พระนางซ็อนด็อกแห่งชิลลา

พระนางซ็อนด็อกแห่งชิลลา (Queen Seondok of Silla; เกาหลี: 선덕여왕 善德女王;? - ค.ศ. 647; ครองราชย์ ค.ศ. 632ค.ศ. 647) ครองราชย์เป็นสมเด็จพระราชินีนาถแห่งชิลลา ซึ่งเป็นหนึ่งในสามก๊กแห่งเกาหลี ตั้งแต่ปี ค.ศ. 632 ถึงปี ค.ศ. 647[1] พระนางเป็นผู้ปกครององค์ที่ 27 ของ ชิลลา และเป็นราชินีองค์แรกที่ครองราชย์ พระนางเป็นราชินีองค์ที่สองในประวัติศาสตร์เอเชียตะวันออกที่บันทึกไว้และสนับสนุนการฟื้นฟูความคิด วรรณกรรม และศิลปะในชิลลา[2]

พระนางซ็อนด็อกแห่งชิลลา
สมเด็จพระราชินีนาถแห่งชิลลา
ครองราชย์ค.ศ. 632 - 17 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 647
ราชาภิเษกค.ศ. 632
ก่อนหน้าชินพย็อง
ถัดไปชินด็อก
พระราชสมภพเจ้าหญิงท็อกมัน
สวรรคต17 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 647
พระนามเต็ม
พระนางซ็อนด็อกแห่งชิลลา
ราชวงศ์ราชวงศ์คิม
พระราชบิดาพระเจ้าชินพย็องแห่งชิลลา
พระราชมารดาพระนางมายา
พระนางซ็อนด็อกแห่งชิลลา
ฮันกึล선덕여왕
ฮันจา善德女王
อักษรโรมันฉบับปรับปรุงSeondeok yeowang

เจ้าหญิงรัชทายาทแห่งชิลลา

แก้

ชีวประวัติของพระนางซ็อนด็อกมีแหล่งที่มาจากหนังสือ ซัมกุกซากี (Samguk Sagi) และ ซัมกุกยูซา (Samguk Yusa) ซึ่งถูกแต่งขึ้นในสมัยราชวงศ์โครยอทั้งสองเล่ม พระราชินีซ็อนด็อกเดิมพระนามว่าเจ้าหญิงท็อกมัน (เกาหลี: 덕만) ไม่ทราบปีที่ประสูติ เป็นพระราชธิดาพระองค์แรกของพระเจ้าชินพย็องแห่งชิลลากับพระนางมายาตระกูลคิม (ในหนังสือซัมกุกซากีกล่าวว่าเจ้าหญิงท็อกมันเป็นพระราชธิดาพระองค์แรก แต่ในซัมกุกยูซากล่าวว่าเป็นพระองค์ที่สอง) เจ้าหญิงท็อกมันมีพระขนิษฐาร่วมพระมารดาได้แก่ เจ้าหญิงช็อนมย็อง (เป็นพระราชมารดาของพระเจ้ามูยอลแห่งชิลลา) และเจ้าหญิงซอนฮวา (อภิเษกกับพระเจ้ามูแห่งอาณาจักรแพ็กเจและเป็นพระราชมารดาของพระเจ้าอึยจาแห่งอาณาจักรแพ็กเจ)

เจ้าหญิงท็อกมันแม้จะเป็นสตรีแต่ได้แสดงพระปรีชาสามารถจนเป็นที่ประจักษ์แก่ราชสำนักชิลลา ตามกฏมณเฑียรบาลของอาณาจักรชิลลาผู้ที่สืบทอดราชบัลลังก์จะต้องมีสายพระโลหิตที่บริสุทธิ์ คือสืบเชื้อสายจากพระราชวงศ์ทั้งฝั่งพระบิดาและพระมารดา เรียกว่า ชนชั้นซ็องกล (Seonggol) หรือ "กระดูกศักดิ์สิทธิ์" (Hallowed Bone) เนื่องจากพระเจ้าชินพย็องมีแต่พระธิดาไม่มีพระโอรส เจ้าชายชิลลาที่เหลืออยู่นั้นล้วนแล้วแต่เป็นชนชั้นชินกล (Jingol) หรือ "กระดูกแท้" (True Bone) ซึ่งมีการสืบเชื้อสายไม่ได้มาจากพระราชวงศ์ชิลลาเพียงอย่างเดียว พระเจ้าชินพย็องจึงแต่งตั้งเจ้าหญิงท็อกมันในฐานะที่เป็นพระธิดาซ็องกลองค์โตสุด ให้เป็นเจ้าหญิงรัชทายาทสืบทอดราชบัลลังก์ชิลลา เนื่องจากเจ้าหญิงท็อกมันเพียบพร้อมทั้งพระชาติกำเนิดและพระปรีชาสามารถ (สตรีในอาณาจักรชิลลานั้นมีบทบาทและอำนาจทัดเทียมกับบุรุษ เนื่องจากยังไม่ได้รับอิทธิพลของลัทธิขงจื๊อเฉกเช่นในสมัยราชวงศ์โชซอน)

