คอมมานด์ & คองเคอร์ 3: เคนแรธ
คอมมานด์ & คองเคอร์ 3: เคนแรธ (อังกฤษ: Command & Conquer 3: Kane's Wrath) เป็นภาคเสริมของเกม คอมมานด์ & คองเคอร์ 3: ไทบีเรียมวอร์ส พัฒนาโดย อีเอ ลอสแอนเจลิส วางจำหน่ายเวอร์ชันพีซีในที่สหรัฐอเมริกาวันที่ 24 มีนาคม 2008[1] เวอร์ชันพีซีในยุโรปวันที่ 28 มีนาคม 2008[2] และเวอร์ชัน เอกซ์บอกซ์ 360 ในวันที่ 24 มิถุนายน 2008
คอมมานด์ & คองเคอร์ 3: เคนแรธ | |
---|---|
ผู้พัฒนา | อีเอ ลอสแอนเจลิส |
ผู้จัดจำหน่าย | อิเลคโทรนิค อาร์ต |
แต่งเพลง | |
ชุด | คอมมานด์ & คองเคอร์ |
เอนจิน | SAGE engine |
เครื่องเล่น | ไมโครซอฟท์ วินโดวส์, เอกซ์บอกซ์ 360 |
วางจำหน่าย | ไมโครซอฟท์ วินโดวส์ เอกซ์บอกซ์ 360 |
แนว | วางแผนการรบเรียลไทม์ |
รูปแบบ | Single player, multiplayer |
รูปแบบเกม
แก้โหมดยุทธการยึดโลก (พีซี)
แก้โหมดยุทธการยึดโลกเป็นเกมการรบเพื่อการควบคุมอาณาเขตและทำสงครามโลก ซึ่งต่อสู้กันในโลกที่เต็มไปด้วยไทบีเรียมในปี 2047 ซึ่งรูปแบบเกมจะเป็นแบบ ผลัดตาเดิน โดยผู้เล่นจะต้องควบคุมฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ได้แก่ จีดีไอ น็อด และสคริน ซึ่งอีก 2 ฝ่ายจะเป็นคอมพิวเตอร์บังคับ ซึ่งแต่ละฝ่ายมีเป้าหมายแตกต่างกันไป
โหมดเคนส์ ชาเลนจ์ (เอกซ์บอกซ์ 360)
แก้โหมดเคนส์ ชาเลนจ์ (Kane's Challenge) เป็นโหมดที่มีเฉพาะสำหรับเกมในเวอร์ชัน เอกซ์บอกซ์ 360 คล้ายกับ เจนเนอร์รัลส์ ชาเลนจ์ (General's Challenge) ใน คอมมานด์ & คองเคอร์: เจเนรัลส์ - ซีโร่ เอาเออร์ โดยผู้เล่นจะเลือกฝ่ายใดฝ่านหนึ่งจากเก้าฝ่าย และทำลายฝ่ายที่เหลือให้หมด
โหมดบทยุทธการ
แก้บทยุทธการในภาคนี้ จะเป็นของฝ่ายน็อด โดยเริ่มเนื้อเรื่องตั้งแต่ คอมมานด์ & คองเคอร์: ไทบีเรียน ซัน ถึง คอมมานด์ & คองเคอร์ 3: ไทบีเรียมวอร์ส โดยแบ่งเนื้อเรื่องเป็น 3 องก์ ได้แก่ องก์ที่ 1 – กลับมารวมตัวกันใหม่ ซึ่งเป็นเนื้อเรื่องระหว่าง ไทบีเรียน ซัน ถึง ไทบีเรียมวอร์ส, องก์ที่ 2 – การขึ้นสู่อำนาจของเคน เป็นเนื้อเรื่องในช่วง ไทบีเรียมวอร์ส และองก์ที่ 3 – ฟื้นคืนชีพ เป็นเนื้อเรื่องหลังจาก ไทบีเรียมวอร์ส ซึ่งผู้เล่นจะเล่นเป็น ระบบปัญญาประดิษฐ์ชื่อ "ลีเจียน"
ฝ่ายย่อย
