ยินดีต้อนรับสู่วิกิพีเดียภาษาไทย

ยินดีต้อนรับคุณ ทนายเกรียงศักดิ์ พินทุสรศรี สู่วิกิพีเดียภาษาไทย หน้าต่อไปนี้อาจเป็นประโยชน์แก่คุณ:

  มือใหม่ขอแนะนำอย่างยิ่งให้คุณเริ่มจากแก้หรือต่อเติมบทความที่มีอยู่แล้วก่อน ไม่ควรรีบสร้างบทความด้วยตัวเองเพราะมักไม่ผ่านและถูกลบ

แนะนำเว็บ

และ

เรียนรู้การแก้ไข (ขอใช้เวลาอ่านไม่นานเพื่อให้ทราบพื้นฐาน)

อีกทางหนึ่ง อ่านหน้า การเข้ามีส่วนร่วมในวิกิพีเดีย ซึ่งสรุปทุกอย่างไว้หน้าเดียว

ฉันอ่านหมดแล้วยังไม่เข้าใจเลย
ถามที่แผนกช่วยเหลือ หรือ ถามในหน้านี้แหละ! หรือ ใช้ แชตดิสคอร์ด

อย่าลืมลงชื่อในหน้าพูดคุย โดยการพิมพ์ --~~~~ จะปรากฏชื่อและวันเวลา

Hello ทนายเกรียงศักดิ์ พินทุสรศรี! Welcome to Thai Wikipedia. If you are not a Thai speaker, you can ask a question in our Guestbook.


-- New user message (คุย) 10:41, 28 พฤศจิกายน 2566 (+07)ตอบกลับ

กลุ่มไกด์แห่ร้องกองปราบ โดนอาจารย์ ม.ดัง หลอกอบรมฯ จ่ายเงิน 3-5 หมื่น

แก้

กลุ่มไกด์แห่ร้องกองปราบ โดนอาจารย์ ม.ดัง หลอกอบรมฯ จ่ายเงิน 3-5 หมื่น ไม่ต้องผ่านการอบรม

กลุ่มไกด์แห่ร้องกองปราบ โดนอาจารย์ ม.ดัง หลอกอบรมฯ จ่ายเงิน 3-5 หมื่น ไม่ต้องผ่านการอบรม หลังได้ประกาศฯ และบัตรประจำตัวมัคคุเทศก์กลับถูกกรมการท่องเที่ยวแจ้งความดำเนินคดีข้อหาปลอมและใช้เอกสารปลอม

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 14 ธ.ค.66 ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ดร.เกรียงศักดิ์  พินทุสรศรี ทนายความ พาผู้เสียหายกว่า 50 ราย ร้องพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม กรณีโดนอาจารย์สอนวิชามัคคุเทศก์ชื่อดัง หลอกโอนเงินและปลอมแปลงเอกสารและใช้เอกสารปลอมเกี่ยวกับบัตรมัคคุเทศก์ที่เป็นไกด์คนไทย-จีน โดยมีผู้เสียหายทั่วประเทศกว่า 300 คน ที่โดนอาจารย์คนดังในวงการทัวร์จีนทำการปลอมแปลงและใช้เอกสารปลอมในบัตรดังกล่าวทำให้ประชาชนทั่วไปโดยเฉพาะวงการทัวร์จีนเสียหายจึงนับว่าเป็นภัยสังคมอย่างยิ่ง

ผู้เสียหายจึงรวมตัวกันมาเพื่อเข้ามาแจ้งกองปราบปรามกับอาจารย์คนดังกล่าวในข้อหาฉ้อโกงประชาชนและปลอมแปลงเอกสารและใช้เอกสารปลอมโดยขอให้ตำรวจกองปราบปรามช่วยขยายผลว่ามีการทำเป็นเป็นกระบวนการหรือไม่อย่างไรและขอให้ช่วยตรวจสอบว่าจะมีข้าราชการร่วมอยู่ด้วยหรือไม่อย่างไรอย่างไร

ดร.เกรียงศักดิ์  ทนายความกล่าวว่า มีอาจารย์ท่านหนึ่งทำตัวเป็นอาจารย์แต่สุดท้ายดันมาฉ้อโกงประชาชน ปลอมแปลงเอกสารใช้เอกสารปลอม ทำให้สะเทือนไปทั้งวงการไกด์ ทำเอกสารปลอมหลอกเงิน 3-5  หมื่นบาท สุดท้ายผู้เสียหายโดนหมายเรียกทั้งที่ไม่ได้ทำอะไรผิด บางคนถึงขั้นถูกดำเนินคดี จึงพามาร้องตำรวจกองบัญชาการสอบสวนกลาง

นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 35 ปี ไกด์ท้องถิ่นผู้เสียหาย เปิดเผยว่า พวกตนทั้งหมดเป็นชาวไทยที่ราบสูง จาก จ.เชียงใหม่ เชียงราย ประกอบอาชีพเป็นไกด์ท้องถิ่น วันนี้ร่วมตัวกันมาแจ้งความตำรวจกองปราบฯ เพื่อให้ดำเนินคดีกับอาจารย์มหาวิทยาลัยคนหนึ่งที่เจ้าของหลักสูตรมัคคุเทศก์มหาวิทยาลัยดังๆ หลายแห่ง

เนื่องจากอาจารย์คนดังกล่าวหลอกลวง  ฉ้อโกงประชาชน ปลอมแปลงเอกสาร และใช้เอกสารปลอมหลอกไกด์ไทย - จีน ทั่วประเทศ

จุดเริ่มต้นที่พวกตนโดนหลอกมาจากมีเพื่อนได้แนะนำอาจารย์ท่านนี้ให้รู้จักและตนได้ไปตรวจสอบโปรไฟล์อาจารย์ท่านนี้ผ่านช่องทางเฟซบุ๊กจึงเห็นว่าน่าเชื่อถือ เลยมีการสมัครเข้าไปอบรมกับอาจารย์เพื่อที่จะได้ใบประกาศมัคคุเทศก์ที่สามารถไปได้ทั่วประเทศจากเดิมที่เป็นแค่ไกด์ท้องถิ่นตนจึงได้โอนมัดจำกับคนที่แนะนำมาโดยไม่ให้โอนมาทางอาจารย์โดยตรง และอาจารย์คนดังกล่าวได้ส่งเอกสารใบประกาศเป็นมัคคุเทศก์มาที่บ้านให้ ผ่านมาประมาณ 2 เดือน ตนโดนหมายเรียกมาที่บ้านให้ไปที่สน. ทุ่งสองห้อง โดยเรียกไปรับทราบข้อกล่าวหาข้อหาปลอมแปลงเอกสารมัคคุเทศก์ปลอมซึ่งตนไม่ได้ใช้เอกสารปลอมปลอมตนมีวุฒิบัตรใบอนุญาตพร้อมใบอนุญาตเป็นมัคคุเทศก์ สุดท้ายตนก็มารู้ทีหลังว่าอาจารย์คนดังกล่าวปลอมแปลงเอกสารปลอม ตนจึงได้มาขอให้ ดร.เกรียงศักดิ์ ช่วย เพราะคิดว่าอาจารย์คนดังกล่าวกับเจ้าหน้าที่บางท่านในกรมการท่องเที่ยวร่วมมือกันหลอกลวง ฉ้อโกง และปลอมแปลงเอกสารปลอม ให้กับผู้เสียหายทั้งหมด

ระหว่างให้ข้อมูลสื่อมวลชนอยู่ พ.ต.ท ปิยพงษ์ บุขุนทศ  เจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัด กองกำกับการ ควบคุมธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ ทราบเรื่องได้เดินทางมาพบทนายเกรียงศักดิ์  แจ้งว่าผู้บังคับบัญชาทราบเรื่องบรรดามัคคุเทศก์ทัองถิ่นได้รับความเดือดร้อนจากการถูกดำเนินคดีดังกล่าวจึงให้มาประสานเพื่อให้ความช่วยเหลือบรรดาไกด์กลุ่มผู้เสียหายกลุ่มนี้ และหาข้อมูลเพื่อนำไปดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่บางรายกรมการท่องเที่ยวที่ร่วมขบวนการปลอมและใช้เอกสารปลอมกับอาจารย์คนดังกล่าวด้วย

เบื้องต้นพนักงานสวนสวน กก.1 บก.ป.ได้สอบปากคำบรรดาไกด์ท้องถิ่นทั้งหมดเพื่อดำเนินการสืบสวนสอบสวนหาขบวนการปลอมแปลงเอกสารทางราชการของกรมการท่องเที่ยวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป 2001:44C8:4656:880E:E130:2FE9:62D9:16CB 16:15, 22 ธันวาคม 2566 (+07)ตอบกลับ

