ผู้ใช้:JUTATIP WONGTUM/กระบะทราย
สภาท้องถิ่น
แก้ที่มาของสภาท้องถิ่น
แก้สภาท้องถิ่นเป็นองค์กรที่มีความสำคัญต่อการปกครองท้องถิ่น เนื่องจากมีภารกิจหน้าที่หลายอย่างเกี่ยวกับกิจการในอำนาจหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งสภาท้องถิ่นได้มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชนในท้องถิ่น[1]
ความสำคัญของสภาท้องถิ่น
แก้สภาท้องถิ่นเป็นสภาเดียวที่ทำหน้าที่ด้านนิติบัญญัติ การควบคุมการบริหาร รวมถึงติดตามและตรวจสอบการทำงานของฝ่ายบริหารให้เป็นไปตามนโยบาย และยังมีบทบาทในการสร้างความสัมพันธ์กับประชาชน โดยทำหน้าที่สะท้อนความคิดเห็นของประชาชน แลกเปลี่ยนข้อมูล รวมไปถึงเป็นตัวกลางในการติดต่อสื่อสารระหว่างองค์กรกับประชาชน ซึ่งหัวใจสำคัญของการบริหารงานของสภาท้องถิ่นคือการมีกลไกตรวจสอบและถ่วงดุลที่เข้มแข็ง เพื่อควบคุมอำนาจ และป้องกันการใช้อำนาจเกินขอบเขตขององค์กรปกครองท้องถิ่น
ลักษณะของสภาท้องถิ่น
แก้สภาท้องถิ่นมีลักษณะเป็นองค์กรนิติบัญญัติ มีภารกิจหน้าที่เกี่ยวกับกิจการในอำนาจหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ภารกิจของสภาท้องถิ่น
แก้ภารกิจหน้าที่ของสภาท้องถิ่นที่สำคัญ ได้แก่
แก้- ให้ความเห็นชอบเกี่ยวกับเทศบัญญัติ หรือข้อบัญญัติงบประมาณรายจ่าย หรืองบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมภายในองค์กรการปกครองส่วนท้องถิ่น
- ตรวจสอบการทำงานของผู้บริหารในส่วนท้องถิ่น ให้เป็นไปตามแผนพัฒนาตามที่กฎหมายและระเบียบได้กำหนดไว้ และปฏิบัติตามกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง
- พิจารณางบประมาณอย่างรอบคอบตามขั้นตอนกฎหมาย
สมาชิกสภาท้องถิ่น
แก้สภาท้องถิ่นเป็นองค์กรนิติบัญญัติ ดังนั้นสมาชิกสภาท้องถิ่นขึงมีหน้าที่ในทางนิติบัญญัติ โดยสมาชิกสภาท้องถิ่นนี้ได้มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชน ซึ่งผู้ที่มีสิทธิ์ลงรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาท้องถิ่นจะต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
- มีสัญชาติไทยโดยกำเนิด
- มีอายุไม่ต่ำกว่า 25 ปีบริบูรณ์ในวันเลือกตั้ง
- มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในเขตองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นที่รับสมัครเลือกตั้ง หรือได้เสียภาษีตามกฎหมายว่าด้วยภาษีโรงเรือนและที่ดิน หรือภาษีว่าด้วยภาษีบำรุงท้องที่ให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้น เป็นเวลาติดต่อกัน 3 ปี นับถึงปีที่สมัครรับเลือกตั้ง
- มีคุณสมบัติอื่นตามที่กฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกำหนด[2]
นอกจากคุณสมบัติที่ผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาท้องถิ่นควรมีแล้ว ยังมีลักษณะต้องห้ามของผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งเป้นสมาชิกสภาท้องถิ่น ซึ่งถือว่าหากผู้ใดมีลักษณะต้องห้ามดังต่อไปนี้ ถือว่าบุคคลนั้นย่อมไม่มีสิทธิ์ในการลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาท้องถิ่น ลักษณะต้องห้ามมีดังต่อไปนี้
- เป็นผู้เสพยาเสพติดให้โทษ
- เป็นบุคคลล้มละลาย
- เป็นบุคคลผู้มีลักษณะต้องห้ามไม่ให้ใช้สิทธิ์เลือกตั้งตามมาตรา 34 (1) (2) หรือ (4) ตามพระราชบัญญัติฯ นี้
- เป็นบุคคลที่ต้องคำพิพากให้จำคุกและถูกคุมขังอยู่โดยหมายศาล
