เดอะเลเจนด์ออฟเซลดา: อะลิงก์ทูเดอะแพสต์

เดอะเลเจนด์ออฟเซลดา อะลิงก์ทูเดอะแพสต์ หรือ (อังกฤษ: The Legend of Zelda: A Link to the Past; ญี่ปุ่น: ゼルダの伝説 神々のトライフォース) เป็นเกมแอคชั่นแอดเวนเจอร์ที่พัฒนาและจัดจำหน่ายโดยนินเทนโดสำหรับเครื่องเล่นเกม ซูเปอร์แฟมิคอม เกมนี้เป็นภาคที่สามของซี่รีย์เดอะเลเจนด์ออฟเซลดา ซึ่งจัดจำหน่ายในญี่ปุ่นในปี 1991 อเมริกาเหนือและยุโรปในปี 1992 โดยที่ชิเงะรุ มิยะโมะโตะและทีมงานเป็นผู้รับผิดชอบในการพัฒนาทั้งหมด

เนื้อเรื่องของ อะลิงก์ทูเดอะพาสต์ จะเกี่ยวข้องกับการผจญภัยของลิงก์เพื่อกอบกู้อาณาจักรไฮรูล กำจัดกานอนและช่วยเหลือลูกหลานแห่งนักปราชญ์ทั้งเจ็ด เกมนี้จะใช้มุมมองด้านบนแบบเดียวกับภาคแรก เดอะเลเจนด์ออฟเซลดา โดยเลือกที่จะทิ้งรูปแบบไซด์สครอลลิ่งของ เซลดา II ดิแอดเวนเจอร์ออฟลิงก์ ไป หลายสิ่งหลายอย่างในภาคนี้ได้ถูกนำไปใช้ในภาคต่อๆมา เช่น โลกคู่ขนาน,มาสเตอร์ซอร์ด,อาวุธอื่นๆอีกมากมาย

ตัวเกมนั้นประสบความสำเร็จทั้งในแง่การวิจารณ์และยอดขาย อะลิงก์ทูเดอะพาสต์ ได้กลายเป็นไตเติลหลักของนินเทนโดและถูกกล่าวกันอย่างกว้างขวางให้เป็นหนึ่งในวิดีโอเกมที่ยอดเยี่ยมที่สุดตลอดกาล อะลิงก์ทูเดอะพาสต์ ทำยอดขายไปได้สี่ล้านชุดและได้ถูกพอร์ทลงเกมบอยแอ็ดวานซ์และ Virtual console ของวีและวียู ซึ่งก็ได้รับความนิยมและช่วยผลักดันยอดขายทั้งหมดของเกมนี้ยิ่งขึ้นไปอีก

ต่อมา ภาคต่อของเกมนี้ คือ เดอะเลเจนด์ออฟเซลดา อะลิงก์บีทวีนเวิร์ลส์ ได้วางจำหน่ายสำหรับนินเท็นโด 3ดีเอสในช่วงพฤศจิกายน ปี 2556[1][2]

ระบบการเล่น แก้

 
แผนที่แสดงถึงโลกแห่งแสงและโลกแห่งความมืด ซึ่งจะมีลักษณะคล้ายกัน แต่ต่างกันตรงที่สภาพแวดล้อมเป็นหลัก

จากเดิมที่ใช้มุมมองไซด์สคลอลิ่งใน เซลดา II ดิแอดเวนเจอร์ออฟลิงก์ อะลิงก์ทูเดอะแพสต์ ได้กลับไปใช้มุมมองด้านบนเหมือนภาคแรกอีกครั้ง โดยนอกจากจะใช้คอนเซ็ปต์เดิมแล้ว ยังมีสิ่งใหม่ๆเพิ่มขึ้นมาอีก เช่น การยิงธนูซึ่งไม่ต้องใช้เงินรูปีเหมือนภาคแรก เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีลักษณะบางอย่างที่หยิบมาจาก ดิแอดเวนเจอร์ออฟลิงก์ อย่างเช่น เกจ์เวทมนตร์สำหรับใช้ไอเทมบางชนิด เช่น โคมไฟ เป็นต้น การควบคุมตัวละครนั้นจะมีความคล่องตัวมากขึ้น โดยที่เราสามารถใช้ไอเท็มเพกาซัส บูทวิ่งพุ่งชนอย่างรวดเร็วได้ นอกจากนั้นยังสามารถใช้ดาบฟันเป็นวงกว้างได้จากที่มีแต่แทงหน้าอย่างเดียว ซึ่งได้ถูกนำไปใช้ในภาคต่อๆไป ถึงยังไงก็ตาม การแทงก็ยังคงมีในเกมเซลด้าภาคที่เป็นสามมิติเช่นเดิม

