พระยาชัยสุนทร (หนู)

พระยาชัยสุนทร (หนู) หรืออีกนามเรียกว่า “ท้าวหนูหรือหนูม้าว” เป็นเจ้าเมืองกาฬสินธุ์ ลำดับที่ 8 (พ.ศ. 2411–2420)[1] เป็นต้นเชื้อสายตระกูล ณ กาฬสินธุ์“ ซึ่งผู้ใช้นามสกุลส่วนใหญ่ตั้งรกรากและอาศัยอยู่ในจังหวัดสกลนครและกาฬสินธุ์ในปัจจุบัน[ต้องการอ้างอิง]

พระยาชัยสุนทร
(หนู)
เจ้าเมืองกาฬสินธุ์
ดำรงตำแหน่ง
พ.ศ. 2411 – พ.ศ. 2420
ก่อนหน้าพระยาชัยสุนทร(กิ่ง)
ถัดไปพระยาชัยสุนทร(โคตร)
ข้อมูลส่วนบุคคล
เกิดไม่ทราบปีเกิด
เมืองกาฬสินธุ์
เสียชีวิตพ.ศ. 2420
เมืองกาฬสินธุ์
ศาสนาศาสนาพุทธ

ชาติกำเนิด แก้

เกิดเมื่อราวปี พ.ศ.ใดไม่ปรากฏ บิดาคือพระไชยสุนทร(หมาสุย)อุปฮาดเมืองกาฬสินธุ์ ส่วนมารดาไม่ปรากฏนาม ซึ่งเป็นบุตรของพระยาไชยสุนทร(เจ้าโสมพะมิตร) เจ้าเมืองกาฬสินธุ์ ลำดับที่ 1 ส่วนมารดาไม่ปรากฏนาม มีพี่น้องร่วมสายโลหิต เป็นชายได้แก่ ท้าวเกษ ท้าวกิ่ง ท้าวหนูม้าว ส่วนบุตรหญิงไม่ปรากฏนาม

การรับราชการ แก้

•บวชเรียนอักขระตามประเพณีสมัยนิยมพอเป็นหนังสือจึงเข้าไปบวชเรียนการปกครองบ้านเมืองที่สำนักเรียนวัดบวรนิเวศวิหารกรุงเทพมหานครเมื่อเติบโตขึ้นได้เข้ารับราชการในกรมการเมืองกาฬสินธุ์และได้รับการแต่งตั้งเป็นอุปฮาดเมืองกาฬสินธุ์ ในสมัยพระยาไชยสุนทร (กิ่ง) เจ้าเมืองกาฬสินธุ์ ลำดับที่ 7

•ภายหลังพระยาไชยสุนทร(กิ่ง) เจ้าเมืองกาฬสินธุ์ ลำดับที่ 7 ได้ถึงแก่กรรมลง ในปี พ.ศ. 2412 กรมการเมืองกาฬสินธุ์ได้มีใบบอกกราบบังคมทูลให้โปรดเกล้าฯ พระทานสัญญาบัตรตั้งท้าวหนูม้าว เป็นที่พระยาไชยสุนทร เจ้าเมืองกาฬสินธุ์ และพระไชยสุนทร(เหม็น)บุตรท้าวทองเจ้าเมืองคนเก่า เป็นที่อุปฮาด เพี้ยซานนท์(โคตร)บุตรท้าวหล้าเจ้าเมืองคนเก่า เป็นที่ราชวงศ์ และพระไชยสุริยมาตย์(สุรินทร์)บุตรท้าวโคตรว่าที่ราชวงศ์ เป็นที่ราชบุตร

•โปรดเกล้าฯพระราชทานเครื่องยศแก่กรมการเมืองประกอบบรรดาศักดิ์ดังนี้

เจ้าเมืองกาฬสินธุ์ “พานเงินเครื่องในถมสำรับหนึ่ง คนโทเงินถมยาดำหนึ่ง ลูกประคำทองหนึ่ง กระบี่บั้งเงินหนึ่ง สัปทนปัศตูหนึ่ง เสื้อเข้มขาบริ้วดีตัวหนึ่ง แพรทับทิมติดขลิบผืนหนึ่ง ชวานปักทองผืนหนึ่ง แพรขาวผืนหนึ่ง ผ้าปูมผืนหนึ่ง” - พร้อมตราประทับประจำตำแหน่งเจ้าเมืองกาฬสินธุ์คือ “เทวดานั่งแท่นถือพระขรรค์และดอกบัว”

อุปฮาด “ถาดหมากเงินคนโทเงินสำรับหนึ่ง สัปทนแพรคันหนึ่ง เสื้อเข้มขาบริ้วดีตัวหนึ่ง ผ้าโพกขลิบผืนหนึ่ง ผ้าดำปักทองผืนหนึ่ง แพรขาวผืนหนึ่ง ผ้าปูมผืนหนึ่ง”