- ได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกตั้งแต่ 2 ปีขึ้นไป และได้พ้นโทษมายังไม่ถึง 5 ปีนับถึงวันเลือกตั้ง เว้นแต่ความผิดอันได้กระทำโดยความประมาท
- ต้องคำพิพากษาถึงที่สุดว่ากระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ ไม่ว่าจะได้รับโทษหรือไม่ โดยได้พ้นโทษหรือต้องคำพิพากษามายังไม่ถึง 5 ปีนับถึงวันเลือกตั้ง แล้วแต่กรณี
- เคยถูกไล่ออก ปลดออก หรือให้ออกจากราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจเพราะทุจริตต่อหน้าที่ หรือถือว่ากระทำการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงการราชการ
- เคยต้องคำพิพากษา หรือคำสั่งของศาลให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน เพราะร่ำรวยผิดปกติ หรือร่ำรวยขึ้นผิดปกติ
- เคยถูกถอนออกจากตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา สมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย หรือกฎหมายว่าด้วยการลงคะแนนเสียงเพื่อถอดถอนสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้แทนท้องถิ่น แล้วแต่กรณี มายังไม่ถึง 5 ปีนับถึงวันเลือกตั้ง
- อยู่ในระหว่าเสียสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่นตามมาตรา 37 หรือตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา
- เคยถูกคณะกรรมการการเลือกตั้งสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง มายังไม่ถึง 1 ปีนับแต่วันที่คณะกรรมการเลือกตั้งมีคำสั่ง อันเนื่องมาจากการกระทำโดยไม่สุจริต ตามพระราชบัญญัตินี้ หรือกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา เพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นได้รับเลือกตั้ง หรือได้รับเลือกตั้งมาโดยไมาสุจริต
- เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒสภา สมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น
- เป้นผู้สมัครรับเลืแกตั้งเป็นสมาชิกผู้แทนราษฎรหรือสมาชิกวุฒิสภา หรือเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเดียวกันหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่น
- เป็นข้าราชการซึ่งมีตำแหน่ง และมีเงินเดือนประจำ
- เป็นพนักงานหรือลูกจ้างของหน่วยงานรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือราชการส่วนท้องถิ่น หรือเป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ
- เป็นกรรมการการเลือกตั้ง กรรมการตรวจเงินแผ่นดิน กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ กรรมการสิทธิมนุษย์แห่งชาติ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ หรือผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา
- ลักษณะอื่นตามที่กฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกำหนด[3]
สำหรับการเข้าสู่ตำแหน่งของสมาชิกสภาท้องถิ่นนั้น จะมีการพิจารณาตามหลักกฎหมาย นั่นก็คือกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้งท้องถิ่น และกฎหมายจัดตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และในส่วนของการสิ้นสุดสภาพของการเป็นสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือการพ้นจากตำแหน่ง ซึ่งในส่วนนี้ได้มีการบัญญัติไว้อย่างชัดเจนในกฎหมายการจัดตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
บทบาทของสมาชิกสภาท้องถิ่น