นอกจากนั้น ยังมีไอเท็มใหม่เพิ่มเข้ามาใน อะลิงก์ทูเดอะแพสต์ เช่น ฮุคชอท มาสเตอร์ซอร์ด ออคาริน่า และเพกาซัส บู๊ทและท่าสปินแอ็คแท็ค หัวใจที่เป็นดั่งเลือดของลิงก์ได้ถูกแบ่งออกเป็นสี่ส่วน เรียกว่า ชิ้นส่วนหัวใจ (Pieces of Heart) โดยที่เมื่อเก็บครบสี่ชิ้น จะได้หัวใจเพิ่มอีกหนึ่งช่อง ซึ่งแต่ละชิ้นนั้นจะถูกซ่อนในเกม ทำให้ตัวเกมดูน่าค้นหามากยิ่งขึ้น และดันเจี้ยนในเกมจะมีหลายชั้น ทำให้เกิดเกมเพลย์ขึ้น-ลงระหว่างชั้นหรือเดินตกร่วงจากชั้นได้

อะลิงก์ทูเดอะแพสต์ นั้นได้กลายเป็นเทรดมาร์คสำคัญของซีรีส์เกมเซลด้า โดยเฉพาะเรื่องโลกคู่ขนานทั้งสอง โลกแรก มีชื่อว่า โลกแห่งแสง คือโลกที่ไฮรูลตั้งอยู่โดยที่ลิงก์เติบโตมาพร้อมกับลุง อีกโลกหนึ่งมีชื่อว่า โลกแห่งความมืด ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์ แต่ได้ถูกกาน่อนยึดครองโดยใช้พลังของไทรฟอร์ซ โลกแห่งความมืดนั้นจะเป็นเสมือนด้านมืดของไฮรูล (สังเกตได้จากน้ำที่ดำทะมึน ,บรรยากาศที่หดหู่ ,หญ้าแห้งตาย ,กระโหลกอยู่ทุกหนแห่ง ,ต้นไม้ที่มีหน้าเหมือนปีศาจ ,ผู้คนที่ต่างกลายเป็นตัวประหลาดที่สะท้อนถึงตัวตนของตนเอง) ซึ่งลิงก์เองก็กลายเป็นกระต่ายชมพูในโลกแห่งความมืด ซึ่งมีแต่ไข่มุกจันทราเท่านั้นที่จะช่วยทำให้กลับร่างเป็นปกติได้ และสถานที่แต่ละแห่งในโลกแห่งแสงยังมีความเกี่ยวข้องกับสถานที่ในโลกแห่งความมืด ซึ่งจะมีลักษณะคล้ายคลึง แต่สภาพแวดล้อมจะตรงกันข้าม (อย่างเช่น ทะเลทราย-บึง หมู่บ้าน-รังโจร เป็นต้น)

ตัวละครเอกของเราสามารถเดินทางจากโลกแห่งความมืดสู่โลกแห่งแสงได้โดยใช้กระจกเวทมนตร์ ณ ที่กลางแจ้งใดๆก็ได้ และสามารถเดินทางกลับโดยใช้ประตูมิติที่อยู่ตำแหน่งเดียวกับตอนที่เดินทางมา หรือใช้ทางลับเดินทางจากโลกแห่งแสงสู่โลกแห่งความมืดก็ได้ โดยที่จะมีปริศนาที่ใช้ความแตกต่างของสถานที่ของทั้งสองโลกให้แก้ระหว่างผจญภัยด้วยด้วย (เช่น การเข้าถึงบริเวณที่ไม่สามารถเข้าไปได้ในโลกหนึ่งโดยวาร์ปมาจากอีกโลกหนึ่งซึ่งบริเวณนี้สามารถเข้าถึงได้ เป็นต้น)

เนื้อเรื่อง แก้

ตัวละคร แก้

-ผู้กล้าลิงก์ เด็กชายผู้อาศัยอยู่กับลุงทางใต้ของอาราจักรไฮรูล ซึ่งผู้เล่นจะได้สวมบทบาทเป็นเขาในการเล่น

-เจ้าหญิงเซลด้า ลูกหลานของเหล่านักปราชญ์ทั้งเจ็ดซึ่งถูกจับไว้ในคุกใต้ปราสาทโดยอกานิม พ่อมดร้ายที่วางแผนจะปลดปล่อย กานอน

-ซาฮาส์ราห์ลา ลูกหลานของเหล่าผู้ตีดาบในตำนาน มาสเตอร์ซอร์ด และผู้ชี้แนะลิงก์ระหว่างการผจญภัยเพื่อกอบกู้ไฮรูล