"ตั้ม โอนนาน" ร้อง ตร. ถูกฟ้องผิดตัวแทนน้องชาย โอดถูกบังคับคดีสูญเงิน 4 ล้านบาท แถมโดนฟ้องซ้ำเรื่องเดิมอีก

แก้

"ตั้ม โอนนาน" ร้อง ตร. ถูกฟ้องผิดตัวแทนน้องชาย โอดถูกบังคับคดีสูญเงิน 4 ล้านบาท แถมโดนฟ้องซ้ำเรื่องเดิมอีก

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 26 ธ.ค.66 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดร. เกรียงศักดิ์ พินทุสรศรี ทนายความ พานายรัฐนันท์ ธนทรัพย์ปรีชา หรือ "ตั้ม โอนนาน" ผู้เสียหายที่เคยถูกสาวหลอกให้โอนเงินที่เป็นข่าวใหญ่โตเมื่อหลายปีก่อน มาร้องขอความเป็นธรรม หลังถูกฟ้องคดีผิดคนในข้อหา เบิกความเท็จ เอาพยานเอกสารเท็จเข้าสู่ศาล"

นายรัฐนันท์ หรือ ตั้ม โอนนาน เปิดเผยว่า คดีนี้เริ่มต้นจากที่น้องชายของตนเคยทำธุรกิจขายโมเดลการ์ตูนร่วมกับผู้หญิงคนหนึ่ง แต่หลังจากนั้นเหมือนกับว่าการทำธุรกิจร่วมกันเกิดขาดผลประโยชน์ น้องชายของตนจึงขอเลิกทำธุรกิจร่วมกัน ทำให้อีกฝ่ายเกิดความไม่พอใจและไปฟ้องเนื่องจากทำผิดสัญญาการซื้อ-ขาย แต่แทนที่ฝ่ายหญิงจะไปฟ้องร้องดำเนินคดีกับน้องชายตน ปรากฏว่าฝ่ายหญิงเลือกที่จะฟ้องร้องตน ทั้งที่ตนไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องนี้เลย ตนก็เลยจ้างทนายไปต่อสู้คดี ด้วยเงินจำนวนกว่า 1 แสนบาท ซึ่งในระหว่างที่ต่อสู้คดีนั้นททนายของตนไม่เคยให้ตนไปศาลเลยสักครั้ง จะขอจัดการเรื่องทุกอย่างให้เอง ตนก็เชื่อใจทำตามที่ทนายบอก แต่พอศาลพิพากษาตนก็ตกใจเพราะแพ้คดี และถูกบังคับคดีพร้อมให้ชดใช้ค่าเสียหายกว่า 4 ล้านบาท

ต่อมาเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ตนก็โดนฟ้องร้องในคดีลักษณะเดิมจากโจทก์คนเดิม มูลหนี้เดิม โดยมีจำเลยร่วมเพิ่มเข้ามาคือ น้องชายตน เป็นจำเลยที่ 2 และภรรยาของน้องชายเป็นจำเลยที่ 3 ตามลำดับ ตนก็เลยไปแจ้งความ พร้อมกับเปลี่ยนทีมกฎหมายเป็นทนายเกรียงศักดิ์

ทางด้านทนายเกรียงศักดิ์ หลังจากที่เข้ามาเป็นทีมดูแลกฎหมายของตั้ม ก็ได้ทำการตรวจสอบและพบข้อมูลว่า ฝั่งโจทก์ใส่ข้อมูลว่า รู้จักกับตั้มมานานหลายปี โดยใช้พยานเท็จเป็นแม่ของโจทก์เอง จึงมองว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม อยากให้ ผบ. ตร. ช่วยมากำชัดเรื่องคดีความ เพราะตั้ม เคยแจ้งความมานานกว่า 1 ปีแล้ว คดีน่าจะมีความคืบหน้ามากกว่านี้ อีกทั้งยังพบข้อมูลว่าฝ่ายโจทก์มีอิทธิพล เป็นผู้ช่วยนักการเมืองชื่อดังในจังหวัดนครสวรรค์ และคดีนี้มีข้อพิรุธหลายอย่าง โดยเฉพาะตัวของทนายความคนเก่าที่ทำคดีนี้ ปีหน้าเติมจะยื่นเรื่องให้สภาทนายความแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ตรวจสอบข้อเท็จจริง และมรรยาททนายความ

เบื้องต้นเจ้าหน้าตำรวจฝ่ายอำนวยการรับหนังสือร้องเรียนไว้เสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป ทนายเกรียงศักดิ์ พินทุสรศรี (คุย) 16:25, 4 มกราคม 2567 (+07)ตอบกลับ

