ขั้นตอนวิธีของฟลอยด์-วอร์แชล
ลิงก์ข้ามภาษาในบทความนี้ มีไว้ให้ผู้อ่านและผู้ร่วมแก้ไขบทความศึกษาเพิ่มเติมโดยสะดวก เนื่องจากวิกิพีเดียภาษาไทยยังไม่มีบทความดังกล่าว กระนั้น ควรรีบสร้างเป็นบทความโดยเร็วที่สุด |
บทความนี้ได้รับแจ้งให้ปรับปรุงหลายข้อ กรุณาช่วยปรับปรุงบทความ หรืออภิปรายปัญหาที่หน้าอภิปราย
|
ขั้นตอนวิธีของฟลอยด์-วอร์แชล (อังกฤษ: Floyd–Warshall algorithm) หรือที่รู้จักในนามว่า ขั้นตอนวิธีของฟลอยด์, ขั้นตอนของรอย-วอร์แชล หรือ ขั้นตอนวิธีของรอย-ฟลอยด์ เป็นขั้นตอนวิธีการวิเคราะห์กราฟเพื่อที่จะหาระยะทางของเส่นทางสั้นสุดในกราฟที่มีน้ำหนักของเส้นเชื่อมเป็นบวก หรือ น้ำหนักของเส้นเชื่อมเป็นลบ ก็ได้แต่ไม่สามารถหาได้ถ้ามีวงจรลบ โดยการทำงานหนึ่งครั้งของขั้นตอนวิธีนี้จะได้คำตอบของระยะทางของเส้นทางสั้นสุดของทุกๆคู่ปมบนกราฟ อย่างไรก็ตามจะไม่สามารถคืนค่ารายละเอียดของเส้นทางสั้นสุดในแต่ละคู่ปมได้ ยกเว้นมีการเพิ่มเติมเข้าไป ขั้นตอนวิธีนี้เป็นตัวอย่างของกำหนดการพลวัตแบบด้านล่างขึ้นด้านบน โดยขั้นตอนวิธีนี้ถูกคิดขึ้นโดย โรเบิร์ต ฟลอยด์ ในปี 1962 อย่างไรก็ตามขั้นตอนวิธีนี้มีส่วนสำคัญเหมือนกับอัลกอริทึมของเบอร์นาร์ด รอยด์ ในปี 1959 และของสตีเฟน วอร์แชล ในปี 1962 ในการค้นหา ความสัมพันธ์แบบถ่ายทอดของกราฟ (อังกฤษ: Transitive closure)
แนวคิด
แก้- ใช้ได้กับ กราฟที่มีน้ำหนักของเส้นเชื่อมทั้งบวกและลบ แต่ไม่สามารถใช้ได้กับ กราฟที่มีวงจรลบ
- คืนค่า ระยะทางของเส้นทางที่สั้นสุดของทุกๆคู่ปม
- ใช้กำหนดการพลวัต กำหนดการพลวัต แบบล่างขึ้นบน (อังกฤษ: Bottom-up)
- path (i,j,0) คือ ไม่มีปมระหว่างทาง จึงมีค่าเท่ากับระยะทางจาก i ไป j
ขั้นตอนวิธี
แก้ขั้นตอนวิธีของฟลอยด์-วอร์แชล ใช้ในการเปรียบเทียบระยะทางเส้นทางทั้งหมดที่เป็นไปได้ของกราฟระหว่างแต่ละคู่ของปม โดยมีอัตราการเติบโตของการทำงานเป็น "Θ (|V|^3)"
พิจารณากราฟ G กับปม V ตั้งแต่ปม 1 ถึง ปม N พิจารณาฟังก์ชัน shortestPath (i,j,k) ที่จะคืนค่าระยะทางของเส้นทางสั้นสุดที่เป็นไปได้จาก i ไป j โดยมีปม 1,2,3,...,k เท่านั้นที่เป็นปมระหว่างทางได้ และ path (i,j,k) สามารถหาได้มาจาก path (i,j,k-1) หรือ path (i,k,k-1) +path (k,j,k-1) โดยดูว่าค่าไหนน้อยกว่ากัน และมีกรณีพื้นฐานคือ path (i,j,0) คือ ระยะทางโดยตรงจาก i ไป j ที่ไม่มีปมระหว่างทางนั่นเอง จึงสามารถเขียนได้เป็น การเวียนเกิด ได้ดังนี้
