ลาสเวกัส

เมืองในมลรัฐเนวาดา สหรัฐอเมริกา
(เปลี่ยนทางจาก Las Vegas)

ลาสเวกัส (Las Vegas เสียงอ่านภาษาอังกฤษ: /lɑːs ˈveɪɡəs/, เสียงอ่านภาษาสเปน: [laz ˈβeɣas]) เป็นคำที่มาจากภาษาสเปนหมายถึง ทุ่งหญ้าหรือที่ราบลุ่ม ชื่ออย่างเป็นทางการของเมืองคือ "City of Las Vegas" หรือเรียกสั้น ๆ ว่า "เวกัส" เป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในรัฐเนวาดา สหรัฐอเมริกา เป็นที่ตั้งของศาลาว่าการเทศมณฑล คลาร์ก เป็นเมืองหลักในเขตของมหานคร ลาสเวกัสวัลเลย์ และเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดที่อยู่ในเขตทะเลทรายโมฮาวี[6] ลาสเวกัสได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางของการท่องเที่ยวที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวมากที่สุดในโลก[7][8] เป็นสถานที่ที่ชาวอเมริกันและคนทั่วโลกให้ฉายาว่า "นครบาป" (Sin City)[9] หรือ นักเขียนบางคนให้ชื่อว่าเป็น "America's Playground" หรือสนามเด็กเล่นของสหรัฐอเมริกา

ลาสเวกัส เนวาดา
City of Las Vegas
Downtown Las Vegas
Las Vegas Springs Preserve
Stratosphere Tower
World Market Center
Lou Ruvo Center for Brain Health
Clark County Government Center
ธงของลาสเวกัส เนวาดา
ธง
ตราอย่างเป็นทางการของลาสเวกัส เนวาดา
ตรา
ที่มาของชื่อ: สเปน: "Las vegas"
(อังกฤษ: The meadows)
สมญา: 
"Vegas",[1] "Sin City", "City of Lights", "The Gambling Capital of the World",[2] "The Entertainment Capital of the World", "Capital of Second Chances",[3] "The Marriage Capital of the World", "The Silver City", "America's Playground"
ที่ตั้งภายในเทศมณฑล คลาร์ก
ที่ตั้งภายในเทศมณฑล คลาร์ก
Las Vegasตั้งอยู่ในรัฐเนวาดา
Las Vegas
Las Vegas
ที่ตั้งภายในรัฐเนวาดา
พิกัด: 36°10′30″N 115°08′11″W / 36.17500°N 115.13639°W / 36.17500; -115.13639
ประเทศสหรัฐอเมริกา
รัฐเนวาดา
เทศมณฑลคลาร์ก
ก่อตั้ง15 พฤษภาคม พ.ศ. 2448
สถาปนาเป็นนคร16 มีนาคม พ.ศ. 2453
การปกครอง
 • ประเภทCouncil–manager
 • นายกเทศมนตรีCarolyn Goodman (I)
 • สภาเทศบาลนคร
สมาชิก
  • Brian Knudsen  (D)
  • Victoria Seaman  (R)
  • Olivia Diaz (D)
  • Stavros
    S. Anthony (R)
  • Cedric Crear (D)
  • Michele Fiore (R)
 • ผู้จัดการนครScott D. Adams
พื้นที่
 • นคร135.8 ตร.ไมล์ (351.7 ตร.กม.)
 • พื้นดิน135.8 ตร.ไมล์ (351.7 ตร.กม.)
 • พื้นน้ำ0.05 ตร.ไมล์ (0.13 ตร.กม.)
ความสูง2,001 ฟุต (610 เมตร)
ประชากร
 • นคร583,756 คน
 • ประมาณ 
(2018)[5]
644,644 คน
 • ความหนาแน่น4,300 คน/ตร.ไมล์ (1,700 คน/ตร.กม.)
 • เขตเมือง2,211,315 คน
 • รวมปริมณฑล2,227,053 คน
 • พื้นที่รวมทาง
การสถิติ (CSA)
2,462,015 (US: ที่ 26)
เดมะนิมLas Vegan
เขตเวลาUTC−8 (PST)
 • ฤดูร้อน (เวลาออมแสง)UTC−7 (PDT)
รหัสพื้นที่702 และ 725
รหัส FIPS32-40000
GNIS feature ID0847388
ท่าอากาศยานหลักท่าอากาศยานนานาชาติแมคคาร์แรน (LAS)
ทางหลวง
อินเตอร์สเตต
I-15, I-515
ทางหลวงสายหลักอื่น ๆUS 93, US 95, NV 159, NV 599, NV 604, CC 215
เว็บไซต์lasvegasnevada.gov

