เอลิเนอร์แห่งอังกฤษ เคาน์เตสแห่งเลสเตอร์

เอเลนอร์แห่งอังกฤษ (หรือ เอเลนอร์ แพลนทาเจเนต[1] หรือ เอเลนอร์แห่งเลสเตอร์) (ค.ศ.1215 - 13 เมษายน ค.ศ.1275) เป็นลูกคนสุดท้องของพระเจ้าจอห์นแห่งอังกฤษกับอิซาเบลลาแห่งอ็องกูแลม

เอลิเนอร์แห่งอังกฤษ เคาน์เตสแห่งเลสเตอร์
เคานเตสแห่งเพมโบรก; เคานเตสแห่งเลสเตอร์
ประสูติค.ศ.1215
กลอสเตอร์, กลอสเตอร์เชียร์
สวรรคตมงตาร์ฌีส์แอบบีย์ ฝรั่งเศส
ฝังพระศพ13 เมษายน ค.ศ.1275
มงตาร์ฌีส์แอบบีย์ ฝรั่งเศส
คู่อภิเษกวิลเลี่ยม มารแชล เอิร์ลแห่งเพมโบรกคนที่ 2
แต่งงานค.ศ. 1224; ตายค.ศ. 1231
ซิมง เดอ มงต์ฟอต์ เอิร์ลแห่งเลสเตอร์คนที่ 6
แต่งงานค.ศ. 1238; ตายค.ศ. 1265
พระราชบุตรเฮนรี่ เดอ มงต์ฟอต์
ซิมงผู้ลูก เดอ มงต์ฟอต์
อาโมรี เดอ มงต์ฟอต์ คานันแห่งยอร์ก
กีย์ เดอ มงต์ฟอต์ เคานต์แห่งโนลา
เอเลนอร์ เดอ มงต์ฟอต์
ราชวงศ์แพลนทาเจเนต
พระราชบิดาพระเจ้าจอห์นแห่งอังกฤษ
พระราชมารดาอิซาเบลลาแห่งอ็องกูแลม

ชีวิตช่วงต้น

แก้

ในตอนที่เอเลนอร์ประสูติที่กลอสเตอร์ ลอนดอนของพระเจ้าจอห์นอยู่ในมือของกองทัพฝรั่งเศส จอห์นถูกบีบบังคับให้ลงนามในแม็กนาคาร์ต้า ส่วนราชินีอิซาเบลลาก็ตกอยู่ในความอับอาย เอเลนอร์ไม่เคยเจอพระบิดาของพระองค์ เนื่องจากพระองค์สิ้นพระชนม์ที่ปราสาทนวร์กในตอนที่เอเลนอร์อายุไม่ถึงปี ชาวฝรั่งเศส นำโดยเจ้าชายหลุยส์สิงห์ อนาคตพระเจ้าหลุยส์ที่ 8 กำลังเดินทัพลงใต้ มีเพียงดินแดนในมิดแลนด์กับทางตะวันตกเฉียงใต้ที่ภักดีต่อพระเชษฐาของพระองค์ เฮนรี่ที่ 3 แห่งอังกฤษ บารอนปกครองตอนเหนือ แต่รวมตัวเป็นหนึ่งเดียวกับผู้สนับสนุนกษัตริย์ภายใต้วิลเลี่ยม มาร์แชล เอิร์ลแห่งเพมโบรกคนที่ 1 ที่คุ้มครองพระเจ้าเฮนรี่น้อย และหลุยส์พ่ายแพ้ไป

ก่อนวิลเลี่ยม มาร์แชลจะตายในค.ศ.1219 ได้มีการสัญญาว่าจะยกเอเลนอร์ให้กับลูกชายของเขาที่ชื่อวิลเลี่ยมเช่นกัน ทั้งคู่แต่งานกันเมื่อ 23 เมษายน ค.ศ.1224 ที่โบสถ์นิวเทมเปิ้ลในลอนดอน วิลเลี่ยมผู้ลูกอายุ 34 ปี ส่วนเอเลนอร์อายุเพียง 9 ปี เขาตายในลอนดอนเมื่อวันที่ 6 เมษายน ค.ศ.1231 ก่อนวันครบรอบปีที่เจ็ดของทั้งคู่ การแต่งงานครั้งนี้ไม่มีลูก