แก้บทบาทของสมาชิกสภาท้องถิ่น มีบทบาทในการดำเนินงานหลักๆ 3 บทบาท ได้แก่ บทบาททางด้านนิติบัญญัติ บทบาททางด้านความสัมพันธ์ในการบริหารงาน และบทบทาทางด้านความสัมพันธ์กับประชาชน
บทบาททางด้านนิติบัญญัติ
แก้สมาชิกสภาท้องถิ่นสามารถเสนอร่างข้อบัญญัติท้องถิ่นสู่การพิจารณาของสภาท้องถิ่น ในกรณีที่เห็นว่าเรื่องนั้นจำเป็นต้องมีการกฎหมายออกมาบังคับ และสมาชิกสภาท้องถิ่นมีบทบาทในการพิจารณาร่างข้อบัญญัติท้องถิ่น ที่เสนอโดยฝ่ายบริหารและประชาชน ซึ่งในปัจจุบันช่องทางในการเสนอร่างข้อบัญญัติท้องถิ่นสู่การพิจารณา สามารถทำได้ 3 ทาง คือ เสนอโดยสมาชิกสภาท้องถิ่น เสนอโดยฝ่ายบริหาร และเสนอโดยประชาชน ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการเข้าชื่อเสนอข้อบัญญัติท้องถิ่น พ.ศ.2542 ให้สิทธิผู้มีสิทธิเลือกตั้งเกินกว่ากึ่งหนึ่ง สามารถเสนอร่างข้อบัญญัติท้องถิ่นสู่การพิจารณาของสภาท้องถิ่นได้[4]
บทบาททางด้านความสัมพันธ์ในการบริหารงาน
แก้คือการควบคุมการบริหาร รวมถึงการติดตามและตรวจสอบการทำงานของฝ่ายบริหารให้เป็นไปตามนโยบาย ทั้งนี้เพื่อถ่วงดุลอำนาจการทำงานของฝ่ายบริหาร ซึ่งหลักการบริหารงานของสภาท้องถิ่นที่สำคัญ คือ มีกลไกตรวจสอบ และถ่วงดุลที่เข้มแข็ง เพื่อนควบคุมอำนาจ และป้องกันการใช้อำนาจเกินขอบเขต
บทบาททางด้านความสัมพันธ์กับประชาชน
แก้สมาชิกสภาท้องถิ่นซึ่งได้มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชน ดังนั้นจึงมีความจำเป้นที่จะต้องดำเนินบทบาทในฐานะที่เป็นตัวแทนของประชาชน โดยทำหน้าที่สะท้อนปัญหา ความต้องการ และความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่ รวมไปถึงเป็นตัวกลางในการติดต่อสื่อสาร และการกระจายข้อมูลข่าวสาร แลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างประชาชนกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
จุดอ่อนของสภาท้องถิ่นไทย
แก้ในขั้นตอนพิจารณางบประมาณของสภาท้องถิ่น และในการพิจารณางบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ปฏิบัติอยู่จริง กับขั้นตอนกระบวนการที่กำหนดไว้ตามกฎหมายยังไม่สอดคล้องกันมากนัก ซึ่งองค์กรปกครองส่วนท้องงถิ่นส่วนใหญ่ในประเทศไทยยังมีการปฏิบัติงานไม่สอดคล้องกับขั้นตอนกระบวนการที่กฎหมายกำหนดไว้ และมีเพียงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นส่วนน้อยเท่านั้น ที่มีการปฏิบัติตามกระบวนการที่กฎหมายกำหนดไว้ครบทุกขั้นตอน
จุดแข็งของสภาท้องถิ่นไทย
แก้สมาชิกสภาท้องถิ่น ซึ่งได้มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชน ดังนั้นการดำเนินงานของสภาท้องถิ่นจึงตอบสนองความต้องการและแก้ไขปัญหาของประชาชนอย่างตรงจุด[5]
อ้างอิง
แก้- ↑ วรารัตน์ จารนาเพียง. (2553). วารสารบริหารท้องถิ่น. จังหวัดขอนแก่น. โรงพิมพ์คลังนานาวิทยา. หน้า 57
- ↑ อรทัย ก๊กผล. (2551). คู่มือสมาชิกสภาท้องถิ่น. กรุงเทพฯ. โรงพิมพ์ธรรมดาเพลส จำกัด. หน้า 31
- ↑ บัญญัติ พุ่มพันธ์. (2554). รวมกฎหมายเกี่ยวกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น. กรุงเทพฯ. บริษัท เอ็กเปอร์เน็ท จำกัด. หน้า 229
- ↑ ณรงค์ เกียรติคุณวงศ์. (2559). รวมพระราชบัญญัติและคำพิพากษาที่เกี่ยวกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เล่มที่1. จังหวัดขอนแก่น. โรงพิมพ์คลังนานาวิทยา. หน้า 50
- ↑ โกวิทย์ พวงงาม. (2554). การปกครองท้องถิ่นว่าด้วยทฤษฎี แนวคิด และหลักการ. กรุงเทพฯ. บริษัท ส.เอเชียพาส(1989) จำกัด. หน้า 73