ลาสเวกัสเป็นสถานที่ที่มีลักษณะพิเศษ เพราะเมืองทั้งเมืองเจริญเติบโตขึ้นมาจากความก้าวหน้าของกิจการการพนัน เป็นแรงดึงดูดหลักให้นักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามา ต่อมาก็ได้พัฒนาไปสู่ธุรกิจบริการใกล้เคียง ได้แก่ โรงแรม ศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุม ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า ซึ่งล้วนแล้วแต่มีความโอ่อ่าอลังการ และขนาดใหญ่กว่าที่อื่นในโลก เมืองนี้เป็นหนึ่งในสามของจุดหมายปลายทาง สำหรับการจัดการประชุมทางธุรกิจในสหรัฐอเมริกา และมีโรงแรมระดับห้าดาวตามการจัดอันดับของ AAA Five Diamond มากที่สุดในโลก[10][11][12] จะหาได้ค่อนข้างยากที่จะมีบ่อนการพนัน และโรงแรมมารวมตัวกันอย่างแน่นหนาในบริเวณใกล้เคียงกันเหมือนกับเมืองลาสเวกัส แห่งนี้ โดยที่สุดในปัจจุบันนี้ คนไปท่องเที่ยวลาสเวกัสไม่ได้เพราะต้องการที่จะไปเล่นการพนันหรือไปดื่มกินให้สนุกเป็นหลักอีกต่อไป แต่ไปเพื่อได้เห็นลักษณะอันพิเศษของเมืองนี้ เมืองนี้มีแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่คือ ไฮจ์ โรลเลอร์ ซึ่งเป็นชิงช้าสวรรค์ที่สูงที่สุดในโลก เปิดดำเนินการตั้งแต่เดือนมีนาคม พ.ศ. 2557

ลาสเวกัสก่อตั้งในปี พ.ศ. 2448 และจัดตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการในปี พ.ศ. 2453 เมื่อสิ้นสุดคริสต์ศตวรรษที่ 20 เมืองนี้เป็นเมืองอเมริกันที่มีประชากรมากที่สุดก่อตั้งขึ้นในศตวรรษนั้น (มีลักษณะโดดเด่นเช่นเดียวกับเมืองชิคาโกในคริสต์ศตวรรษที่ 19) การเติบโตของประชากรเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วมาตั้งแต่คริสต์ทศวรรษที่ 1960 และระหว่างคริสต์ทศวรรษ 1990 และ 2000 ประชากรเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าหรือ 85.2% การเติบโตอย่างรวดเร็วยังคงดำเนินต่อไปในคริสต์ศตวรรษที่ 21 ลาสเวกัสเป็นเมืองที่ประชากรหนาแน่นอันดับ 28 ของสหรัฐอเมริกาจากการประเมินในปี พ.ศ. 2561[5]