-กานอน ตัวร้ายประจำซี่รีย์ ซึ่งคราวนี้เขาได้ถูกผนึกไว้ในโลกแห่งความมืด

เนื้อเรื่อง แก้

อะลิงก์ทูเดอะแพสต์ จะดำเนินเนื้อเรื่องก่อนหน้าสองภาคแรก: เดอะเลเจนด์ออฟเซลดาและเซลดา II ดิแอดเวนเจอร์ออฟลิงก์ โดยเริ่มต้นจาก เด็กชายคนหนึ่งนามว่าลิงก์ได้ถูกปลุกในยามค่ำคืนผ่านโทรจิตจากเจ้าหญิงเซลด้า ซึ่งได้บอกกับเขาว่าเธอถูกขังอยู่ในคุกใต้ปราสาทไฮรูล หลังจากนั้น ลิงก์ก็ได้พบว่าลุงของเขากำลังเตรียมตัวออกไปสู้กับอะไรสักอย่างข้างนอก แต่ลุงเขาก็บอกให้ลิงก์กลับไปนอน แน่นอนว่าเขาไม่ฟังและแอบติดตามไปถึงทางเดินใต้ปราสาทไฮรูล ซึ่งที่นั่นเขาได้พบกับลุงซึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัสอย่างมากและได้ฝากหน้าที่ช่วยเจ้าหญิงเซลด้าไว้กับลิงก์พร้อมทั้งให้ดาบกับโล่มา หลังจากนั้น เขาก็ได้พบกับเจ้าหญิงและช่วยเธอออกมา และพาเธอหนีผ่านทางท่อระบายน้ำทิ้งซึ่งนำไปสู่โบสถ์วิหารของอาณาจักรไฮรูล

ลิงก์ได้รับคำบอกกล่าวจากชายในโบสถ์ว่า อกานิม พ่อมดร้ายซึ่งได้ยึดปราสาทไว้อยู่นั้น ได้วางแผนที่จะทำลายผนึกของนักปราชญ์ทั้งเจ็ดที่กักขังกาน่อน จอมมารผู้ชั่วช้าให้พังทลายลง ซึ่งอยู่ในโลกอีกโลกที่เคยมีนามว่าดินแดนศักดิ์สิทธิ์ แต่ได้ถูกกาน่อนใช้ไทรฟอร์ซเปลี่ยนมันให้กลายเป็นดินแดนแห่งความมืด โดยที่อกานิมจะส่งลูกหลานของเหล่านักปราชญ์ทั้งเจ็ดไปที่โลกแห่งความมืดเพื่อทำลายผนึก ทางเดียวที่จะจัดการกับอกานิมได้คือต้องใช้ดาบมาสเตอร์ซอร์ด ดาบที่ถูกตีขึ้นมาเพื่อปราบปีศาจร้ายให้สิ้นซาก การที่ลิงก์จะพิสูจน์ว่า เขาเหมาะสมที่จะเป็นผู้กวัดแกว่งดาบเล่มนี้หรือไม่นั้น เขาจะต้องมีตุ้มหูเวทมนตร์ทั้งสาม ซึ่งซ่อนอยู่ในสถานที่ที่มีผู้พิทักษ์คอยเฝ้าอยู่ (ในระหว่างการหาลูกตุ้มคู่แรก เขาได้รู้จักกับผู้เฒ่าซาฮาส์ราห์ลา ซึ่งได้กลายมาเป็นผู้ชี้แนะลิงก์ในการผจญภัยทั้งให้คำใบ้คำแนะนำในการเดินทางอีกด้วย) หลังจากที่ได้ลูกตุ้มเวทมนตร์จนครบแล้ว ลิงก์ก็ได้เดินทางสู่สถานที่ที่ซึ่งดาบมาสเตอร์ซอร์ดหลับไหลอยู่ ทันใดเมื่อเขาดึงดาบออกมา เจ้าหญิงเซลด้าก็ได้ติดต่อเขาผ่านทางโทรจิตว่า เหล่าทหารได้มาถึงโบสถ์ที่เธอซ่อนตัวแล้ว ลิงก์รีบไปที่โบสถ์แต่กลับพบชายซึ่งบาดเจ็บเจียนตาย เขาบอกว่าเจ้าหญิงได้ถูกจับไปที่ปราสาทไฮรูล ถึงแม้ว่าลิงก์จะรีบตามไปช่วย แต่เธอก็ได้ถูกอกานิมส่งไปที่โลกแห่งความมืดเสียแล้ว ลิงก์ได้เข้าประจันหน้ากับอกานิมและจัดการเขาได้ แต่อกานิมก็ส่งลิงก์ไปสู่โลกแห่งความมืดได้ในที่สุด