ราชวงศ์ “ถาดหมากเงินคนโทเงินสำรับหนึ่ง สัปทนแพรคันหนึ่ง เสื้อเข้มขาบลายก้านแย่งตัวหนึ่ง ผ้าโพกขลิบผืนหนึ่ง ผ้าดำปักทองผืนหนึ่ง แพรขาวผืนหนึ่ง ผ้าปูมผืนหนึ่ง”

ราชบุตร “เสื้ออัตลัตดอกถี่ตัวหนึ่ง ผ้าโพกขลิบผืนหนึ่ง ผ้าดำปักทองผืนหนึ่ง แพรขาวผืนหนึ่ง ผ้าปูมผืนหนึ่ง”

เหตุการณ์สำคัญ แก้

•ปี พ.ศ. 2411 พระยาไชยสุนทร(กิ่ง) เจ้าเมืองกาฬสินธุ์พร้อมกับพระอินทิสาร(ขี่)ราชวงศ์เมืองกาฬสินธุ์และท้าวคำไภยราชวงศ์เมืองสหัสขันธ์ ถึงแก่กรรมลง จึงโปรดเกล้าฯให้อุปฮาดหนูม้าวเป็นที่”พระยาไชยสุนทร” เจ้าเมือง ท้าวเหม็นเป็นที่”พระไชยสุนทร”อุปฮาด เพี้ยซานนท์(โคตร)เป็นที่ราชวงศ์ พระไชยสุริยมาตย์(สุรินทร์)เป็นที่ราชบุตร พระศรีวรวงศ์(สี)และขอพระโพธิสาร(คำ)เป็นผู้ช่วยเจ้าเมือง รักษาราชการเมืองกาฬสินธุ์ต่อไป

•ปี พ.ศ. 2415 พระยาไชยสุนทร(หนู) ลงไปรับนามสัญญาบัตรเป็นที่เจ้าเมืองกาฬสินธุ์ ซึ้งท้าวเพี้ยเมืองสหัสขันธ์ที่ลงไปด้วยนั้นได้เป็นโจทก์ฟ้องกล่าวโทษพระประชาชนบาล(แสน)เจ้าเมืองเห็นว่ามีความผิด จึงโปรดเกล้าฯมีท้องตราขึ้นมาวางที่เมืองกาฬสินธุ์ให้ถอดพระประชาชนบาล(แสน)ออกจากตำแหน่งเจ้าเมืองและขอตั้งท้าวโคตรเป็นที่”พระศรีสุวรรณ”เจ้าเมืองแซงบาดาลได้รับพระราชทาน”ถาดหมากคนโทเงิน ๑ สำรับ สัปทนแพรคัน ๑ เสื้อเข้มขาบริ้วดี ๑ แพรสีติดขลิบ ๑ ผ้าส่านวิลาส ๑ แพรขาวห่ม ๑ ผ้าม่วงจีน ๑ เป็นเครื่องยศและท้าวหงส์เป็นราชวงศ์เมืองท่าขอนยางได้รับพระราชทานเสื้อเข้มขาบก้านแย่ง ๑ แพรสีทับทิมติดขลิบ ๑ ผ้าส่านวิลาศ ๑ แพรขาวห่ม ๑ ผ้าม่วงจีน ๑ เป็นเครื่องยศ

•ปี พ.ศ. 2416 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มีตราถึงบรรดาหัวเมืองตะวันออกว่าให้ยกเลิกตั้งธรรมเนียมการตั้งข้าหลวงกองสัก ที่มาสักเลกตามหัวเมืองและยอมอนุญาตให้ไพร่ไปอยู่ตามใจสมัครแล้วให้ทำบัญชีสำมะโนครัวตัวเลกส่งลงไปยังกรุงเทพฯและพระยาไชยสุนทร(หนู)ได้มีใบบอกขอตั้งเมืองกันทรวิชัยซึ่งเพี้ยคำมูลได้อพยพท้าวเพี้ยตัวเลกที่สมัครรวม ๒,๗๐๐ เศษมาตั้งอยู่นั้น โดยให้เพี้ยคำมูล ชาวเมืองมหาสารคามเป็นที่”พระประทุมวิเศษ”เจ้าเมือง เพี้ยเวียงแกเป็นที่อุปฮาด เพี้ยเมืองทอเป็นที่ราชวงศ์ เพี้ยนามวิเศษเป็นที่”หลวงจำนงภักดี”ผู้ช่วย ยกบ้านกันทาเป็นเมืองกันทรวิชัย ทำราชการขึ้นกับเมืองกาฬสินธุ์

