นิสสัน โน้ต

รุ่นรถยนต์

นิสสัน โน้ต (อังกฤษ: Nissan Note) เป็น รถยนต์อเนกประสงค์ขนาดเล็กมาก (อังกฤษ: Mini MPV) ผลิตและจำหน่ายโดยบริษัทรถยนต์ นิสสัน ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2547 และเปิดตัวในประเทศไทย เมื่อต้นปี พ.ศ. 2560

นิสสัน โน้ต
ภาพรวม
บริษัทผู้ผลิตนิสสัน
เริ่มผลิตเมื่อพ.ศ. 2547–ปัจจุบัน
ตัวถังและช่วงล่าง
ประเภทรถยนต์นั่งอเนกประสงค์ขนาดเล็ก
รูปแบบตัวถังแฮทช์แบ็ก 5 ประตู
โครงสร้างเครื่องวางหน้า
ขับเคลื่อนล้อหน้า
ขับเคลื่อนสี่ล้อ (ญี่ปุ่น)
ระยะเหตุการณ์
รุ่นก่อนหน้านิสสัน อัลเมรา ทีโน่

รุ่นที่ 1 (E11; พ.ศ. 2547 - พ.ศ. 2556) แก้

 
นิสสัน โน้ต รุ่นที่ 1 ด้านหน้า
 
นิสสัน โน้ต รุ่นที่ 1 ด้านหลัง

นิสสัน โน้ต เปิดตัวครั้งแรกในปี พ.ศ. 2547 โดยจำหน่ายเฉพาะประเทศญี่ปุ่นและในทวีปยุโรป นิสสัน โน้ต ที่จำหน่ายในทวีปยุโรป มีเครื่องยนต์ 1.4 ลิตร 1.5 ลิตร และ 1.6 ลิตร ส่วนประเทศญี่ปุ่น จำหน่ายเฉพาะเครื่องยนต์ 1.5 ลิตรเท่านั้น นิสสัน โน้ต รุ่นนี้ไม่มีวางจำหน่ายในประเทศไทย

รุ่นที่ 2 (E12; พ.ศ. 2555 - 2565) แก้

รุ่นที่ 2 (E12)
 
ภาพรวม
เรียกอีกชื่อนิสสัน เวอร์ซ่า โน้ต (อเมริกาเหนือ)
เริ่มผลิตเมื่อ
  • สิงหาคม 2555 – ธันวาคม 2563 (ญี่ปุ่น)
  • 2555–2560 (สหราชอาณาจักร)
  • 2560–2565 (ประเทศไทย)
  • 2556–2562 (เม็กซิโก)
รุ่นปี2014–2019 (อเมริกาเหนือ)
แหล่งผลิต
ตัวถังและช่วงล่าง
รูปแบบตัวถัง5 ประตู แฮทช์แบ็ก
แพลตฟอร์มNissan V platform
ระบบส่งกำลัง
เครื่องยนต์1.2 L HR12DE I3
1.2 L HR12DE e-Power I3 (Hybrid Engine)
1.2 L HR12DDR I3
1.6 L HR16DE I4 (อเมริกา)
1.5 L K9K dCi (ยุโรป)
ระบบเกียร์Xtronic CVT
ธรรมดา 5 จังหวะ
ระบบขับเคลื่อนรถไฮบริดไฮบริดแบบอนุกรม (Note e-Power)
มิติ
ระยะฐานล้อ2,600 mm (102.4 in)
ความยาว4,100 mm (161.4 in)
ความกว้าง1,695 mm (66.7 in)
ความสูง1,525 mm (60.0 in)(FF)
1,535 mm (60.4 in)(4WD)
ระยะเหตุการณ์
รุ่นก่อนหน้านิสสัน ทีด้า (Japan)
นิสสัน เวอร์ซา hatchback (North America)
นิสสัน ลิวิน่า (Asia)
Nissan Almera (Europe)
รุ่นต่อไปนิสสัน ไมครา (ยุโรป)
นิสสัน คิกส์ / Nissan Versa (N18) (อเมริกาเหนือ)

นิสสัน โน้ต รุ่นที่ 2 ได้เปิดตัวในประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศแรก โดยเส้นสายการออกแบบมาจากคอนเซปต์ของ Nissan INVITATION โดยในช่วงแรก นิสสัน โน้ต ยังไม่มีการวางจำหน่ายในประเทศไทย

