ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เครื่องสูบน้ำ"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Nix Sunyata (คุย | ส่วนร่วม)
บรรทัด 4:
 
== ประเภทของเครื่องสูบน้ำ ==
1.project mbappe
แบ่งตามลักษณะการทำงานออกเป็น 2 คือ
 
# แบบอาศัยแรงกลไกการเหวี่ยงหนีศูนย์กลางในการพาของเหลว
# แบบอาศัยการแทนที่ในการพาของเหลว
 
เครื่องสูบน้ำอัตโนมัติจะเหมาะสำหรับอาคาร [[ตึกแถว]] [[ทาวน์เฮ้าส์]] และบ้านเดี่ยว โดยจะทำงานด้วยระบบสวิตซ์เปิด-ปิดอัตโนมัติ ประหยัดไฟฟ้า มีกำลังส่งไปยังจุดต่าง ๆ ภายในบ้านได้ดี และสามารถต่อกับเครื่องทำน้ำอุ่น [[เครื่องซักผ้า]] หรือก๊อกน้ำได้
 
* เครื่องสูบน้ำแบบแรงดันคงที่ เหมาะสำหรับอาคารตึกแถว ทาวน์เฮ้าส์ บ้านเดี่ยว เป็นเครื่องสูบแบบอัตโนมัติควบคุมแรงดันคงที่ ให้น้ำสม่ำเสมอ เหมาะกับการติดตั้งใช้กับเครื่องทำน้ำอุ่น และไม่เป็น[[สนิม]]ตลอดอายุการใช้งาน
* เครื่องสูบน้ำแบบหอยโข่ง เหมาะสำหรับการสูบน้ำขึ้นตึกสูง และงานเกษตร เช่นการสูบจากถังเก็บน้ำหรือบ่อ หรือใช้งานกับสปริงเกอร์ โดยสามารถสูบน้ำได้ในปริมาณที่มาก และมีแรงส่งที่สูง
* เครื่องสูบน้ำแบบจุ่ม เหมาะสำหรับงานสูบน้ำออก เช่นการระบาย[[น้ำท่วม]] หรือการใช้งานในบ่อน้ำพุ ซึ่งเครื่องประเภทนี้จะมีแรงส่งต่ำ แต่สูบน้ำได้ในปริมาณมาก ๆ
 
== การเลือกใช้ ==
{| class="wikitable"
|-
! ลักษณะบ้านและการใช้งาน
! ขนาดเครื่องสูบน้ำที่เหมาะสม (วัตต์)
|-
| บ้านไม่เกิน 2 ชั้น มีการใช้น้ำพร้อมกันไม่เกิน 2 จุด
| 100 วัตต์
|-
| บ้านไม่เกิน 2 ชั้น มีการใช้น้ำพร้อมกันไม่เกิน 2 จุด มีเครื่องทำน้ำอุ่น 1 เครื่อง
| 150 วัตต์
|-
| บ้านไม่เกิน 3 ชั้น มีการใช้น้ำพร้อมกันไม่เกิน 2 จุด มีเครื่องทำน้ำอุ่น 1 เครื่อง
| 200 วัตต์
|-
| บ้านไม่เกิน 4 ชั้น มีการใช้น้ำพร้อมกันไม่เกิน 3 จุด มีเครื่องทำน้ำอุ่น 1 เครื่อง
| 250 วัตต์
|-
| บ้านไม่เกิน 4 ชั้น มีการใช้น้ำพร้อมกันไม่เกิน 3 จุด มีเครื่องทำน้ำอุ่น 2 เครื่อง
| 300 วัตต์
|}
 
== การทำงานของเครื่องสูบน้ำประเภทต่าง ๆ ==
 
เครื่องสูบน้ำมีทั้งแบบที่ใช้[[มอเตอร์ไฟฟ้า]] และแบบที่ใช้[[เครื่องยนต์สันดาปภายใน|เครื่องยนต์]] เพื่อทำหน้าที่หมุนส่งกำลังให้เครื่องสูบทำงานเพิ่มแรงดันและส่งน้ำไปตามท่อ โดยแบบที่ใช้ในบ้านส่วนใหญ่จะเป็นแบบไฟฟ้า ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ ๆ คือ
 
;เครื่องสูบน้ำแบบใบพัด
ทำงานด้วยการหมุนของใบพัด ทำให้เกิดแรงดันจ่ายไปตามท่อน้ำ มีข้อดีที่ขนาดเล็ก หลักการทำงานที่เรียบง่าย มีชิ้นส่วนน้อย จ่ายน้ำได้ในปริมาณมาก และสร้างแรงดันน้ำได้มากพอควร ซึ่งหากต้องการแรงดันสูงก็สามารถนำหลายเครื่องมาต่อพ่วงกันเป็นทอด ๆ ได้ ปัจจุบันนิยมใช้เครื่องสูบน้ำประเภทนี้กันมาก และมีชื่อเรียกแตกต่างกันออกไปตามรูปร่างลักษณะของตัวเครื่อง เช่นเครื่องสูบน้ำอัตโนมัติ เครื่องสูบน้ำแบบหอยโข่ง ปั๊มไดโว่ เป็นต้น
ในสมัยก่อนการใช้เเครื่องยนต์ทดแรง มีการใช้[[ระหัด]] (rahat หริอ chain pump) ในการสูบน้ำ ซึ่งเรียกว่า การชักน้ำหรือวิดน้ำ ด้วยแรงคน แรงสัตว์ แรงกลจากลมหรือน้ำ โดยผ่านบริเวณที่จำกัดคือ รางระหัดซึ่งประกอบกับสายพานที่มีใบชักหลายใบหรือกระบอกคล้ายโซ่จักรยาน ในการชักน้ำทีละน้อย ๆ
 
;เครื่องสูบน้ำแบบลูกสูบ
ทำงานด้วยการชักลูกสูบเลื่อนไปมาในลูกสูบ และมีวาล์วเปิดปิดน้ำเข้าออกจากลูกสูบซึ่งจะเป็นการเพิ่มแรงดันน้ำโดยตรง ในสมัยก่อนจะนิยมใช้กันมากโดยเฉพาะในสวน ปัจจุบันไม่ค่อยเป็นที่นิยมแล้ว ข้อดีของเครื่องประเภทนี้คือสามารถสร้างแรงดันน้ำได้สูง แต่มีข้อเสียที่ให้ปริมาณน้ำน้อย และมีการสึกหรอของลูกสูบมาก
 
;เครื่องสูบน้ำแบบใบเกลียว
การสูบน้ำแบบ[[ใบเกลียว]] (Progressive cavity pump และ Screw pump) มีหลักการทำงานแบบ[[เกลียวอาร์คิมิดีส]] ด้วยการหมุนเกลียวในการผลักน้ำ เครื่องสูบแบบนี้สามารถพัฒนาแรงดันสูงมากแต่ปริมาณการสูบต่ำ เหมาะสำหรับการสูบน้ำที่มีสิ่งเจือปนขนาดใหญ่ หรือมี[[สิ่งปฏิกูล]]ปนอยู่มาก เนื่องจากมีความหนืดสูงต้องใช้กำลังในการผลักหรือสูบมาก
 
[[หมวดหมู่:พลศาสตร์ของไหล]]