แก้นอกจากในเกมคอมมานด์ & คองเคอร์ 3: ไทบีเรียม วอร์สจะมีสามฝ่ายหลักคือ กองกำลังพิทักษ์โลก, ภราดรภาพแห่งน็อดและสครินแล้ว ในเคนแรธได้เพิ่มฝ่ายย่อยไว้อย่างละ 2 ฝ่าย ซึ่งรูปแบบฝ่ายย่อยนี้ ได้เคยใช้มาแล้วในเกม คอมมานด์ & คองเคอร์: เรดอเลิร์ต, คอมมานด์ & คองเคอร์: เรดอเลิร์ต 2 และ คอมมานด์ & คองเคอร์: เจเนรัลส์ - ซีโร่ เอาเออร์ ซึ่งแต่ละฝ่ายจะมีความแตกต่างกันซึ่ง ทำให้เกิดความหลากหลายในการวางแผน และทำให้ผู้เล่นมีฝ่ายเล่นเพิ่มขึ้นจากสามเป็นเก้า
กองกำลังพิทักษ์โลก
แก้จีดีไอ หรือ กองกำลังพิทักษ์โลก เป็นฝ่ายที่ประสานความร่วมมือของหลายๆประเทศ เพื่อต่อต้านการก่อการร้ายของ เคน และทำการทดลองเกี่ยวกับแร่ ไทบีเรียม โดยมีจุดมุ่งหมายในการควบคุมการเจริญเติบโตและเยียวยาโลกด้วยการกวาดล้างแร่ ไทบีเรียม ที่มีพิษร้ายต่อระบบชีวภาพให้หมดสิ้นไปจากโลก กองทัพจีดีไอ นั้นอุดมทั้งทรัพยากร เทคโนโลยีชั้นสูง และเครื่องมือหนัก แต่ระบบภายในแบบราชการทำให้เชื่อถือ แต่เฉพาะเทคโนโลยีที่ไว้ใจได้เท่านั้น ฝ่ายจีดีไอ ใน เคนแรธ มีการเพิ่มยูนิตใหม่ 3 ชนิด คือ แฮมเมอร์เฮด เฮลิคอปเตอร์ที่สามารถนำทหารเข้าไปแล้วยิงออกมาได้, สลิงช็อต ยานโฮเวอร์คราฟ ติดตั้งปืนต้านอากาศขนาดหนัก และ MARV หรือ รถถังแมมม็อธหุ้มเกราะ ที่ติดตั้งปืนใหญ่ยิงคลื่นเสียง และสามารถนำทหารประจำการได้ 4 หน่วย นอกจากนี้ยังสามารถทำลายไทบีเรียมได้ และด้วยขนาดของมันทำให้สามารถบดขยี้ยูนิตทุกตัวไม่เว้นแม้รถถังแมมม็อธให้แบนได้
- สตีลทัลลอน
เป็นกองทหารระดับหัวกะทิชั้นแนวหน้า ขึ้นชื่อเรื่องความโหดเหี้ยมในสนามรบและแฝงตัวอย่างเงียบๆในยามที่ไม่มีภารกิจ สตีลทัลลอน ยอมรับเทคโนโลยีที่ยังมีความเสี่ยงอยู่ได้ในระดับหนึ่ง เพื่อให้มียุทโธปกรณ์เพียงพอต่อกองทหาร และความได้เปรียบเหนือสนามรบเป็นครั้งคราว มียูนิตที่เคยรบในสงครามไทบีเรียมครั้งที่สองเช่น ไททัน, วูฟเวอร์รีน, บิฮิม็อธ, รถเก็บเกี่ยวหนักที่ติดบังเกอร์ และวิศวกรติดปืนพก แต่จุดอ่อนของฝ่าย สตีลทัลลอนคือ พลทหารราบจะไม่มี สไนท์เปอร์ โซนทรูปเปอร์ และ คอมมานโด ทำให้ สตีลทัลลอน มีการเคลื่อนที่ เชื่องช้า ถ้าเทียบกับ จีดีไอ หรือ ZOCOM แต่จุดแข็งของฝ่าย สตีลทัลลอน คือมีเกราะและพลังทำลายสูงกว่ามาก
- ZOCOM