path (i,j,0) = ระยะทางจาก i ไป j path (i,j,k) = ค่าน้อยสุด (path (i,j,k-1),path (i,k,k-1) +path (k,j,k-1) )
คำอธิบาย
แก้- path (i,j,k) คือ ระยะทางของเส้นทางสั้นสุดจากปม i ไป j โดยมีปมที่อยู่ระหว่างทางได้คือ {1,2,3,...,k}
- path (i,j,k-1) คือ ระยะทางของเส้นทางสั้นสุดจากปม i ไป j โดยมีปมที่อยู่ระหว่างทางได้คือ {1,2,3,...,k-1}
- path (i,k,k-1) คือ ระยะทางของเส้นทางสั้นสุดจากปม i ไป kโดยมีปมที่อยู่ระหว่างทางได้คือ {1,2,3,...,k-1}
- path (k,j,k-1) คือ ระยะทางของเส้นทางสั้นสุดจากปม k ไป j โดยมีปมที่อยู่ระหว่างทางได้คือ {1,2,3,...,k-1}
รหัสเทียม
แก้สะดวกเมื่อคำนวณ กรณีที่ k โดยสามารถเขียนทับข้อมูลที่เคยบันทึกไว้จากการคำนวณของกรณีที่ผ่านมา k-1 หมายความว่าใช้พื้นที่ในการเก็บข้อมูลในหน่วยความจำเพียงแค่สมการกำลังสอง หรือเพียง อาเรย์สองมิติ นั่นเอง
1 /* สมมุติให้ฟังก์ชัน edgeCost (i,j) คืนค่า น้ำหนักของเส้นเชื่อมจาก i ไป j 2 */ 3 4 จำนวนเต็ม path[][]; 5 /* อาเรย์ 2 มิติ path[i][j] เป็นเส้นทางสั้นที่สุดจากปม i ไป j โดยใช้ ปมเริ่มต้น (1..k−1). 6 ในแต่ละขั้นตอนของ ขั้นตอนวิธี โดยแต่ละ path[i][j] มีค่าเริ่มต้นคือ edgeCost (i,j). 7 */ 8 9 /* ขั้นตอนวิธีของฟลอยด์-วอร์แชล */ 10 ขั้นตอน ฟลอยด์-วอร์แชล () 11 ตั้งแต่ k := 1 ถึง n 12 ตั้งแต่ i := 1 ถึง n 13 ตั้งแต่ j := 1 ถึง n 14 path[i][j] = ค่าน้อยที่สุด ( path[i][j], path[i][k]+path[k][j] ) ;
พฤติกรรมเมื่อเจอวงจรติดลบ
แก้วงจรติดลบ คือ วงจรที่มีผลรวมของระยะทางของเส้นเชื่อมเป็นค่าลบ ระยะทางสั้นสุดไม่สามารถกำหนดได้เนื่องจาก เส้นทางสามารถติดลบไปเรื่อยๆ ก็จะน้อยลงเรื่อยไม่มีที่สิ้นสุด สำหรับ ขั้นตอนวิธีของฟลอยด์-วอร์แชล นั้นจะสังเกตวงจรลบได้จาก path[i][j] เมื่อ i มีค่าเท่ากับ j โดยถ้า path[i][j]<0 เมื่อ i มีค่าเท่ากับ j แสดงว่ามีวงจรลบ จะไม่สามารถหาคำตอบได้
- เริ่มต้น ความยาวของเส้นทาง (i,i) เป็น 0
- เส้นทาง {(i,k), (k,i)} สามารถเปลี่ยนไปเรื่อยๆ
- หลังจากทำขั้นตอนวิธีนี้แล้ว (i,i) จะเป็นลบ ถ้ามี เส้นทางความยาวติดลบมาจาก i
- ถ้ามีความยาวจาก i กลับมา i เป็นลบ จะได้ว่า ระยะทางสั้นสุดที่ได้ผ่านปมระหว่างทางมามีค่าน้อยกว่า 0 จะเรียกว่าวงจรลบ