เอเลนอร์ได้นำสินสอดเป็นคฤหาสน์ 10 หลังกับเงิน 200 ปอนด์ต่อปีติดตัวมาในการแต่งงานครั้งนี้ ตามกฎหมายในเวลานั้น ภรรยาม่ายมีสิทธิ์ได้รับหนึ่งในสามของสินสมรส ทว่าน้องสามีของพระองค์ ริชาร์ด ยึดสินสมรสทั้งหมดและขายไปหลายส่วน รวมถึงสินสอดของพระองค์ เพื่อชำระหนี้ของวิลเลี่ยม เอเลนอร์พยายามดิ้นรนอยู่หลายปีจนได้ทรัพย์สมบัติที่เสียไปของพระองค์กลับคืนมา[2]

เอเลนอร์ม่ายสาบานคำปฏิญาณศักดิ์สิทธิ์แห่งการครองพรหมจรรย์ต่อหน้าเอ็ดมุนด์ ริช อาร์ชบิชอปแห่งแคนเทอร์บรี[3]

ซิมง เดอ มงต์ฟอต์

แก้
 
ตราประทับของเอเลนอร์ในฐานะเคานเตสแห่งเลสเตอร์

เจ็ดปีต่อมา เอเลนอร์เจอกับซิมง เดอ มงต์ฟอต์ เอิร์ลแห่งเลสเตอร์คนที่ 6 ซิมงถูกดึงดูดด้วยความงามและความเลิศหรูของเอเลนอร์ พอๆกับความร่ำรวยและชาติกำเนิดที่สูงส่งของพระองค์ ทั้งคู่ตกหลุมรักและแต่งงานกันอย่างลับๆ เมื่อวันที่ 7 มกราคม ค.ศ.1238 ที่โบสถ์น้อยของกษัตริย์ในพระราชวังเวสต์มินสเตอร์ พระเชษฐาของพระองค์ พระเจ้าเฮนรี่ ต่อมาได้ให้เหตุผลว่ายินยอมให้แต่งงานเนื่องจากซิมงล่อลวงเอเลนอร์ การแต่งงานเป็นที่โต้แย้งเนื่องจากเอเลนอร์เคยสาบานไว้เมื่อหลายปีก่อนว่าจะรักษาพรหมจรรย์ ด้วยเหตุนี้ซิมงจึงทำการจาริกแสวงบุญไปโรมเพื่อหาทางให้พระสันตะปาปาอนุมัติการแต่งงานของทั้งคู่ ซิมงกับเอเลนอร์มีลูกด้วยกัน 7 คน

  1. เฮนรี่ เดอ มงต์ฟอต์ (พฤศจิกายน ค.ศ.1238 - ค.ศ.1265)
  2. ซิมงผู้ลูก เดอ มงต์ฟอต์ (เมษายน ค.ศ.1240 - ค.ศ.1271)
  3. อาโมรี เดอ มงต์ฟอต์ คานันแห่งยอร์ก (ค.ศ.1242/1243 - ค.ศ.1300)
  4. กีย์ เดอ มงต์ฟอต์ เคานต์แห่งโนล่า (ค.ศ.1244 - ค.ศ.1288)
  5. โจแอนนา เกิดและตายในบอร์กโดซ์ระหว่างค.ศ.1248 ถึงค.ศ.1251
  6. ริชาร์ด เดอ มงต์ฟอต์ (ค.ศ.1252 - ค.ศ.1281)
  7. เอเลนอร์ เดอ มงต์ฟอต์ เจ้าหญิงแห่งเวลส์ (ค.ศ.1258 - ค.ศ.1282)