ชื่อย่อจาก Zone Operations Command แปลว่า หน่วยปฏิบัติการณ์ในโซน เป็นกองกำลังทำงานอยู่ในโซนสีแดงบนโลก ห่อหุ้มตัวเองด้วยเกราะหนักเพื่อต้านทานพิษของแร่ ไทบีเรียม และพึ่งพาอาวุธเทคโนโลยีคลื่นเสียงแรงสูง ในสนามรบ พวกเขาจะซ่อนตัวตามบังเกอร์และต้านทานการบุกจู่โจมอย่างรุนแรงได้ และสวนกลับด้วยอำนาจการยิงที่รุนแรงมหาศาลพอๆกัน เช่น หน่วยทหาร โซนเรดเดอร์ ใช้ปืนคลื่นเสียงแทนปืนกล, โซนแชทเตอร์เรอร์ ยานโฮเวอร์คราฟติดตั้งปืนคลื่นเสียงขนาดหนัก และมีการอัพเกรดยูนิตเก่า เช่น เครื่องบินรบออร์ก้า อัพเกรดติดตั้งจรวดคลื่นเสียงได้ รถเก็บแร่ติดจรวดต่อต้านยานพาหนะ และทหารราบของฝ่ายนี้จะสามารถอัพเกรดเกราะป้องกันไทบีเรียมได้
ภราดรภาพแห่งน็อด
แก้เหล่าผู้ร่วมอุดมการแห่ง ภราดรภาพแห่งน็อด นั้น จะมองตัวเองเป็นผู้เกี่ยวข้องทางศาสนามากกว่ากองกำลังในกองทัพทหาร และเชื่ออย่างไม่มีข้อสงสัยว่า เคน เป็นผู้ที่จะปลดปล่อยมนุษยชาติให้พ้นทุกข์ พวกเขาพร้อมที่จะสละทุกสิ่งเพื่อชัยชนะของผู้ร่วมอุดมการ กองกำลังน็อดนั้นเป็นกองกำลังจากประเทศโลกที่สามที่เทคโนโลยีล้าสมัยและขาดแคลนสรรพาวุธ ผสมผสานได้อย่างลงตัวกับกองกำลังทหารรับจ้างที่มีอาวุธทันสมัยสุดหรูหราครบมือ ยุทธวิธีที่ใช้ในสนามรบเป็นแบบกองโจร เข้าโจมตีรวดเร็วรุนแรง แล้วถอยร่นแบบไม่ให้สามารถติดตามได้ ในภาคนี้ ฝ่ายน็อดได้เพิ่มยูนิตใหม่ เช่น แรคอนเนอร์ สามารถนำทหารเข้าไปได้ 2 หน่วย แต่ทหารจะยิงออกมาจาก APC ไม่ได้จนกว่าจะ Deploy หลังจาก Deploy แล้ว จะสามารถใส่เพิ่มได้อีก 1 หน่วย, เสป็คเตอร์ รถปืนใหญ่กลับมาอีกครั้งคราวนี้มันสามารถล่องหนได้ แต่จะปรากฏตัวให้เห็นเมื่อทำการยิง และ หุ่นพิฆาตรีดรีมเมอร์[3]
- แบล็คแฮนด์
ภายใต้บัญชาของ ภราดามาร์ซิออน ถือเป็นที่เกรงกลัวเป็นอย่างมากเนื่องจากความก้าวร้าวและรวดเร็วในการปฏิบัติการจนถึงขั้นที่แทบจะไม่มีใครรอดชีวิตหากต้องทำศึกด้วย เนื่องจากเป็นกลุ่มที่ยึดติดในศาสนาแห่ง น็อด อย่างลึกซึ้ง ทำให้พวกเขาปฏิเสธที่จะใช้วิธีการพรางตัวและ"เครื่องจักรที่ไร้วิญญาณ"ในการ ต่อสู้ ยกเว้นหุ่นรบเพียวริไฟเออร์ ที่แต่ละตัวผ่านการอวยพรจากหลวงพ่อของกลุ่ม ก่อนนำมาใช้ในสนามรบ แบล็คแฮนด์ ยังยึดถือเรื่อง "ไฟแห่งการชำระล้าง" ที่ใช้ในกองกำลังหลักด้วย หน้าที่แต่เดิมของกลุ่ม แบล็คแฮนด์ เปรียบได้เสมือนตำรวจแห่งศาสนา แต่ในที่สุดพวกเขาก็สังเกตได้ว่าขอบเขตของภารกิจนั้น ได้ขยายไปอย่างมากทั้งเผยแผ่ศาสนา จนไปถึงปกป้องเหล่าผู้นำเช่น เคน จนกระทั่งภราดามาร์ซิออนแยกตัวจาก น็อด หลังสิ้นสงครามไทบีเรียมครั้งที่สอง เพื่อก่อตั้งกลุ่ม แบล็คแฮนด์ใหม่ โดยมีตัวเองเป็นผู้นำกึ่งพระเจ้า[4]
