เจ้าชายโชโตกุ
เจ้าชายโชโตกุ (ญี่ปุ่น: 聖徳太子; โรมาจิ: Shōtoku Taishi; 7 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 574 – 8 เมษายน ค.ศ. 622)[1] รู้จักกันในพระนาม เจ้าชายอูมายาโดะ (ญี่ปุ่น: 厩戸皇子; โรมาจิ: Umayado no ōjî) หรือ เจ้าชายคามิตสึยะ (ญี่ปุ่น: 上宮皇子; โรมาจิ: Kamitsumiya no ōji) เป็นผู้สำเร็จราชการและนักการเมืองกึ่งตำนานในประเทศญี่ปุ่นยุคอาซูกะที่รับใช้จักรพรรดินีซูอิโกะ พระองค์เป็นพระราชโอรสของจักรพรรดิโยเมและเจ้าหญิงอานาโฮเบะ โนะ ฮาชิฮิโตะ พระบิดาและพระมารดาเป็นพระญาติของตระกูลโซงะ ซึ่งมีอำนาจมากในสมัยนั้น[2] และพระองค์ทรงเกี่ยวพันกับการกำจัดตระกูลโมโนโนเบะอีกด้วย[3] หลักฐานสำคัญที่ใช้อ้างอิงพระประวัติและพระกรณียกิจนั้นมาจากพงศาวดารญี่ปุ่นนาม นิฮงโชกิ เจ้าชายมีชื่อเสียงจากการปรับปรุงการบริหารราชการให้ทันสมัยและส่งเสริมศาสนาพุทธในประเทศญี่ปุ่น[4]
เจ้าชายโชโตกุ | |
---|---|
พระบรมฉายาลักษณ์เจ้าชายโชโตกุกับบริวารสองคน ภาพสีบนผ้าไหม ญี่ปุ่นยุคคามากูระ, คริสต์ศตวรรษที่ 13 | |
ประสูติ | 7 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 574 |
สวรรคต | เมษายน 8, 622 | (48 ปี)
คู่อภิเษก | อูจิ โนะ ชิตสึกาฮิ โทจิโกะ โนะ อิรัตสึเมะ |
พระราชบุตร | เจ้าชายยามาชิโระ |
ราชวงศ์ | ยามาโตะ |
พระราชบิดา | จักรพรรดิโยเม |
พระราชมารดา | เจ้าหญิงอานาโเบะ โนะ ฮาชิฮิโตะ |
ลำดับวงศ์ตระกูล
แก้พระบิดามารดา
- พระบิดา: จักรพรรดิโยเม (用明天皇, ค.ศ. 517 – 21 พฤษภาคม ค.ศ. 587)
- พระมารดา: (จักรพรรดินี) เจ้าหญิงอานาโฮเบะ โนะ ฮาชิฮิโตะ (穴穂部間人皇女, สวรรคต ค.ศ. 622)
ภริยา
- เจ้าหญิงอูจิ โนะ ไคตาโกะ (菟道貝蛸皇女, ประสูติ ค.ศ. 570) พระราชธิดาในจักรพรรดิบิดัตสึกับจักรพรรดินีซูอิโกะ
- ทาจิบานะ โนะ โออิรัตสึเมะ ธิดาในเจ้าชายโอวาริ (橘大郎女)
- โอรส: เจ้าชายชิรางาเบะ (白髪部王; สวรรคต 30 ธันวาคม ค.ศ. 643)
- ธิดา: เจ้าหญิงเทจิมะ (手島女王; 30 ธันวาคม ค.ศ. 643)
- โทจิโกะ โนะ อิรัตสึเมะ, ธิดาในโซงะ โนะ อูมาโกะกับพระนางโมโนโนเบะ (刀自古郎女)
- โอรส: เจ้าชายยามาชิโระ (山背大兄王; 30 ธันวาคม ค.ศ. 643)
- ธิดา: เจ้าหญิงไซ (財王; 30 ธันวาคม ค.ศ. 643)
- โอรส: เจ้าชายฮิดอกิ (日置王; 30 ธันวาคม ค.ศ. 643)
- ธิดา: เจ้าหญิงคาตาโอกะ (片岡女王; 30 ธันวาคม ค.ศ. 643)
- พระนางคาวาฮิเดะ โนะ อิรัตสึเมะ (膳大郎女)
- โอรส: เจ้าชายฮัตสึเนะ โนะ โอกิมิ (泊瀬王; 30 ธันวาคม ค.ศ. 643)
- โอรส: เจ้าชายซาเองูซะ (三枝王;30 ธันวาคม ค.ศ. 643)
- โอรส: เจ้าชายโทโมชิโกะ (伊止志古王; 30 ธันวาคม ค.ศ. 643)
- โอรส: เจ้าชายอาซาเรียวโกะ (麻呂古王; 30 ธันวาคม ค.ศ. 643)
- ธิดา: ราชินีสึกิชิเนะ (舂米女王; 30 ธันวาคม ค.ศ. 643) สมรสกับเจ้าชายยามาชิโระ
- ธิดา: เจ้าหญิงคูนามิ (久波太女王; 30 ธันวาคม ค.ศ. 643)
- ธิดา: เจ้าหญิงโทริบูชิ (波止利 女王; 30 ธันวาคม ค.ศ. 643)
- ธิดา: เจ้าหญิงอูมายาโกะ (馬屋古女王; 30 ธันวาคม ค.ศ. 643)
สิ่งสืบทอด