ในช่วงสงครามบารอนครั้งที่สอง ชัยชนะของซิมง เดอ มงต์ฟอต์ที่สมรภูมิแห่งลูอิสในค.ศ.1264 ทำให้เขากลายเป็นผู้ปกครองทางพฤตินัยของอังกฤษ เขาพยายามปฏิรูปการบริหารราชการ รวมไปถึการงจัดตั้งสภานิติบัญญัติที่เลือกโดยชาวเมืองครั้งแรก แต่ไม่สามารถเรียกการสนับสนุนจากบารอนคนอื่นๆได้ การเปลี่ยนฝ่ายไปเป็นผู้สนับสนุนกษัตริย์หลายครั้งเป็นเหตุให้มงต์ฟอต์พ่ายแพ้ที่สมรภูมิแห่งอีฟชามเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม ค.ศ.1265 ที่ซึ่งเขาถูกฆ่าพร้อมกับลูกชาย เอเลนอร์หนีออกจากประเทศไปฝรั่งเศส ที่ซึ่งพระองค์กลายเป็นแม่ชีที่มงตาร์ฌีส์แอบบีย์ สำนักชีที่ก่อตั้งโดยน้องสาวของสามีผู้ล่วงลับ อามิเชีย ซึ่งเป็นอธิการิณีอยู่ที่นั่น พระองค์สิ้นพระชนม์ที่นั่นเมื่อวันที่ 13 เมษายน ค.ศ.1275 และถูกฝังที่นั่น พระองค์ได้รับการปฏิบัติเป็นอย่างดีจากเฮนรี่ ได้รับเงินรายได้ และผู้พิทักษ์สิทธิ์ของพระองค์ได้รับอนุญาตให้ฟ้องร้องเรื่องการรับช่วงต่อเลสเตอร์ในราชสำนักอังกฤษได้ เจตจำนงและพินัยกรรมของพระองค์มีผลบังคับใช้ตามกฎหมายโดยไร้โต้แย้ง

ผ่านทางลูกชายของพระองค์ กีย์ เอเลนอร์เป็นบรรพบุรุษของอลิซาเบธ วู้ดวีลล์ ราชินีคู่สมรสของเอ็ดเวิร์ดที่ 4

ลูกสาวของเอเลนอร์ เอเลนอร์ เดอ มงต์ฟอต์ แต่งงาน ที่วูร์สเตอร์ ในค.ศ.1278 กับลีเวลีน อัป กรุฟฟุด เจ้าชายแห่งเวลส์ เธอเสียชีวิตในการให้กำเนิดลูกคนเดียวของทั้งคู่ เกว็นเลียนแห่งเวลส์ หลังการพิชิตเวลส์ เกว็นเลียนถูกคุมขังโดยเอ็ดเวิร์ดที่ 1 แห่งอังกฤษ ญาติลำดับที่ 1 ของแม่ของเธอ ที่ศาสนสำนักเซมปริงแฮม ที่ซึ่งเธอตายในค.ศ.1337

อ้างอิง

แก้
  1. ชื่อสกุล "แพลนทาเจเนต" ถูกนำมาใช้ย้อนหลังกับลูกหลานสายผู้ชายของจอฟฟรีย์ แพลนทาเจเนต เคานต์แห่งอ็องฌู กับจักรพรรดินีมาทิลด้า โดยไม่มีการอ้างเหตุผลในทางประวัติศาสตร์ เป็นวิธีที่ง่ายในการเรียกคนที่ความจริงแล้วไม่มีชื่อสกุล ลูกหลานคนแรกของจอฟฟรีย์ที่ใช้ชื่อสกุลนี้ คือ ริชาร์ด แพลนทาเจเนต ดยุคแห่งยอร์กคนที่ 3 (บิดาของทั้งเอ็ดเวิร์ดที่ 4 แห่งอังกฤษและริชาร์ดที่ 3 แห่งอังกฤษ) ที่เริ่มนำมาใช้ราวค.ศ.1448
  2. Levin 2000, p. 213.
  3. Levin 2000, p. 214.