- มาร์คออฟเคน
เป็นกองกำลังไซบอร์กติดอาวุธหนัก และชอบใช้กลยุทธที่วางแผนมาเป็นอย่างดีในการเข้าโจมตีแบบซึ่งๆหน้า รวมถึงการใช้ระเบิด EMP และระเบิด ไทบีเรียม อย่างระวัดระวัง ทำให้กลุ่มนี้เป็นกองกำลังหนักที่น่าเกรงกลัวด้วยอาวุธที่รุนแรงและความฉลาดรอบคอบในการใช้ยุทธวิธี
สคริน
แก้สิ่งมีชีวิตนอกโลก ถูกเปิดเผยเมื่อการระเบิดครั้งใหญ่ของ น็อด ที่ต้องการปลุกระบบการรุกรานเพื่อรับการโจมตีในการทำลายดวงดาว โดยมีระบบการทำงานด้วยเครื่องมือ อชีวะวิทยาศาสตร์อันเป็นเอกลักษณ์ของชาวต่างดาว พร้อมทั้งมายังโลกเพื่อที่จะมาเก็บเกี่ยวไทบีเรียมที่เติบโตโลกมนุษย์ ยูนิตใหม่ๆที่เพิ่มเข้ามาเช่น แม็คคาพีท ตะขาบเลื้อยมรณะ, ราเวนเกอร์ ทหารที่ยิงผลึกไทบีเรียมโจมตีเป้าหมายและเฮ็กซะพ็อต
- ริพเปอร์-17
ได้ละทิ้งการสะกดจิตและการรบทางอากาศ รวมไปถึงยานรบสตอร์มไรเดอร์ แล้วไปเน้นการโจมตีทางบกที่หนักหน่วงด้วยอาวุธผลึกและลำแสงแปลงสภาพที่ใช้ ไทบีเรียม เป็นฐาน มียูนิตเช่น ราเวนเกอร์ ทหารที่ยิงผลึก ไทบีเรียม โจมตีเป้าหมาย, หน่วยเก็บแร่มีโล่สนามพลัง โดยฝ่ายนี้เน้นโจมตีที่หนักหน่วง
- ทราเวลเลอร์-59
นั้นจะเน้นไปที่ความรวดเร็ว ความคล่องแคล่ว และความยืดหยุ่นในการเข้าต่อตี ไม่นิยมความโหดเหี้ยมของความบ้ากำลังแต่จะใช้กลยุทธที่มีชั้นเชิงในการหลอกล่อให้ศัตรูเข้ามาในพื้นที่ที่ พวกนี้ได้เปรียบในการต่อสู้ ทราเวลเลอร์-59 นิยมใช้การสะกดจิตและเทคโนโลยีเทลเพอร์ทเป็นหลักซึ่ง ชดเชยได้อย่างดีกับกำลังการโจมตีที่หายไปเพื่อแลกกับ การควบคุมติตใจ
เนื้อเรื่อง
แก้ในเคนแรธได้แบ่งเนื้อเรื่องเป็น 3 ตอน ได้แก่ องก์ที่ 1 – กลับมารวมตัวกันใหม่, องก์ที่ 2 – การขึ้นสู่อำนาจของเคน และ องก์ที่ 3 – ฟื้นคืนชีพ