ในปี พ.ศ. 2559 นิสสัน โน้ต ได้มีการปรับโฉมใหม่ในประเทศญี่ปุ่น และนำรุ่นปรับโฉมเข้ามาวางจำหน่ายในประเทศไทยภายหลัง ในปี พ.ศ. 2560 ซึ่งเป็นครั้งแรกที่นิสสัน โน้ต ได้เปิดตัวในประเทศไทย

สำหรับในประเทศไทย นิสสัน โน้ต ได้เข้าร่วมโครงการ อีโคคาร์ (เฟส 1) โดยใช้เครื่องยนต์ HR12DE ขนาด 1.2 ลิตร 79 แรงม้า เช่นเดียวกับนิสสัน อัลเมร่า และนิสสัน มาร์ช โดยนิสสัน โน้ต จะเจาะตลาดบนสำหรับกลุ่มผู้ขับขี่รถยนต์ระหว่างเมือง แต่นิสสัน มาร์ช จะเจาะตลาดสำหรับกลุ่มผู้ขับขี่รถยนต์ในเมือง

นิสสัน โน้ต ได้มีเทคโนโลยีที่ล้ำหน้ามากกว่าคู่แข่งคือระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ Intelligent Mobility Driving Technology พร้อมกับถุงลมนิรภัยคู่หน้า/ABS/EBD/BA/VDC/HSA/ระบบตรวจจับและส่งสัญญาณเตือนวัตถุรอบคันรถ (เฉพาะรุ่น VL)

นิสสัน โน้ต ในประเทศไทย ได้แบ่งรุ่นย่อยออกเป็น 2 รุ่น ดังนี้

  • 1.2 V ราคา 568,000 บาท
  • 1.2 VL ราคา 640,000 บาท

Nissan Note e-Power แก้

รุ่นแรกของ Nissan ในประเทศไทยที่จะได้ใช้เทคโนโลยี e-Power คาดว่าจะเป็น NOTE e-Power !

แผนการเปิดตัวในครั้งนี้ตอกย้ำกลยุทธ์ด้านยานยนต์ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า และ ความมุ่งมั่นของ Nissan ในการใช้เทคโนโลยี e-Power และ ยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อนำประเทศไทย ไปสู่อนาคต และ สิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้น เนื่องจากความกังวลเรื่องสภาพอากาศ และ สิ่งแวดล้อมที่เพิ่มขึ้น นวัตกรรมอย่าง e-Power และ รถยนต์ไฟฟ้า EV อย่าง Nissan LEAF จึงเป็นทางออกสู่โลกแห่งอนาคตที่ชาญฉลาด, สะอาด และ ยั่งยืน ทั้งนี้ยังมีราคาที่เข้าถึงได้อีกด้วย อันตวน บาร์เตส กล่าวเสริมว่า Nissan กำลังพัฒนากลยุทธ์ยานยนต์ระบบขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง

เครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ รหัส HR12DE ขนาด 1.2 ลิตร 1,198 ซีซี. กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 78.0 x 83.6 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 12.0 : 1 กำลังสูงสุด 79 แรงม้า ที่ 5,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 103 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที ทำหน้าที่ปั่นไฟไปเก็บยังแบตเตอรี่ (เครื่องยนต์ไม่มีหน้าที่ขับเคลื่อนส่งพละกำลังลงสู่ล้อ)

เพื่อนำไปใช้เป็นพลังงานให้มอเตอร์ไฟฟ้า EM57 High Power พละกำลังสูงสุด 109 แรงม้า ที่ 3,008 – 10,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 254 นิวตันเมตร ที่ 0 – 3,008 รอบ/นาที

เทคโนโลยี e-Power คือระบบขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าที่มีพละกำลังสูงแบบเดียวกับรถไฟฟ้า EV โดยนำเทคโนโลยีรถไฟฟ้าจาก Nissan Leaf มาประยุกต์กับเครื่องยนต์เบนซินขนาดเล็กติดตั้งเครื่องยนต์สันดาปที่ไม่เชื่อมต่อกับล้อ เครื่องยนต์ใช้สำหรับปั่นไฟฟ้าลงสู่แบตเตอรี่ แตกต่างจากรถ Hybrid ทั่วไปที่ใช้เครื่องยนต์ส่งพละกำลังลงสู่ล้อด้วย