•ปี พ.ศ. 2417 พระยามหาอำมาตย์(ชื่น) ซึ่งขณะนั้นอยู่ที่เมืองอุบลราชธานีเกณฑ์กำลังคนในหัวเมืองตะวันออกเพื่อเตรียมสู้รบกับจีนฮ่อ พระยามหาอำมาตย์(ชื่น)ได้สู้รบเป็นสามารถปะทะกับทัพจีนฮ่อที่เมืองหนองคาย จนพวกฮ่อพ่ายแพ้ถอยกลับไป เมื่อเสร็จราชการอยู่ที่เมืองหนองคายและโปรดเกล้าฯให้ตั้งตั้งหลวงจุมพลพนาเวส(มุ่ง)เป็นที่พระประชาชนบาล เจ้าเมืองสหัสขันธ์

•ปี พ.ศ. 2419 พระราษฎรบริหาร(เกษ) เจ้าเมืองกมลาไสย ถึงแก่กรรมด้วยวัย ๗๐ ปีเศษ เป็นเจ้าเมืองได้ ๑๑ ปีส่วนพระยาไชยสุนทร(หนู) เจ้าเมืองกาฬสินธุ์ มีเหตุวิวาทบาดหมางกับพระพิชัยอุดมเดช เจ้าเมืองภูแล่นช้างและพระธิเบศวงษา(ด้วง) เจ้าเมืองกุดสิมนารายณ์และได้ลงไปเฝ้าพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้รับสั่งให้เจ้าพนักงานให้แยกเมืองกุดสิมนารายณ์ออกจากเมืองกาฬสินธุ์ไปทำราชการขึ้นกับเมืองมุกดาหารแทน ส่วนเมืองภูแล่นช้างแยกจากเมืองกาฬสินธุ์ไปทำราชการขึ้นตรงต่อกรุงเทพฯ

•ปี พ.ศ. 2420 พระยาไชยสุนทร(หนู) เจ้าเมืองกาฬสินธุ์ มีเหตุวิวาทบาดหมางกับหลวงจุมพนาเวส(มุ่ง) ผู้ว่าที่”พระประชาชนบาล”เจ้าเมืองสหัสขันธ์ จนมีเรื่องฟ้องร้องลงไปยังกรุงเทพฯ สอบสวนคดีความแล้วพระประชาชนบาล(มุ่ง)เป็นผู้ชนะ จึงโปรดเกล้าฯ ให้หลวงจุมพลพนาเวส(มุ่ง)เป็นที่”พระประชาชนบาล”เจ้าเมืองสหัสขันธ์ ให้แยกจากเมืองกาฬสินธุ์ไปทำราชการขึ้นกับเมืองกมลาไสยแทน ส่วนเมืองกมลาไสยนั้นโปรดเกล้าฯ ให้อุปฮาด(ทอง)บุตรเจ้าเมืองคนเก่าเป็นที่”ราษฎรบริหาร”เจ้าเมือง ราชวงศ์(บัว)เป็นที่อุปฮาด ราชบุตร(คำแสน)เป็นที่ราชวงศ์ หลวงชาญวิไชยยุทธ(นวน)ผู้ช่วยเป็นที่ราชบุตร ส่วนพระยาไชยสุนทร(หนู) เจ้าเมืองกาฬสินธุ์ ได้ล้มป่วยรักษาตัวอยู่ที่กรุงเทพฯเมื่อครั้งเป็นคดีความกับเมืองสหัสขันธ์ไม่นานก็ถึงแก่กรรม

ถึงแก่กรรม แก้

•พระยาไชยสุนทร(หนู) เจ้าเมืองกาฬสินธุ์ ลำดับที่ 8 ได้ล้มป่วยถึงแก่กรรม รับราชการเป็นเจ้าเมืองสนองพระเดชพระคุณ 10 ปี ที่วัดปทุมวานารามกรุงเทพมหานคร เมื่อปี พ.ศ. 2411 สิ้นประวัติพระยาไชยสุนทร (หนู) เจ้าเมืองกาฬสินธุ์ ลำดับที่ 8 เพียงเท่านี้

ทายาท แก้

พระยาไชยสุนทร(หนู) สมรสกับคุณหญิงบัว และมีบุตร 1 คน ได้แก่

1) ท้าวงวด ราบุตรเมืองกาฬสินธุ์ สมรสกับใครไม่ปรากฏ มีบุตร 1 คนคือ พระยาไชยสุนทร(เก) เจ้าเมืองกาฬสินธุ์ ลำดับที่ 11 เป็นต้น

สายตระกูล แก้

ก่อนหน้า พระยาชัยสุนทร (หนู) ถัดไป
พระยาชัยสุนทร (กิ่ง)    
เจ้าเมืองกาฬสินธุ์,
ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์

(พ.ศ. 2411 - 2420)
  พระยาชัยสุนทร (โคตร)
  1. http://www.kalasinpit.ac.th/elearning/kroosert/data/kalasin.htm[ลิงก์เสีย]