ทนายดังร้องกองปราบฯ ช่วยจับคนขู่ฆ่า หลังโดนโทร.ก่อกวน คุกคามและขู่ฆ่า

แก้

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 18 ม.ค.67 ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชชาการตำรวจสอบสวนกลาง  พหลโยธิน จอมพล จตุจักร  กทม.  ดร.เกรียงศักดิ์ พินทุสรศรี ทนายความชื่อดัง  เดินทางเข้าพบ พงส.บก.ป. โดยนำหลักฐานมาให้ตรวจสอบเพื่อดำเนินคดีข้อหาทำให้เกิดความกลัวฯ กับบุคคลที่ โทร.มา ก่อกวน/ข่มขู่ /ขู่ฆ่า จำนวนหลายเบอร์/หลายครั้ง ระหว่างวันที่ 5-7 ม.ค. สาเหตุเชื่อว่ามาจากการเป็นทนายให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน

ทนายเกรียงศักดื์ เปิดเผยว่า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 5,6,7 มกราคม 2567 เวลาประมาณ ตั้งแต่เวลา 14.10 . ตนได้ถูกโทร.ลึกลับโทร.มาขู่ว่า “มึงระวังตัวให้ดี กูจะไปฆ่ามึง” แล้วก็วางหูไป และมีโทรมาป่วนถี่มาก ตลอดเวลา พอรับสายก็ไม่พูด พอโทรไปบางทีก็รับสาย พอรู้ว่าเป็นผมก็บอกว่าโทรผิด


ต่อมาตนได้ให้ทนายความลูกน้อง ซื้อแอพพลิเคชั่นให้เพื่อใช้ตรวจสอบ จะได้รู้คนโทรมาว่าใครโทรเข้ามาเมื่อรับสาย

จึงทำให้รู้ว่าเป็นขบวนการเดียวกับที่ขู่ฆ่าตนก็จะบันทึกชื่อกลุ่มนี้บล็อกเบอร์นั้น


วันนี้จึงรวบรวมหลักฐานทั้งหมดมาแจ้งความดำเนินคดีกับคนกลุ่มนี้ ข้อหาข่มขู่ทำให้กลัว และข้อหาอื่นๆ ที่พนักงานสอบสวนจะดำเนินการ

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนสอบปากคำผู้เสียหายเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ทนายเกรียงศักดิ์ พินทุสรศรี (คุย) 20:22, 21 มกราคม 2567 (+07)ตอบกลับ

ทนายดัง ถูกกลุ่มคน โทร.ก่อกวน คุกคามและขู่ฆ่า ล่าสุดส่งหญิงสาวมาลวงชวนไปสวิงกิ้งเพื่อสร้างหลักฐานไว้แบล็คเมล์

แก้

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 27 ก.พ.67 ที่ สภ.สำโรงเหนือ ดร.เกรียงศักดิ์ พินทุสรศรี ทนายความช่วยเหลือประชาชน เดินทางเข้าพบ พงส.สภ.สำโรงเหนือ แจ้งความลงบันทึกประจำวันกรณีถูกกลุ่มบุคคลไม่หวังดีกระทำการก่อกวนและข่มขู่ ล่าสุดเชื่อว่าส่งผู้หญิงมาล่อลวงสร้างหลักฐานเพื่อแบล็คเมล์

ทนายเกรียงศักดิ์ เปิดเผยว่า หลังจากที่ตนเข้าแจ้งความ พงส.กองบังคับการปราบปราม เมื่อ 18 ม.ค. ที่ผ่านมา ให้ตรวจสอบดำเนินคดีข้อหาทำให้เกิดความกลัวฯ กับบุคคลที่ โทร.มาระหว่างวันที่ 5-7 ม.ค.โทร.มาหลายสาย ก่อกวน/ข่มขู่ /ขู่ฆ่า จำนวนหลายเบอร์/หลายครั้ง สาเหตุเชื่อว่ามาจากการเป็นทนายให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน ซึ่งทางกองปราบฯ ได้ประสานส่งเรื่องมาให้ท้องที่รับผิดชอบดำเนินการให้ความช่วยเหลือตน

ต่อมาวันที่ 21-26 ก.พ.67 มีโทรศัพท์โทร.ขู่ว่า

”มึงระวังตัวให้ดี กูจะไปฆ่ามึง” แล้วก็วางหูไป และมีโทร.มาป่วนถี่มาก ตลอดเวลา พอรับสายก็ไม่พูด พอโทรไปบางทีก็รับสาย พอรู้ว่าเป็นผมก็บอกว่าโทร.ผิด

ตนตัดสินใจให้ทนายความที่เป็นลูกน้องไปซืัอแอพพลิเคชั่นตรวจสอบปลายสายที่โทร.เข้ามาจะได้รู้ว่าคนโทร.มาเป็นใคร ?