1 /* สมมุติให้ฟังก์ชัน edgeCost (i,j) คืนค่า น้ำหนักของเส้นเชื่อมจาก i ไป j 2 */ 3 4 จำนวนเต็ม path[][]; 5 /* อาเรย์ 2 มิติ path[i][j] เป็นเส้นทางสั้นที่สุดจากปม i ไป j โดยใช้ ปมเริ่มต้น (1..k−1). 6 ในแต่ละขั้นตอนของ ขั้นตอนวิธี โดยแต่ละ path[i][j] มีค่าเริ่มต้นคือ edgeCost (i,j). 7 */ 8 9 /* ขั้นตอนวิธีของฟลอยด์-วอร์แชล */ 10 ขั้นตอน ฟลอยด์-วอร์แชล () 11 ตั้งแต่ k := 1 ถึง n 12 ตั้งแต่ i := 1 ถึง n 13 ตั้งแต่ j := 1 ถึง n 14 path[i][j] = ค่าน้อยที่สุด ( path[i][j], path[i][k]+path[k][j] ) ; 15 ตั้งแต่ i := 1 ถึง 16 ถ้า path[i][i] < 0 เมื่อนั้น 17 มีวงจรติดลบอยู่
การสร้างเส้นทาง
แก้ขั้นตอนวิธีของฟลอยด์-วอร์แชลนั้นโดยปกติแล้วจะหาแค่ระยะทางของเส้นทางที่สั้นที่สุดของแต่ละคู่ปม แต่สามารถปรับเปลี่ยนเพิ่มเติมส่วนของการจำเส้นทางที่ผ่านระหว่างทางได้ด้วยโดยการ เพิ่ม next[i][j] ที่เอาไว้จำค่า ปมที่ผ่านระหว่างทางที่ทำให้มีค่าระยะทางเส้นทางสั้นสุดของคู่ปมมากที่สุด โดย next[i][j] จะได้รับการเปลี่ยนค่าไปเรื่อยๆ ถ้าเกิด ปมที่ผ่านระหว่างทางของแต่ละคู่ปมต้นทางปลายทางที่สนใจอยู่ ทำให้เกิดระยะทางสั้นสุดระหว่างคู่ปมนั้น
1 ขั้นตอน ฟลอยด์-วอร์แชลกับการสร้างเส้นทาง () 2 ตั้งแต่ k := 1 ถึง n 3 ตั้งแต่ i := 1 ถึง n 4 ตั้งแต่ j := 1 ถึง n 5 ถ้า path[i][k] + path[k][j] < path[i][j] เมื่อนั้น 6 path[i][j] := path[i][k]+path[k][j]; 7 next[i][j] := k; 8 9 ขั้นตอน GetPath (i,j) 10 ถ้า path[i][j] เท่ากับอนันต์ เมื่อนั้น 11 คืนค่า "ไม่มีเส้นทาง"; 12 จำนวนเต็ม ค่ากลาง := next[i][j]; 13 ถ้า ค่ากลางเท่ากับ null เมื่อนั้น 14 คืนค่า "" /* มีเส้นเชื่อมจาก i ไป j ที่ไม่มีปมอยู่ระหว่างเส้นเชื่อมนั้น */ 15 มิฉะนั้น 16 คืนค่า GetPath (i,ค่าเริ่มต้น) + ค่ากลาง + GetPath (ค่าเริ่มต้น,j) ;
การวิเคราะห์อัตราการเติบโต
แก้เพื่อที่จะหา shortest path ของคู่ปมจำนวน n^2 คู่ปม จาก path (i,j,k-1) ต้องการ 2n^2 คำสั่ง เนื่องจากเราเริ่มจาก path (i,j,0) = edgeCost (i,j) และคำนวณ path (i,j,1) , path (i,j,2), ..., path (i,j,n) ดังนั้นเราจึงได้คำสั่งรวมเท่ากับ n · 2n^2 = 2n^3 จึงสรุปได้ว่ามีอัตราการเติบโตเป็น Θ (n^3).