ในอดีตเมืองแห่งนี้เป็นเมืองที่ไม่เคยได้รับความสนใจเท่าไหร่ด้วยซ้ำ มองไปตรงไหนก็พบเจอแต่ทะเลทรายแม้แต่ถนนจะตัดผ่านยังแทบไม่มี อาชีพของประชาชนส่วนใหญ่คือการทำเหมืองหิน, ค้าขาย กระทั่งเกิดแนวความคิดต้องการพัฒนาเมืองแห่งนี้ให้มีความเจริญก้าวหน้าสูงสุด รัฐบาลสหรัฐฯ จึงได้ตัดสินใจให้ลาสเวกัสกลายเป็นสถานที่ของบ่อนคาสิโนจำนวนมาก กลายเป็นเมืองทางผ่านที่มักมีผู้คนแวะมาเยี่ยมเยียนอย่างไม่ขาดสายโดยถนนเส้นหลักจะตัดผ่านไปยังชายฝั่งด้านตะวันตกของประเทศ นับตั้งแต่ปี 1990 เป็นต้นมาลาสเวกัสกลายเป็นเมืองที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพราะได้กลายเป็นศูนย์กลางขนาดใหญ่แห่งวงการพนัน ทั้งบ่อนคาสิโนที่มีการเล่นพนันครบทุกประเภท, การเต้นระบำเอาใจบรรดาแขกผู้มาเสี่ยงโชค ส่งผลให้แต่ละปีมีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามาชนิดไม่ขาดสาย

เช่นเดียวกับพื้นที่มหานครหลักที่สำคัญส่วนใหญ่ ชื่อของเมืองหลัก (ในกรณีนี้คือ "ลาสเวกัส") มักใช้เพื่ออธิบายพื้นที่ที่เกินกว่าขอบเขตของเมือง ในกรณีของลาสเวกัส ชื่อนี้จะนำไปใช้กับพื้นที่ในและใกล้กันกับ ลาสเวกัสสตริป (Las Vegas Strip) ซึ่งตั้งอยู่ในชุมชนของ พาราไดซ์ (Paradise) และ วินเชสเตอร์ (Winchester) ด้วย[13][14]

อ้างอิง

แก้
  1. Merriam Webster's Geographical Dictionary (3rd ed.). Merriam-Webster. 1997. p. 633. ISBN 9780877795469.
  2. "Words and Their Stories: Nicknames for New Orleans and Las Vegas". VOA News. March 13, 2010. สืบค้นเมื่อ January 29, 2012.
  3. Lovitt, Rob (December 15, 2009). "Will the real Las Vegas please stand up?". MSNBC. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-11-20. สืบค้นเมื่อ February 4, 2012.
  4. "Profile of General Population and Housing Characteristics: 2010 Demographic Profile Data (DP-1) : Las Vegas city, Nevada". U.S. Census Bureau, American Factfinder. สืบค้นเมื่อ March 9, 2012.
  5. 5.0 5.1 "Annual Estimates of the Resident Population for Incorporated Places of 50,000 or More, Ranked by July 1, 2018 Population: April 1, 2010 to July 1, 2018". United States Census Bureau, Population Division. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-02-13. สืบค้นเมื่อ May 23, 2019.
  6. "Find a County". National Association of Counties. สืบค้นเมื่อ June 7, 2011.
  7. "Overseas Visitation Estimates for U.S. States, Cities, and Census Regions: 2013" (PDF). International Visitation in the United States. US Office of Travel and Tourism Industries, US Department of Commerce. May 2014. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ March 28, 2016. สืบค้นเมื่อ December 14, 2014.
  8. "World's Most-Visited Tourist Attractions". Travel + Leisure. สืบค้นเมื่อ January 10, 2015.
  9. Schwartz, David G. (December 10, 2018). "Why Las Vegas Is Still America's Most Sinful City". Forbes. สืบค้นเมื่อ August 27, 2019.
  10. Jones, Charisse (August 21, 2013). "Top convention destinations: Orlando, Chicago, Las Vegas". USA Today.
  11. Nancy Trejos, USA TODAY (January 17, 2014). "AAA chooses Five Diamond hotels, restaurants for 2014". Usatoday.com. สืบค้นเมื่อ January 10, 2015.
  12. "Top 5 Cities to Get Hired in Hospitality". Hcareers.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-01-14. สืบค้นเมื่อ January 10, 2015.
  13. Joe Schoenmann (February 3, 2010). "Vegas not alone in wanting in on .vegas". Las Vegas Sun.
  14. "County Turns 100 July 1, Dubbed 'Centennial Day'" (Press release). Clark County, Nevada. June 23, 2009. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-04-07. สืบค้นเมื่อ February 5, 2010.

แหล่งข้อมูลอื่น

แก้