เมื่อตนจะรับสาย ก็จะได้รู้ว่าเป็นขบวนการเดียวกับที่ขู่ฆ่าตน ก็จะ บันทึกชื่อกลุ่มนี้และบล็อกเบอร์มือถือนั้นไป

หลังแจ้งความกองปราบฯ เป็นข่าวออกไปทั่ว ก็ไม่ทีโทร.มาข่มขู่หคือก่อกวนนานกว่า 10 วัน

ตนเชื่อว่ากลุ่มคนกลุ่มนี้ยังไม่ยอมหยุดหาเรื่องตน

ล่าสุดเมื่อ 1-5  ก.พ. มีหญิงสาวหน้าตาดีเข้ามาตีสนิมขณะที่ตนไปซาวน่าแห่งหนึ่งย่านสำโรง ก่อนจะขอเบอร์มือถือและไลน์ไป

ต่อมาเธอได้ส่งภาพเซ็กซี่ขอเธอมาให้ตนดู  พอวันที่ 4 ก.พ ก็ส่งภาพที่เปลือยหมดมาให้ดูอีก ตอนนั้นตนยังไม่รู้ว่าถูกหลอกให้หลงเชื่อ

แต่วันที่ 5 ก.พ. ที่ซาวน่าเธอก็เปิดให้ตนดูและให้จับ และบอกว่าเธอไม่ได้เอารถยนต์มา  ขอให้ตนไปส่ง ระหว่างทางก็ชวนตนโรงแรม

ระหว่างที่มีอะไรกันอยู่เธอแอบใช้โทรศัพท์ถ่าย พอตนเห็นก็บอกให้เธอลบคลิป เธอบอกตั้งใจเก็บไว้ดูเล่น ถ้าตนไม่อนุญาต เธอก็จะลบทิ้ง เธอบอกได้ลบคลิปแล้ว

พอวันรุ่งขึ้นเธอนัดตนอีกครั้ง โดยขอให้ตนชวนเพื่อนหรือลูกน้องมาร่วมสวิงกิ้งด้วย และจะขอถ่ายคลิป บอกว่าจะขอเก็บไว้ดูเอง ผมมองว่ามันแปลกๆ เหมือนจะโดนจัดฉากวางงาน ตนจึงปฎิเสธไป

ตนจึงระวังตัวและถอยห่างหญิงคนดังกล่าวมาประมาณ 7 วัน ก็มีขบวนการโทร.ป่วนกลับมาเหมือนเดิม

ตนคาดว่าน่าจะมีการวางงานจัดฉากวางแผนไว้หรือไม่อย่างไร เพื่อสร้างหลักฐาน ทำให้ตนคิดหนักว่าจะออกมาเปิดขบวนการแบบนี้ดีหรือไม่

ตนคิดว่าควรเปิดโปงให้สังคมรับรู้ดีกว่า  ถามว่าตนอับอายหรือไม่ ตนไม่อายเพราะผมยังเป็นโสดและคาดว่าน่าจะโดนวางงาน

ตนจะให้ประสบการณ์ ให้ผู้ชายทุกคนรู้และให้ระวังเป็นอุทาหรณ์และเผื่อวันหน้าจะไม่เป็นเหยื่อโดนกรรโชกทรัพย์ ละเมิด หรือเอาคลิปไปเผยแพร่จะโดนข้อหา พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และมข้อหาอื่นอีกมากมาย

วันนี้จึงตัดสินใจมาแจ้งความ สภ.สำโรงเหนือ ให้ดำเนินคดีกับคนกลุ่มนี้ ข้อหาข่มขู่ทำให้กลัว พร้อมกับขอลงประจำวันไว้หลักฐานเรื่องคลิปที่ถูกแอบถ่ายด้วย

เบืัองต้นพนักงานสอบสวนรับแจ้งความและสอบปากคำทนายความซึ่งตกเป็นผู้เสียหายเองไว้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ทนายเกรียงศักดิ์ พินทุสรศรี (คุย) 13:57, 29 กุมภาพันธ์ 2567 (+07)ตอบกลับ