จักรพรรดิโยเม
จักรพรรดิโยเม (ญี่ปุ่น: 用明天皇; โรมาจิ: Yōmei tennō) (พ.ศ. 1061 - พ.ศ. 1130) เป็นจักรพรรดิญี่ปุ่นรัชกาลที่ 31[1] ตามที่ได้จัดเรียงไว้ในรายพระนามจักรพรรดิญี่ปุ่น[2]
จักรพรรดิโยเม | |
---|---|
จักรพรรดิแห่งญี่ปุ่น องค์ที่ 31 | |
ครองราชย์ 14 กันยายน พ.ศ. 1128 - 21 พฤษภาคม พ.ศ. 1130 | |
ทรงราชย์ | 14 กันยายน พ.ศ. 1128 |
พิธีขึ้น | 3 ตุลาคม พ.ศ. 1128 |
ก่อนหน้า | จักรพรรดิบิดะสึ |
ถัดไป | จักรพรรดิซุซุง |
พระอิสริยยศ | จักรพรรดิญี่ปุ่น |
พระราชสมภพ | พ.ศ. 1061 |
สวรรคต | 21 พฤษภาคม พ.ศ. 1130 |
สุสานหลวง | คะวะจิ โนะ ชินะกะ โนะ บะระ โนะ มิสะสะกิ (โอซะกะ) |
จักรพรรดิโยเมครองราชย์ตั้งแต่ปีพ.ศ. 1128 จนกระทั่งพระองค์เสร็จสวรรคต[3]
การอภิเษกสมรส
แก้จักรพรรดิโยเมเป็นพระราชโอรสองค์ที่ 4 ของจักรพรรดิคิมเม และพระราชชนนีคือโสะกะ โนะ คิตะชิฮิเมะ ธิดาของโสะกะ โนะ อินะเมะ[4]
- ในปีพ.ศ. 1129 จักรพรรดิโยเมอภิเษกสมรสกับเจ้าหญิงอะนะโนะเบะ โนะ ฮะชิฮิโตะ ผู้เป็นพระกนิษฐภคินี (ญี่ปุ่น: 穴穂部間人皇女; โรมาจิ: อะนะโนะเบะ โนะ ฮะชิฮิโตะ โนะ ฮิเมะมิโกะ) ซึ่งพระชนนีคือธิดาอีกคนของอินะเมะ ซึ่งมีพระนามว่าโซะกะ โนะ โอะอะเนะ ฮิเมะ เจ้าหญิงอะนะโนะเบะ โนะ ฮะชิฮิโตะให้กำเนิดพระราชบุตร 4 พระองค์ รวมถึงเจ้าชายโชโตะกุซึ่งภายหลังพระองค์เป็นมกุฎราชกุมารและผู้สำเร็จราชการแทนจักรพรรดินีซุอิโกะ พระราชบุตรองค์ที่สองคือเจ้าชายคุเมะ องค์ที่สามคือเจ้าชายเยะกุริ และองค์ที่สี่คือเจ้าชายมะมุตะ
- อิชิคินะ (ธิดาของโสะกะ โนะ อินะเมะ) อภิเษกสมรสกับจักรพรรดิโยเม ให้กำเนิดเจ้าชายทะเมะ (หรืออีกพระนามคือโทะโยะระ)
- ฮิโระโกะ (ธิดาของอิฮะมุระ หรือคะสึระกิ โนะ อะทะเฮะ) ให้กำเนิดเจ้าชายมะโระโกะ และเจ้าชายนุกะเดะ ฮิเมะ
จักรพรรดิโยเมมีพระมเหสี 3 พระองค์ พระราชบุตรและพระราชธิดาอีก 7 พระองค์[5]
พระราชบุตรของจักรพรรดิโยะเม ซึ่งมีพระนามว่าเจ้าชายอุมะยะโดะ เป็นที่รู้จักกันในนามเจ้าชายโชโตะกุ.[6]
ข้อมูลเพิ่มเติม
แก้อ้างอิง
แก้วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อที่เกี่ยวข้องกับ จักรพรรดิโยเม
- ↑ Imperial Household Agency (Kunaichō): 用明天皇 (31)
- ↑ Ponsonby-Fane, Richard. (1959). The Imperial House of Japan, p. 46.
- ↑ Brown, Delmer et al. (1979). Gukanshō, p.263; Titsingh, Isaac. (1834). Annales des empereurs du Japon, pp. 37–38., p. 37, ที่กูเกิล หนังสือ
- ↑ Varley, p.125.
- ↑ Brown, p. 263.
- ↑ Varley, pp.125–129.