ในองก์ที่ 1 ย้อนไปหลังจาก สงครามไทบีเรียมครั้งที่สอง จบลงในปี 2034 นายพลแมคนีลและทหารฝ่ายจีดีไอต่างฉลองชัย ที่ภราดรภาพแห่งน็อดล่มสลาย และเชื่อว่าเคนได้ตายไปแล้ว แต่ว่าเคนยังมีชีวิตอยู่ ซึ่งได้หลบภัยอยู่ในใต้ดิน โดยมีบาดแผลที่หน้าจึงทำให้เคนต้องใส่หน้ากาก เคนโกรธแค้นที่ทุกคนในภราดรภาพต่างก็หนีไปหมด ทำให้ภราดรภาพเหลือแต่เพียงผู้เล่นกับเคนเท่านั้น จากนั้น เคนจึงได้สั่งการผู้เล่นให้ทำการขับไล่จีดีไอที่เมืองริโอ หลังจากภารกิจสำเร็จ เคนบอกกับผู้เล่นว่า น็อดขณะนี้ยังอ่อนแออยู่ ฉะนั้น เคนจึงได้เลือก ภราดามาร์ซิออน ซึ่งเป็นผู้นำคนใหม่ของกลุ่ม แบล็คแฮนด์ ซึ่งจะมาเป็นกำลังสำคัญในการสร้างภราดรภาพขึ้นมาใหม่ โดยหลังจากผู้เล่นจับ ภราดามาร์ซิออนได้แล้ว เคนจึงชักจูงมาร์ซิออนให้เข้าร่วม และได้ถอดหน้ากากเพื่อแสดงหน้าที่แท้จริง หลังจากนั้น เคนได้สั่งผู้เล่นให้ไปทำลาย สถานีวิจัยไทบีเรียมเหลว ที่ออสเตรเลีย เพื่อแสดงให้เห็นว่าน็อดได้กลับมาแล้ว จากนั้นผู้เล่นได้ถูกเคนทำให้หลับไปจนกว่าจะถึงเวลา
องก์ที่ 2 ในปี 2046 ก่อนเกิดสงครามไทบีเรียมครั้งที่สาม ลีเจียน ได้ตื่นขึ้น พบกับโลกที่เปลี่ยนไป และพบกับ อับเบส อเล็กซ่า โควัค แล้วเคนได้สั่งให้ ลีเจียน ไปโยฮันเนสเบิร์ก เพื่อยึดเครือข่ายปืนใหญ่ไอออนของจีดีไอ เพื่อที่จะทำให้ปืนใหญ่ใช้การไม่ได้ หลังจากนั้น ได้มีการประชุมพลังงานประจำปี โดยจัดที่สถานีอวกาศ ฟิลาเดลเพีย โดยมีผู้นำของจีดีไอหลายคนไป แต่มีอยู่คนหนึ่งซึ่งเคนต้องการให้อยู่บนโลกก็คือ เรดมอนด์ บอยล์ ปลัดกระทรวงการคลัง ซึ่งเคนต้องการให้เขา เป็นผู้นำจีดีไอ หลังจากที่ผู้เล่นได้ทำลายคลังอาวุธของจีดีไอแล้ว เคนจึงได้กดปุ่มยิงจรวดนิวเคลียร์ใส่ ฟิลาเดลเฟีย หลังจากนั้นเคนก็ได้สั่ง ลีเจียน ให้ไปจับตัว ดร.จีเราด์ ที่สถานีวิจัยของเขา หลังจากเสร็จภารกิจแล้ว อเล็กซ่า คิดว่า นายพล คิลเลียน กาตาร์ นั้นในอนาคต เธอจะเป็นคนที่ทรยศต่อเคน อเล็กซ่า จึงสั่งให้ ลีเจียน ปลอมเป็นกองทัพของคิลเลียน ไปโจมตีที่วิหารไพร์ม และขโมยแพลนสนามพลังไอออน ด้วย หลังจากนั้น เรดมอนด์ บอยด์ ผู้อำนวยการของจีดีไอ ได้สั่งโจมตีวิหารไพร์มด้วยการยิงปืนใหญ่ไอออน จึงทำให้ไทบีเรียมเหลวที่อยู่ในชั้นใต้ดินของวิหาร เกิดระเบิดรุนแรง อเล็กซ่า ไม่เชื่อว่าเคนตายแล้ว แต่แล้วเคนก็ได้ปรากฏบนหน้าจอ บอกอเล็กซ่าว่า นายพลคิลเลียนไม่มีความศรัทธาในภราดรภาพ เธอควรได้รับการลงโทษ ในการทรยศครั้งนี้ จากนั้นเคนได้สั่ง ลีเจียน ให้ไปขโมย ทาซิตัส มาจากจีดีไอ ในระหว่างทำภารกิจอยู่นั้น อเล็กซ่า ได้ป้อนไวรัสลงไปใน ลีเจียน เพราะเธอไม่ยอมให้เกิดยุดเครื่องจักรครองโลก แต่เคนได้ปรากฏตัว และทำการกู้ข้อมูล ลีเจียน แต่ไม่สำเร็จ อเล็กซ่าได้บอกกับเคนว่า เธอเป็นคนที่โจมตีวิหารไพร์ม เคนจึงสั่งให้สอบสวน แต่เธอก็ชักปืนพกยิงฆ่าตัวตาย และลีเจียนก็ดับไป
