์ไปประทับที่[[อารามเออเดอนีซู]]แทน เจ้าหน้าที่จากรัฐบาลชิงยินยอมตามข้อเรียกร้องและมีคำสั่งให้พวกพ่อค้าออกไปจากพระอาราม (พ่อค้าชาวรัสเซียยังคงได้รับอนุญาตให้ค้าขายในอาคารเดิมได้)<ref>''[[Позднеев, Алексей Матвеевич|Позднеев А. М.]]'' Очерки быта буддійскихъ монастырей и буддійскаго духовенства въ Монголии въ связи съ отношеніями вего последняго къ народу. Санкт-Петербург, Типография Императорской Академии наук, 1887. — с. 371</ref>
 
บอดจ์บ็อกด์ กาเกนทรงท้าทายรัฐบาลราชวงศ์ชิงหลายครั้ง พระองค์ซ่อนตัวพระอาจารย์ชราของพระองค์เองภายในพระราชวัง โดยปฏิเสธที่จะส่งตัวเขาไปขึ้นศาลของคณะบริหารจากราชวงศ์ชิง พระองค์ทรงประกาศต่อต้านนโยบายการขึ้นภาษีอย่างเปิดเผย โดยเป็นนโยบายของข้าราชการจากราชสำนักชิงในท้องถิ่น ที่ชื่อว่า เต๋อหลิง ทรงปฏิเสธที่จะให้เขาเข้าเฝ้า และในที่สุดพระองค์ประสบความสำเร็จในการกดดันให้เขาลาออกจากตำแหน่ง ทั้งๆที่เขาได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลกรุงปักกิ่งอย่างแข็งขัน<ref>[[Архив внешней политики Российской империи|АВПРИ]], ф. Китайский стол, оп. 491, д. 1454, л. 62 (из донесения российского консула в Урге В. Ф. Любы)</ref> มีหลักฐานว่าบอดจ์บ็อกด์ กาเกนในวัยหนุ่ม ทรงได้รับการกล่าวถึงในฐานะผู้นำรุ่นใหม่ผู้ทรงอำนาจแห่งพุทธศาสนามองโกเลีย ที่พยายามรับมือกับอำนาจของรัฐบาลจักรพรรดิราชวงศ์ชิงที่เข้ามาควบคุมมากขึ้นในปี ค.ศ. 1900<ref>Торновский М.Г. События в Монголии-Халхе в 1920-1921 годах // Легендарный барон: неизвестные страницы гражданской войны. М.: КМК, 2004 ISBN 5-87317-175-0 сс. 181</ref>
 
== อ้างอิง ==