พูดง่ายๆ ก็คือ ” เครื่องยนต์เสมือนทำงานในรอบเดินเบา ทำหน้าที่ปั่นไฟเก็บเข้าแบตเตอรี่อย่างเดียว ตัวรถจะถูกขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า แต่เดิมน้ำมันได้แบบรถปกติทั่วไป “

ช่วงที่ผ่านมา อาจมีข่าวคราวว่า Nissan ประเทศไทย คงจะถอดใจกับ Note e-Power ไปแล้ว เนื่องจากต้องการดันให้ e-Power เข้าหลักเกณฑ์รถยนต์ไฟฟ้า EV แต่ในความเป็นจริง รถที่มีเครื่องยนต์ไม่สามารถเข้าหลักเกณฑ์รถ EV ได้ ถึงแม้ e-Power จะใช้เครื่องยนต์ในการปั่นไฟ ไม่ได้ขับเคลื่อนก็ตาม แต่มีการปล่อย CO2 จึงไม่เข้าหลักเกณฑ์ดังกล่าว

Nissan Note ทรงกล่องจ่อยุติผลิตและขายในไทย แก้

หลังจากที่ Nissan ยุติการทำตลาดรถยนต์นั่งทั้ง Nissan Teana, Sylphy และ เอสยูวีรุ่น X-Trail เมื่อสองปีก่อนจนตอนนี้เหลือเพียงรุ่นทำตลาดสามรุ่น

ล่าสุดจากข้อมูลของประชาชาติธุรกิจให้ข้อมูลว่า รถยนต์นั่งอีกสองรุ่นจากค่ายเพื่อนที่แสนดีทั้ง Nissan Note กับ Nissan March สองเก๋งทรงกล่อง แฮทช์แบ็ก 5 ประตู เตรียมที่จะยุติการผลิตและการจำหน่ายโดยเริ่มจาก Nissan Note ยุติการผลิตตั้งแต่ช่วงต้นปีงบประมาณของปีนี้ หรือตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา

รุ่นที่ 3 (E13; 2020) แก้

รุ่นที่ 3 (E13)
 
ภาพรวม
เริ่มผลิตเมื่อธันวาคม 2020 – ปัจจุบัน
ตัวถังและช่วงล่าง
แพลตฟอร์มNissan CMF-B platform
รุ่นที่คล้ายกันRenault Clio V
ระบบส่งกำลัง
เครื่องยนต์1.2 L HR12DE e-Power hybrid I3 (petrol)
มอเตอร์ไฟฟ้าEM47 85 kW (114 hp; 116 PS), 280 N·m (210 lb·ft) AC3 synchronous
MM48 50 kW (67 hp; 68 PS), 100 N·m (74 lb·ft) AC3 synchronous
ระบบเกียร์Single speed constant ratio
ระบบขับเคลื่อนรถไฮบริดไฮบริดแบบอนุกรม
มิติ
ระยะฐานล้อ2,580 mm (101.6 in)
ความยาว4,045 mm (159.3 in)
ความกว้าง1,695 mm (66.7 in)
ความสูง1,505–1,520 mm (59.3–59.8 in)
น้ำหนัก1,190–1,220 kg (2,620–2,690 lb)

All New Nissan NOTE เปิดตัวแล้วที่ญี่ปุ่น วันที่ 24 พฤศจิกายน พลิกงานออกแบบจากรุ่นเดิมแบบสิ้นเชิง ไม่เหลือเค้าโครงเดิม พร้อมกับขุมพลัง e-POWER ที่อัพเกรดให้มีพละกำลังมากกว่าเดิม

