กบเลิฟแลนด์ หรือ กิ้งก่าเลิฟแลนด์ (อังกฤษ: Loveland Frog, Loveland Lizard) เป็นสัตว์ประหลาดที่มีผู้อ้างว่าพบเห็นที่เมืองเลิฟแลนด์ รัฐโอไฮโอ สหรัฐอเมริกา มีรูปร่างเหมือนกบหรือคางคกหรือสัตว์เลื้อยคลานที่ยืนด้วยสองขาหลังมีความสูงถึง 4 ฟุต (1.22 เมตร) เหมือนมนุษย์ จนกลายเป็นเรื่องเล่าขานกัน[1] ศาสตราจารย์เอดการ์ สลอตกิน นักคติชนวิทยาแห่งมหาวิทยาลัยซินซินแนติ กล่าวว่ากบเลิฟแลนด์เป็นเรื่องเล่าขานต่อกันมาเป็นรุ่น ๆ ในรอบหลายทศวรรษ โดยมีรายการการพบเห็นเป็นวงรอบ[2]

รูปวาดกบเลิฟแลนด์

กบเลิฟแลนด์ถูกรายงานพบครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1955 นักธุรกิจคนหนึ่งบอกว่าตนเองเห็นกบสูง 3 ฟุต เขาบรรยายลักษณะของมันว่ามันมีรอยย่นบนหัวแต่ไม่มีขน ตัวงอ ปากกว้างไม่มีริมฝีปาก นอกจากนี้มันยังมีกลิ่นเหม็น กลิ่นของมันแรงเหมือนกลิ่นของอัลฟัลฟา และเหมือนกลิ่นของเมล็ดอัลมอนด์[3]

ผ่านไปกว่า 20 ปี ไม่มีรายงานการพบเห็นอีกเลย จนกระทั่งในวันที่ 3 มีนาคม ค.ศ. 1972 เวลา 01:00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจท้องถิ่นคนหนึ่งชื่อ เรย์ ชอกกีย์ กำลังขับรถอย่างระมัดระวังเพราะพื้นถนนลื่นด้วยชั้นน้ำแข็ง เพื่อกลับไปเลิฟแลนด์ ที่ริมแม่น้ำลิตเติลไมแอมี เขาก็พบสิ่งผิดปกติบนถนน จากไฟหน้ารถที่ส่องไป เขาต้องตะลึงกับสิ่งที่อยู่ข้างหน้า มันเป็นสิ่งที่เขาไม่สามารถอธิบายว่ามันคือตัวอะไรกันแน่ โดยเขาอธิบายว่า สัตว์ประหลาดตัวนั้นสูงประมาณ 3-4 ฟุต หนักประมาณ 50 ถึง 75 ปอนด์ ผิวหนังเหมือนกบ ผิวลื่นเปียก หางสั้น หัวและหน้าเหมือนกบ หรือสัตว์เลื้อยคลาน และยืนจ้องเขาด้วยสองขาหลัง ด้วยความตกใจเขาได้ยิงสวนไป มันกระโดดข้ามรั้วลงไปในแม่น้ำ ในภายหลังตำรวจคู่หูของชอกกีย์ได้ตรวจสอบที่เหตุเกิดพบว่ามีร่องรอยเหล่านั้นจริง แต่ไม่มีรูปถ่ายหรือหลักฐานใด ๆ มาสนับสนุนยืนยันมากกว่านี้ [3]

หลังจากนั้น สองสัปดาห์ต่อมาตำรวจอีกนายหนึ่งชื่อ มาร์ก แมททิวส์ ได้เผชิญหน้ากับสัตว์ประหลาดตัวนั้นอย่างจัง มันนอนกลางถนนเหมือนสุนัขหมอบไม่มีผิด ตอนแรกแมททิวส์นึกว่าเป็นซากสัตว์ เมื่อลงจากรถและพยายามจะเขี่ยมันทิ้งออกนอกทาง มันก็ลุกขึ้นด้วยสองขาหลัง เขาตกใจและยิงสวนไปถูกมันจนเขย่งและกระโดดข้ามรั้วลงไปในแม่น้ำ แมททิวส์ได้ให้คำอธิบายคล้ายกับชอกีย์ เว้นแต่คราวนี้สัตว์ประหลาดตัวนี้ไม่มีหาง[3]

ภาพจำลองกบเลิฟแลนด์กระโดดข้ามรั้ว และขนาดเทียบกับความสูงของมนุษย์

แต่ในปี ค.ศ. 2001 จากการให้สัมภาษณ์ทางอีเมล์ แมททิวส์ได้เปลี่ยนเรื่องราวของตนเองโดยเขาอ้างว่า สิ่งที่เขาเห็นนั้นมันไม่ใช่สัตว์ประหลาดแต่อย่างใด แต่อาจจะเป็นกิ้งก่าหรืออิกัวนาขนาดใหญ่ที่หนีออกมา เขาพยายามที่จะจับมันเพื่อจะสนับสนุนสิ่งที่ชอกกีย์เล่า ซึ่งไม่มีใครดำเนินการอย่างจริงจัง โดยบอกว่า มันอาจเป็นสัตว์เลี้ยงของใครบางคนที่หนีออกมาจากตู้เลี้ยง มันไม่ได้มีผิวหนังที่ลื่นเป็นมันหรือขนเปียกเป็นสังกะตัง มันไม่ได้สูง 3-5 ฟุต หรือยืนด้วยสองขาหลัง เพียงอาจจะเป็นสัตว์เลื้อยคลานที่มีขนาดใหญ่ที่เกิดอุบัติเหตุหลบหนีได้ออกจากที่เลี้ยง ที่ตาพร่ามัวจากแสงไฟจากหน้ารถของตน และมันก็ไม่ได้พฤติกรรมก้าวร้าวด้วย[3]

ในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2014 ได้มีผู้แต่งเพลงขึ้นมาชื่อ Hot Damn! It’s the Loveland Frog[4]

ในคืนวันที่ 3 สิงหาคม ค.ศ. 2016 มีวัยรุ่นสองคนเล่นโปเกมอนโกระหว่างถนนเลิฟแลนด์มาไดราและทะเลสาบอิซาเบลลา อ้างว่าพบเห็นกบขนาดใหญ่ใกล้ทะเลสาบ โดยบอกว่ามันยืนขึ้นและเดินด้วยสองขาหลังของมัน[5]

อ้างอิง แก้

  1. Deena West Budd (1 March 2010). "Frogmen of Loveland". The Weiser Field Guide to Cryptozoology: Werewolves, Dragons, Skyfish, Lizard Men, and Other Fascinating Creatures Real and Mysterious. Weiser Books. pp. 43–45. ISBN 978-1-60925-083-6.
  2. "Loveland Frog". Gadsden Times. Associated Press. October 18, 1985. p. 1. สืบค้นเมื่อ 14 March 2014.
  3. 3.0 3.1 3.2 3.3 Haupt, Ryan. "The Loveland Frog". skeptoid.com.
  4. Lee, Marika (May 22, 2014). "'Loveland Frogman' gets own musical". cincinnati.com. สืบค้นเมื่อ 12 July 2014.
  5. Shubel, Lisa (4 August 2016). "Local legend: Does the Loveland Frogman live on?". Fox19. สืบค้นเมื่อ 6 August 2016.