องก์ที่ 3 ลีเจียนตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ในปี 2052 ซึ่งสงครามไทบีเรียมครั้งที่สามได้จบลงแล้ว ซึ่งตอนนี้เคนได้บอกถึงกองกำลังไซบอร์กที่ซ่อนตัวอยู่ในโซนสีแดงของรัสเซียและเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งชื่อว่า มาร์คออฟเคน หลังจากได้กองทัพมาร์คออฟเคนแล้ว เคนรู้สึกโกรธเคืองที่ จีดีไอเอาทาซิตัสไปทดลองจน ไม่เสถียร เคนจึงสั่งให้ลีเจียน นำทาซิตัสกลับมาอย่างเร็ว โดยอยู่ที่สถานีวิจัยบนเทือกเขาร็อกกี้ หลังนำกลับมาได้แล้ว เคนจึงเอาทาซิตัสเข้ากับลีเจียน และในตอนจบของภาพยนตร์ก็ย้อนกลับมาที่วิดีโอแนะนำในโหมดบทยุทธการของฝ่ายสคริน ใน คอมมานด์ & คองเคอร์ 3: ไทบีเรียมวอร์ส
ตัวละคร
แก้- Joseph D. Kucan เป็น เคน
- เคนเป็นผู้นำที่มีบุคลิกโดดเด่นและมีเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวของฝ่ายภราดรภาพแห่งน็อด ไม่มีผู้ใดได้พบเห็นหรือได้ยินข่าวคราวจากเขาเลยตั้งแต่ สงครามไทบีเรียมครั้งที่สอง สิ้นสุดลง แม้ส่วนมากเชื่อว่าเขาตายไปแล้ว แต่บางคนไม่คิดเช่นนั้น
- Carl Lumbly เป็น ภราดามาร์ซิออน
- มาร์ซิออนเคนเป็นผู้นำทางด้านศาสนาของภราดรภาพ แต่ค่อยๆ แยกตัวออกจากภราดรภาพและเคนเมื่อ สงครามไทบีเรียมครั้งที่สอง ใกล้จบลง ภายหลังหนึ่งปีหลังจากที่เขาแยกตัวออกจาน็อด มาร์ซิออนได้รวบรวมผู้ติดตามของเขาและจัดตั้งขึ้นเป็นกองกำลังขึ้นมาใหม่ที่ชื่อว่า กลุ่มแบล็คแฮนด์ใหม่ โดยกองกำลังนี้เป็นกองกำลังนี้เป็นกองทัพที่มีวินัยสูงโดยมีเขาเป็นผู้นำกึ่งพระเจ้า
- Natasha Henstridge เป็น อเล็กซา โควัคส์
- อเล็กซาได้เลื่อนตำแหน่งในหน่วยข่างกรองของน็อดได้อย่างรวดเร็ว เธอโด่งดังมากในเรื่องของความเย็นชา พูดน้อย และยึดถือแต่หลักศาสนา ทำให้เธอแปลกแยกจากเพื่อนร่วมงานคนอื่น และเป็นที่สนใจของเคน
- คาบาล
- สิ่งมีชีวิตที่ขยายตัวด้วยวิธีชีวภาพโดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยเหลือ ถือเป็นสิ่งมีชีวิตพร้อมรบที่มีความเฉลียวฉลาดอย่างยิ่ง โดยเคนเป็นผู้พัฒนาขึ้นมาเพื่อเอาชนะจีดีไอในสงครามไทบีเรียมครั้งที่สอง แต่หลังจากที่เคนตายแล้ว คาบาลก็ได้ประกาศสงครามกับมนุษยชาติ กองทัพไซบอร์กก่อความเสียหายอย่างใหญ่หลวงไปทั่วโลก
