เดอะแกมเบลอร์
เดอะแกมเบลอร์ (อังกฤษ: The Gambler) คือสตูดิโออัลบั้มลำดับที่ 6 ของศิลปินชายชาวอเมริกัน เคนนี โรเจอส์ ออกวางขายในสหรัฐอเมริกา ในเดือนพฤศจิกายน โดย United Artists ค.ศ. 1978 หนึ่งในอัลบั้มที่โด่งดังที่สุดของเขา อัลบั้มนี้ทำให้ โรเจอส์ กลายเป็นหนึ่งในศิลปินที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในช่วงปีคศ. 1970 ถึง 1980 อัลบั้มนี้สามารถตีตลาดได้ทั่วโลก ทั้งแถบเอเชีย และจาไมก้า โรเจอส์บอกในตอนหลังว่า "ตอนที่ไปประเทศเกาหลีหรือฮ่องกง ผู้คนต่างก็เรียกเขาว่า เดอะแกมเบลอร์ !" ( ในกระดาษโน้ตที่อยู่ภายในบ็อกเซ็ท "Through the Years" ปี 1998 ของ แคปิตอลเรเคิดส์ ) อัลบั้มนี้มียอดขายทั่วโลกมากกว่า 35 ล้านชุดในปัจจุบัน [1]
เดอะแกมเบลอร์ | ||||
---|---|---|---|---|
สตูดิโออัลบั้มโดย | ||||
วางตลาด | พฤศจิกายน ค.ศ. 1978 | |||
แนวเพลง | คันทรี (แนวดนตรี) | |||
ความยาว | 39:44 | |||
ค่ายเพลง | United Artists Group | |||
โปรดิวเซอร์ | แลร์รี่ บัตเลอร์ | |||
ลำดับอัลบั้มของเคนนี โรเจอส์ | ||||
| ||||
ซิงเกิลจากThe Gambler | ||||
|
เพลงชื่อต้นอัลบั้ม The Gambler แต่งโดย Don Schlitz และเป็นคนแรกที่ร้องเพลงนี้ นอกจากนี้ยังมีศิลปินอีกมากมายนำมาร้องใหม่ด้วย แต่มันเวอร์ชันของของเคนนี โรเจอส์ทำให้เขาได้รับการยอมรับในวงการเพลงคันทรีและได้รับรางวัลเพลงคันทรียอดเยี่ยมแห่งปีในปีนั้น ซึ่งภายหลังได้กลายเป็นเพลงประจำตัวของเขาไป แม้ว่า Johnny Cash จะเป็นคนอัดเพลงนี้ก่อน แต่เวอร์ชันของโรเจอส์นั้นปล่อยออกมาก่อน ทั้งเพลงนี้และ She Believes in Me กลายเป็นเพลงฮิตและทำให้โรเจอส์เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในวงการเพลงคันทรี และได้รับคำวิจารณ์จากนักแต่งเพลงมืออาชีพในวงการมากมายเช่น Alex Harvey, Mickey Newbury และ Steve Gibb โรเจอส์ยังแสดงความสามารถในการแต่งเพลงจากเพลง "Morgana Jones" อีกด้วย ส่วนตัวอัลบั้มนั้นได้ Larry Butler มาเป็นโปรดิวซ์เซอร์ให้
ด้วยความโด่งดังของอัลบั้มนี้ทำให้ถูกนำมาวางขายใหม่หลายครั้ง หลังจากที่ United Artists ถูกรวมเข้ากับ EMI/Capitol ในปี 1980 ก็มีการปล่อยออกนี้ออกมาขายใหม่ในรูปแบบแผ่นเสียงและเทปคาสเซ็ท ภายใต้สังกัด Liberty Records ซึ่งหลายปีต่อมาก็ได้ปล่อยอัลบั้มนี้เวอร์ชันย่อยที่ตัดเพลง "Morgana Jones" ออกไปมาขายใหม่ EMI Manhattan Records ได้วางจำหน่ายอัลบั้มนี้ฉบับ CD ในช่วง 1980 และ ฉบับดั้งเดิม จาก Mobile Fidelity Sound Labs นั้นวางขายในรูปแบบแผ่นเสียง (ฉบับแผ่นเสียงอย่างดี) และสุดท้ายอัลบั้มนี้ก็ถูกปล่อยออกมาวางจำหน่ายอีกครั้งโดย ค่ายเพลง Dreamcatcher Records ซึ่งโรเจอส์เป็นเจ้าของเองในปี 2001 เป็นหนึ่งใน CD "Original Masters Series" ของเคนนี โรเจอส์
ในอังกฤษ ทั้งตัวอัลบั้มและเพลงชื่อเดียวกันขายได้ดีมากในตลาดเพลงคันทรี แต่ไม่สามารถขึ้นสู่ท๊อป 40 ได้ในชาร์ตเพลงป๊อป ในช่วงยุค 80 ซิงเกิลจากอัลบั้มนี้ถูกนำมาวางขายใหม่และติดท๊อป 100 เพลงขายดีเสมอ แต่ก็ไม่สามารถเข้าสู่ท๊อป 40 ได้อีกเช่นเคย จนกระทั่งในปี 2007 จึงสามารถขึ้นสู่อันดับที่ 22 ได้ นอกจากนี้ เพลง I Wish That I Could Hurt That Way Again ยังถูกตัดเป็นซิงเกิลภายหลังในปี 1986 โดย T. Graham Brown เป็นผู้ร้อง และขึ้นถึงอันดับที่ 3 ในชาร์ตเพลงคันทรี
รายชื่อเพลง
แก้- The Gambler (Don Schlitz) – 3:32
- I Wish That I Could Hurt That Way Again (Rafe VanHoy, Don Cook, Curly Putman) – 2:55
- "King of Oak Street" (Alex Harvey) – 4:55
- "Makin' Music for Money" (Harvey) – 3:10
- "Hoodooin' of Miss Fannie Deberry" (Harvey) – 4:44
- She Believes in Me (Steve Gibb) – 4:11
- "Tennessee Bottle" (Jim Ritchey) – 3:59
- "Sleep Tight, Goodnight Man" (Sam Lorber, Jeff Silbar) – 2:52
- "Little More Like Me (The Crucifixion)" (Sonny Throckmorton) – 2:47
- San Francisco Mabel Joy (Mickey Newbury) – 3:36
- "Morgana Jones" (Kenny Rogers) – 3:03
ชาร์ต
แก้ชาร์ต (1978) | สูงสุด อันดับ |
---|---|
U.S. Billboard Top Country Albums | 1 |
U.S. Billboard 200 | 12 |
Canadian RPM Country Albums | 1 |
Canadian RPM Top Albums | 6 |