Nissan Note e-POWER ในประเทศญี่ปุ่น ได้เพิ่มรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ AWD ซึ่งเพิ่มมอเตอร์หลังมา และ มีกำลังสูงกว่ารุ่นก่อนหน้า 14 เท่า ให้การขับขี่ที่มั่นคงกว่าทั้งถนนแห้ง, ถนนเปียกลื่น และ ถนนที่มีน้ำแข็งเกาะ ส่วนมอเตอร์ไฟฟ้ายังทรงพลัง ทำงานได้เต็มที่ในทุกย่านความเร็ว ขุมพลังของ Nissan Note e-POWER AWD เป็น เครื่องยนต์เบนซิน รหัส HR12DE แบบ 3 สูบ ขนาด 1,198 ซีซี. กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 78.0 x 83.6 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 12.0 : 1 กำลังสูงสุด 82 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 103 นิวตันเมตร ที่ 4,800 รอบ/นาที เสริมด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าด้านหน้า รหัส EM47 กำลังสูงสุด 116 แรงม้า ที่ 2,900 – 10,341 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 280 นิวตันเมตร ที่ 0 – 2,900 รอบ/นาที และ มอเตอร์ไฟฟ้าด้านหลัง รหัส MM48 กำลังสูงสุด 68 แรงม้า ที่ 4,775 – 10,024 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 100 นิวตันเมตร ที่ 0 – 4,775 รอบ/นาที ขับเคลื่อนสี่ล้อ

Note Aura แก้

Nissan Note เพิ่มรุ่นย่อยใหม่ในประเทศญี่ปุ่นด้วยชื่อ Nissan Note Aura ซึ่งหมายถึงคุณภาพสูงในทุกรายละเอียด ตั้งแต่ภายนอกไปจนถึงภายใน พร้อมดึงดูดผู้ที่ได้พบเห็น และมอบความพึงพอใจให้กับเจ้าของ โดยปรับใหม่ทั้งงานออกแบบและวัสดุตกแต่ง ส่วนขุมพลังยังคงเดิมกับ e-POWER ที่มีให้เลือกทั้ง 2WD และ 4WD

Nissan Note Aura พลิกดีไซน์ใหม่กับกระจังหน้า V-Motion รับกับแถบไฟ LED ที่เป็นทั้ง DRL และ ไฟเลี้ยวแบบ Sequential ด้านข้างเสริมกาบซุ้มล้อให้ดูกว้างขึ้น เข้ากับล้อลายใหม่ขนาด 17 นิ้ว ด้านหลังเปลี่ยนไฟท้ายใหม่ มีแถบทับทิมเชื่อมต่อกันตลอดแนว ปิดท้ายด้วยทางเลือกสีตัวถัง 14 สี รวมถึง two-tone อย่างสีแดง Garnet Red – สีดำ Super Black และ สีดำ Midnight Black – สีทอง Sunrise Copper

ห้องโดยสารมีมาตรวัด TFT ขนาด 12.3 นิ้ว และ หน้าจอสัมผัส ขนาด 9 นิ้ว เสริมด้วยเครื่องเสียงพัฒนาใหม่จาก BOSE ติดตั้งลำโพงฝังในพนังพิงศีรษะเบาะคู่หน้า พร้อมเสริมวัดสุซับเสียงรอบคันใหม่ ให้เก็บเสียงดียิ่งขึ้น ทั้งยังมีที่ชาร์จไร้สาย, ระบบเชื่อมต่อ Apple CarPlay ไร้สาย และ ที่วางแขนกลางด้านหน้าปรับไฟฟ้า ส่วนวัสดุตกแต่งเปลี่ยนใหม่ทั้งหมดพร้อมทางเลือก ผ้า – หนังสังเคราะห์, หนังแท้ และ ลายไม้

Note Aura Nismo แก้

Nissan Note Aura มีเวอร์ชั่นแต่งพิเศษในรหัส NISMO ตามมาแล้ว ตกแต่งพิเศษทั้งภายนอกและภายใน ส่วนสีตัวถังมีให้เลือกด้วยกัน 5 สี ประกอบด้วย สีขาว Pure White Pearl, สีเงิน Brilliant Silver, สีเทา Dark Metal Gray, สีแดง Garnet Red และ สีดำ Super Black ทุกสีมาพร้อมกับหลังคาสีดำ Super Black และ กระจกมองข้างสีแดง

Nissan Note Aura NISMO เสริมด้วยชุดแต่งพิเศษรอบคัน ซึ่งตัดชายล่างตัวถังรอบคันสีดำและสีแดงแบบ Layered Double Wing ไฟตัดหมอกหน้า LED ออกแบบใหม่เป็นแถบ 5 จุด ส่วนด้านหลังมีแถบไฟ 7 จุด ล้วนได้แรงบันดาลใจมาจากรถแข่ง Formula E ส่วนล้อเป็นลายเฉพาะรุ่นขนาด 17 นิ้ว