แก้มีสถาบันหลายแห่งที่ตั้งชื่อตามโชโตกุ เช่น มหาวิทยาลัยโชโตกุกากูเอ็งและวิทยาลัยที่เกี่ยวข้อง (ทั้งสองแห่งอยู่ในกิฟุ) พยางค์แรกของพระนาม (聖) สามารถอ่านแบบโก-อนว่า โช และในแบบคัง-อนว่า เซ ตัวอ่านแบบหลังสามารถพบในชื่อมหาวิทยาลัยเซโตกุและวิทยาลัยที่เกี่ยวข้อง (ทั้งสองแห่งอยู่ในมัตสึโดะ)
สกุลเงิน
แก้พระบรมสาทิสลักษณ์ของเจ้าชายโชโตกุปรากฏลงในธนบัตร 100, 1,000, 5,000 และ 10,000 เยน[5]
ภาพ
แก้ภาพวาด
แก้-
ภาพวาดบนผ้าไหมของโชโตกุตอนพระชนมพรรษา 16 พรรษา ยุคราชสำนักเหนือ-ใต้ คริสต์ศตวรรษที่ 14
-
ภาพวาดบนผ้าไหมของโชโตกุตอนพระชนมพรรษา 16 พรรษา
-
เท็นจูโกกุโชโจมณฑล สร้างขึ้นเพื่ออุทิศแด่โชโตกุ (ค.ศ. 622)
-
โชโตกุกับพระอนุชา (ซ้าย: เจ้าชายเองูริ) กับพระโอรสองค์แรก (ขวา: เจ้าชายยามาชิโระ)[6]
-
ภาพวาดของโชโตกุโดยคิกูจิ โยไซ (1781–1878)
-
ภาพวาดของโชโตกุโดยโคงัง เซ็นจิ, ค.ศ. 1800
ประติมากรรม
แก้-
รูปปั้นโชโตกุพนมมือขณะทรงพระเยาว์ ประมาณ ค.ศ. 1200-1350
-
รูปปั้นไม้ของเจ้าชายโชโตกุที่พิพิธภัณฑ์กีเมต์
-
โชโตกุในฐานะพระโพธิสัตว์ที่วัดอาซูกะ-เดระ
-
ประติมากรรมของโชโตกุจากวัดโฮรีวจิ
อ้างอิง
แก้- ↑ A History of Japan, R.H.P. Mason & J.G. Caiger, Charles E. Tuttle Co., Tokyo 1977, 0221-000349-4615
- ↑ "Patron kings". Khyentse foundation. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-09-16. สืบค้นเมื่อ 2010-03-01.
- ↑ Como, Michael I. (2006). Shōtoku: ethnicity, ritual, and violence in the Japanese Buddhist tradition. New York: Oxford University Press. ISBN 0-19-518861-6.
- ↑ "Turtle-shaped stonework at Osaka temple dates to 7th century: study". Mainichi Daily News. April 27, 2019. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 24, 2020.
- ↑ "Security Features of Bank of Japan Notes". Bank of Japan.
- ↑ Binyon, Laurence (2006). Painting in the Far East: An Introduction to the History of Pictorial Art in Asia, Especially China and Japan. Elibron. p. 85. ISBN 0-543-94830-7.
The author of this portrait is unknown; it is generally held to be the work of a Korean artist, but is quite probably the work of a native hand.
ข้อมูล
แก้- Como, Michael A. (2008). Shotoku: Ethnicity, Ritual and Violence in the Japanese Buddhist Tradition. New York: Oxford University Press. ISBN 978-0-19-518861-5
- Varley, H. Paul (1973). Japanese Culture: A Short History. New York: Praeger Publishers.
- Varley, Paul (1980). Jinnō Shōtōki: A Chronicle of Gods and Sovereigns. New York: Columbia University Press. ISBN 978-0-231-04940-5; OCLC 59145842
บรรณานุกรม
แก้- Pradel, Chari (2008). Shoko Mandara and the Cult of Prince Shotoku in the Kamakura Period, Artibus Asiae 68 (2), 215–46
แหล่งข้อมูลอื่น
แก้วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อเกี่ยวกับ Prince Shōtoku
- ผลงานโดย เจ้าชายโชโตกุ บนเว็บ LibriVox (หนังสือเสียง ซึ่งเป็นสาธารณสมบัติ)