รัชสมัย

แก้

ในปี ค.ศ. 632 พระเจ้าชินพย็องสวรรคต เจ้าหญิงท็อกมันได้ขึ้นครองราชย์เป็นสมเด็จพระราชินีนาถซ็อนด็อก เป็นสมเด็จพระราชินีนาถพระองค์แรกในทั้งหมดสามพระองค์ของอาณาจักรชิลลา (อีกสองพระองค์คือ พระนางชินด็อกแห่งชิลลาและพระนางชินซ็องแห่งชิลลา)

รัชสมัยของพระราชินีซ็อนด็อกเป็นช่วงเวลาแห่งความรุ่งเรืองทางศิลปวัฒนธรรมของอาณาจักรชิลลา โดยเฉพาะทางด้านศาสนาพุทธนิกายมหายาน ในรัชสมัยของพระนางพระพุทธศาสนาได้เข้ามาประดิษฐานในอาณาจักรชิลลาอย่างแท้จริง โดยพระภิกษุชาจัง (Jajang; เกาหลี: 자장 慈藏) ผู้เดินทางไปยังเมืองฉางอันของราชวงศ์ถังเพื่อเก็บเกี่ยวศึกษาพระพุทธศาสนาและนำกลับมาเผยแพร่ เป็นผู้ให้กำเนิดคณะสงฆ์กลุ่มแรกของอาณาจักรชิลลาและผลักดันให้มีการสร้างวัดขึ้นหลายแห่ง นอกจากนี้ในรัชสมัยของพระนางยังมีการสร้างหอดูดาวช็อมซ็องแด (เกาหลี: 첨성대) อันเป็นหอดูดาวที่เก่าแก่ที่สุดในโลกเท่าที่หลงเหลืออยู่

ในรัชสมัยของพระราชินีซ็อนด็อก อาณาจักรชิลลาได้แผ่ขยายอำนาจเข้ารุกรานอาณาจักรแพ็กเจซึ่งในขณะนั้นปกครองโดยพระเจ้ามู (Mu of Baekje) ผู้เป็นน้องเขยของพระราชินีซ็อนด็อก โดยฝ่ายชิลลามีขุนพลที่มีความสามารถคือ คิม ยูชิน (Kim Yushin; เกาหลี: 김유신) เป็นผู้นำทัพชิลลาเข้ารุกรานและต้านทางการรุกรานของแพ็กเจ

ค.ศ. 647 ขุนนางชื่อว่าพีดัม (Bidam; เกาหลี: 비담) ผู้ดำรงตำแหน่งซังแดดึง (เกาหลี: 상대등) หรืออัครมหาเสนาบดีแห่งอาณาจักรชิลลา ได้ก่อการกบฏต่อพระราชินีซ็อนด็อก โดยมีคำขวัญว่า "สตรีไม่อาจปกครองประเทศได้" พีดัมอ้างว่าดาวประจำองค์ราชินีซ็อนด็อกนั้นได้หายไป เป็นสัญญาณว่ารัชสมัยของพระนางได้สิ้นสุดลงแล้ว ตำนานกล่าวว่าฝ่ายคิมยูชินถวายคำแนะนำให้ส่งคนไปลอยว่าวในตำแหน่งที่เป็นดาวดวงนั้นเพื่อแสดงให้ประชาชนเห็นว่าดาวประจำองค์ราชินีซ็อนด็อกนั้นยังคงอยู่ จากนั้นคิมยูชินจึงนำทัพเข้าปราบกบฏของพีดัมได้อย่างราบคาบ อัครเสนาบดีพีดัมถูกประหารชีวิต แต่ทว่าพระราชินีซ็อนด็อกสิ้นพระชนม์ระหว่างที่มีการปราบกบฏนั้นเองใน ค.ศ. 647

พระราชวงศ์

แก้

พระราชบิดา

พระราชมารดา

  • พระนางมายา จากตระกูลคิม (摩耶夫人金氏 마야부인김씨)

พระภคินี

  • เจ้าหญิงช็อนมย็อง (天明公主 천명공주)
  • เจ้าหญิงช็อนฮวา (善花公主 선화공주)

พระชามาดา

พระภาคิไนย

พระภคินี (ลูกพี่ลูกน้อง)

พระราชสวามี

  • เจ้าชายกัลมุน (飮葛文王 음갈문왕), พระราชโอรสของพระเจ้าชินจีกับพระสนมมีชิล (미 실 ,美室)(พีดัม)
  • ไม่มีการบันทึกว่าทรงอภิเษกสมรสแต่มีบันทึกเล่มหนึ่งที่บอกว่า"เป็นไปได้ที่พระนางอาจจะอภิเษกสมรสหลังจากเสด็จขึ้นครองราชย์"
  • Memorabilia of the Three Kingdoms version:possibly married to Queen Seondeok after her first year of being Queen.
  • บางบันทึกก็กล่าวว่าอภิเษกกับแม่ทัพจากตระกูลคิม (คิมยูซิน)

อ้างอิง

แก้
  1. Il-yeon: Samguk Yusa: Legends and History of the Three Kingdoms of Ancient Korea, translated by Tae-Hung Ha and Grafton K. Mintz. Book One, page 57. Silk Pagoda (2006). ISBN 1-59654-348-5
  2. Silla Korea and the Silk Road by Koreasociety