ห้องโดยสารให้อารมณ์สปอร์ตเช่นเคย โดยมาในโทนสีดำตัดสีแดง เบาะมาตรฐานจะหุ้มด้วยวัสดุผ้าพิเศษและหนังสังเคราะห์ พร้อมปักชื่อ NISMO ซึ่งถ้าอยากพิเศษอีกสามารถซื้อเบาะ RECARO เพิ่มได้ พวงมาลัยตกแต่งด้วยหนังแท้และ Alcatara พร้อมระบุตำแหน่ง 12 นาฬิกา ปิดท้ายกับหน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว มีตรา NISMO และ มาตรวัดกราฟฟิกสีแดง

Note Autech Crossover แก้

Nissan Note มีรุ่นยกสูงให้ชาวญี่ปุ่นเลือกแล้วในชื่อ Nissan Note Autech Crossover มาพร้อม 8 ทางเลือกสีตัวถัง รวมถึง สีน้ำเงิน Aurora Flare Blue Pearl ตัดหลังคาสีดำ Super Black, สีดำ Midnight Black และ สีส้ม Premium Horizon Orange ตัดหลังคาสีเทา Stealth Gray

Nissan Note Autech Crossover เปลี่ยนไปใช้กระจังหน้าแบบ dot เสริมด้วยไฟ LED สีน้ำเงิน ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นเอกลักษณ์ของ Autech นอกจากนั้น ยังมีกระจกมองข้างสีเงิน, ราวหลังคา, การ์ดกันกระแทกรอบคัน, กาบพลาสติกโป่งล้อ และ ล้อลายพิเศษเฉพาะรุ่นขนาด 16 นิ้ว รัดด้วยยางขนาด 195/60 ห้องโดยสารมาในโทนสีดำตกแต่งด้วยวัสดุคุณภาพสูง ทั้งเบาะหุ้มหนัง, วัสดุบุนุ่ม และ ลายไม้

ขุมพลังของ Nissan Note Autech Crossover ไม่ต่างจาก Note รุ่นอื่นกับระบบ e-POWER ประกอบด้วย เครื่องยนต์เบนซิน แบบ 3 สูบ รหัส HR12DE ขนาด 1,198 ซีซี. กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 78.0 x 83.6 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 12.0 : 1 กำลังสูงสุด 82 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 103 นิวตันเมตร ที่ 3,600 – 5,200 รอบ/นาที ทำหน้าที่ปั่นไฟไปเก็บยังแบตเตอรี่ และ แบ่งเป็นสองรุ่นย่อยได้ดังนี้

e-POWER 2WD (FWD)

เครื่องยนต์ HR12DE + มอเตอร์ไฟฟ้าหน้า รหัส EM47 กำลังสูงสุด 136 แรงม้า ที่ 3,183 – 8,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 300 นิวตันเมตร ที่ 0 – 3,183 รอบ/นาที ขับเคลื่อนล้อหน้า

e-POWER 4WD

เครื่องยนต์ HR12DE + มอเตอร์ไฟฟ้าหน้า EM47 + มอเตอร์ไฟฟ้าหลัง รหัส MM48 กำลังสูงสุด 68 แรงม้า ที่ 4,775 – 10,024 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 100 นิวตันเมตร ที่ 0 – 4,775 รอบ/นาที ขับเคลื่อนสี่ล้อ

ช่วงล่างของ Nissan Note Autech Crossover ยกสูงขึ้นจากปกติ 25 มิลลิเมตร พร้อมเปลี่ยนโช๊คอัพและสปริงใหม่ รวมไปถึงการปรับแต่งพวงมาลัยด้วย ส่วนการเปิดตัวมีขึ้นที่ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2021 และมีให้เลือก 2 รุ่นย่อยแบ่งตามประเภทระบบขับเคลื่อน สนนราคาจำหน่ายที่นั่น โดยที่ยังไม่รวมภาษีนำเข้าของประเทศไทยที่ 2,537,700 – 2,796,200 เยน (ราว 744,000 – 820,000 บาท)