การนำไปใช้งาน
แก้ขั้นตอนวิธีของฟลอยด์-วอร์แชลนั้นสามารถนำไปแก้ปัญหาปัญหาต่างๆได้ดังนี้
- วิถีสั้นสุดในกราฟมีทิศทาง
- ความสัมพันธ์แบบถ่ายทอด (Transitive closure) ของ กราฟมีทิศทาง
- การกำหนดเส้นทางที่เหมาะสมที่สุด
- การผกผันของเมทริกซ์จริง
- ตรวจสอบว่า กราฟไม่มีทิศทาง เป็นกราฟสองส่วนหรือไม่
- การคำนวณหาเส้นทางของเครือข่าย
- คำนวณหาเส้นทางที่มีปริมาณข้อมูลใดๆ ที่จะผ่านเข้า/ออกช่องทางสัญญาณหนึ่งๆได้ในระยะเวลาที่กำหนดมากที่สุด ในเครือข่าย
บันทึก
แก้จากขั้นตอนวิธีของฟลอยด์-วอร์แชล จะเห็นได้ว่ามีประโยชน์มากในการนำมาหาเส้นทางสั้นสุดของทุกคู่ปม เนื่องจากประสิทธิภาพโดยรวมนั้น เป็น Θ (|V|^3) ซึ่งถ้าเทียบกับ ขั้นตอนวิธีของไดค์สตรา O (V* (|E|+|V|log|V|) ) และของ ขั้นตอนวิธีของเบลแมน-ฟอร์ด O (V* (|V||E|)) ในกรณีแย่สุด E ประมาณได้ V^2 นั้น จะเห็นได้ว่ามีประสิทธิภาพที่ดีกว่า
ตัวอย่างรหัสในภาษาต่างๆ
แก้- Java เก็บถาวร 2012-01-31 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- C เก็บถาวร 2011-09-07 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- C++
- Perl
- PHP เก็บถาวร 2011-09-29 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
การเขียนโปรแกรม
แก้การเขียนโปรแกรม สามารถทำได้หลายภาษามากมาย en:programming language.
- สำหรับ C++, อยู่ใน boost::graph library
- สำหรับ C#, ที่ QuickGraph
- สำหรับ en:Clojure, ที่ paste.lisp.org เก็บถาวร 2011-09-05 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- สำหรับ Java, อยู่ใน Apache commons graph เก็บถาวร 2011-05-23 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน library, หรือที่ Algowiki เก็บถาวร 2012-01-31 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- สำหรับ MATLAB, อยู่ใน Matlab_bgl package
- สำหรับ Perl, อยู่ใน Graph module
- สำหรับ PHP, บน page เก็บถาวร 2011-08-31 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน and en:PL/pgSQL, บน page เก็บถาวร 2011-09-16 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน at Microshell
- สำหรับ Python, อยู่ใน en:NetworkX library
- สำหรับ R, ใน e1017
- สำหรับ Ruby, ใน script
- D[k] และ n[k] เมื่อ กราฟถูกคำนวณด้วยขั้นตอนวิธีนี้
ดูเพิ่ม
แก้- Lec 19 | MIT 6.046J / 18.410J Introduction to Algorithms All pairs Shortest path clip
- Lecture MIT shortest path
- Java implementation at Algo wiki เก็บถาวร 2012-01-31 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- ULearn การออกแบบอัลกอริทึม (สมชาย ประสิทธิ์จูตระกูล)
- ภาพเคลื่อนไหว ขั้นตอนวิธีของฟลอยด์-วอร์แชล
- Robert Sedgewick
- อัลกอริทึม : 06-11 (2/3)
- ขั้นตอนวิธีของไดค์สตรา เป็นขั้นตอนวิธีที่ใช้ในการหาระยะทางเส้นทางสั้นสุดของคู่ปมใดๆ สำหรับกราฟที่มีความยาวของเส้นเชื่อมไม่เป็นลบ
- ขั้นตอนวิธีของจอห์นสัน เป็นขั้นตอนวิธีที่ใช้หาเส้นทางสั้นที่สุดระหว่างทุกคู่จุด ในกราฟระบุทิศทางที่มีเส้นเชื่อมน้อย ขั้นตอนวิธีนี้สามารถใช้น้ำหนักของเส้นเชื่อมเป็นจำนวนลบได้ แต่ต้องไม่มีวงรอบที่น้ำหนักติดลบอยู่ด้วย
อ้างอิง
แก้- การออกแบบและวิเคราะห์อัลกอริทึม สมชาย ประสิทธิ์จูตระกูล
- Floyd–Warshall_algorithm
- FloydWarshal Computer Science at Biola เก็บถาวร 2010-11-21 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- Floyd-warshall
แหล่งข้อมูลอื่น
แก้- Algorithm Design, first semester, 2010 (นัทที นิภานันท์) เก็บถาวร 2010-07-29 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- การออกแบบอัลกอริทึม (สมชาย ประสิทธิ์จูตระกูล)
- ULearn การออกแบบอัลกอริทึม (สมชาย ประสิทธิ์จูตระกูล)
- Analyze Floyd's algorithm in an online Javascript IDE เก็บถาวร 2011-04-12 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- Interactive animation of the Floyd–Warshall algorithm
- The Floyd–Warshall algorithm in C#, as part of QuickGraph เก็บถาวร 2018-01-21 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- Visualization of Floyd's algorithm