- ลีเจียน
- ระบบปัญญาประดิษฐ์ ที่เคนสร้างขึ้นเพื่อใช้งานในการทำสงคราม ซึ่งหลังสงครามไทบีเรียมครั้งที่สอง ลีเจียนได้รับการพัฒนาจากแต่เดิม ทำให้สามารถติดต่อสื่อสารได้มากขึ้น จนสามารถติดต่อกับทาซิตัสได้
การตอบรับ
แก้การตอบรับ | ||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
|
คะแนนเฉลี่ยของภาคเสริมนี้ คือ เว็บไซค์ Metacritic 77% และ เว็บไซค์ GameRankings 78%
อ้างอิง
แก้- ↑ อีเอ คอมมานด์ & คองเคอร์ 3: ไทบีเรียม วอร์ส , อิเลคโทรนิค อาร์ต
- ↑ "อีเอ คอมมานด์ & คองเคอร์ 3: เคนแรธ". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-07-29. สืบค้นเมื่อ 2008-06-10.
- ↑ รีวิว คอมมานด์ & คองเคอร์ 3: เคนแรธ
- ↑ รีวิว คอมมานด์ & คองเคอร์ 3: เคนแรธ
- ↑ "Command & Conquer 3: Kane's Wrath PC Review - 1UP". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-11-07. สืบค้นเมื่อ 2009-07-29.
- ↑ "Command & Conquer 3: Kane's Wrath PC Review - GamePro". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-08-23. สืบค้นเมื่อ 2009-07-29.
- ↑ "Command & Conquer 3: Kane's Wrath PC Review - GameInformer". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-04-01. สืบค้นเมื่อ 2009-07-29.
- ↑ Command & Conquer 3: Kane's Wrath PC Review - GameSpot[ลิงก์เสีย]
- ↑ Command & Conquer 3: Kane's Wrath PC Review - GameSpy
- ↑ "Command & Conquer 3: Kane's Wrath PC Review - PC IGN". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-01-27. สืบค้นเมื่อ 2009-07-29.
- ↑ "Command & Conquer 3: Kane's Wrath 360 Review". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-01-21. สืบค้นเมื่อ 2009-07-29.
- ↑ "Command & Conquer 3: Kane's Wrath PC Review - GameTap". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-03-30. สืบค้นเมื่อ 2009-07-29.
- ↑ "Command & Conquer 3: Kane's Wrath PC Review - MetaCritic". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-06-16. สืบค้นเมื่อ 2009-07-29.