ทางเดียวที่จะช่วยไฮรูล ลิงก์ต้องปลดปล่อยลูกหลานเหล่านักปราชญ์ทั้งเจ็ดทั้งเจ็ดคนที่กระจัดกระจายตามส่วนต่างๆของโลกแห่งความมืด เมื่อพวกเธอทั้งเจ็ดรวมพลังทำลายม่านพลังรอบหอคอยกานอน ลิงก์จะเข้าไปเผชิญหน้ากับอกานิมอีกครั้ง โดยคราวนี้จะมาพร้อมกับร่างปลอมอีกสองร่างที่ทรงพลังพอๆกับร่างจริง เมื่อลิงก์สามารถจัดการได้แล้ว จะพบว่ากานอนได้ปรากฏออกมาจากร่างอกานิมและแปลงร่างเป็นค้างคาวบินหนีไปที่พีระมิดแห่งอำนาจ ลิงก์ตามไปถึงที่นั่นและได้เริ่มศึกครั้งสุดท้ายกับกานอน ศึกครั้งนี้จบลงด้วยการตายของปีศาจกานอน ลิงก์เอามือไปสัมผัสไทรฟอร์ซและขอพรให้โลกทั้งสองกลับไปสู่ปกติสุขเหมือนเดิม

การพัฒนา แก้

ในปี 1988 ได้มีการเริ่มพัฒนาเกมเซลด้าบนเครื่อง NES แต่ปีต่อมาก็ได้ถูกย้ายไปทำในเครื่องคอนโซลรุ่นต่อมาของนินเทนโด; ซูเปอร์แฟมิคอมหรือ SNES จากความสำเร็จของภาคก่อน ทำให้นินเทนโดสามารถให้เงินทุน เวลาและแหล่งข้อมูลในการพัฒนามากยิ่งขึ้น ในช่วงเวลานั้นเกมใน SNES ส่วนใหญ่จะมีความจุเพียงแค่ 4 เมกะบิท แต่เกมนี้กลับใช้ความจุถึง 8 เมกะบิท(1 เมกะไบต์) ทำให้ทีมงานสามารถสร้างโลกอันกว้างใหญ่ให้ลิงก์ออกเดินสำรวจได้มากยิ่งขึ้น และฉากโลกแห่งแสงและโลกแห่งความมืดแทบจะเหมือนกันทุกอย่าง (เว้นแต่ลักษณะพื้นผิวที่แตกต่างกัน) โดยที่โลกแห่งความมืดจะเป็นเพียงแค่โลกแห่งแสงที่ถูกเติมแต่งในรอมบรรจุเกมเท่านั้น

สคริปต์เกมนั้นถูกเขียนโดยนักเขียนมือใหม่ของซีรีส์ เคนซุเกะ ทานาเบะ ขณะที่โยชิอากิ โคอิซุมิรับผิดชอบเรื่องรายละเอียดพื้นเรื่องของเกมในคู่มือแนะนำการเล่น เหตุการณ์สำคัญของภาคนี้คือการเปลี่ยนแปลงเนื้อหาจากภาษาญี่ปุ่นเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งต้องเปลี่ยนแปลงรายละเอียดของเกมที่เกี่ยวข้องกับศาสนาตามข้อเสนอแนะของ NOA อย่างแรกคือชื่อเกม ซึ่งเปลี่ยนจาก Kamigami no Triforce (ไทรฟอร์ซแห่งพระเจ้า)เป็น A link to the past,โบสถ์ที่คล้ายกับโบสถ์คริสเตียน,ข้อความที่เกี่ยวโยงกับศาสนาความเชื่อ,ฟอนต์อักษรที่ใช้แสดงภาษาไฮเรี่ยนทีอ่านไม่ได้ซึ่งเป็นตัวอักษรคล้ายอีแร้งและตัวอักษรอังก์ซึ่งมีความหมายในเชิงศาสนา รวมถึงคู่มือเกมที่เปลี่ยนรายละเอียดเกี่ยวกับอกานิมว่าเป็นพ่อมดแทนที่จะเป็นนักบวชและได้ลบรายละเอียดที่มาดังเดิมซึ่งบอกว่าเขาถูกส่งมาโดยพระเจ้าซึ่งมีความเกี่ยวพันทางศาสนาด้วย

เพลง แก้

เพลงในอะลิงก์ทูเดอะพาสต์แต่งโดย โคจิ คอนโดะ ซึ่งธีมโอเวอร์เวิร์ลดได้ถูกนำมาใช้ในเกมอีกครั้งในฉากโลกแห่งแสงและตอนท้ายเครดิต เพลงในอะลิงก์ทูเดอะพาสต์ได้กลายมาเป็นเพลงประจำซีรีส์ในเวลาต่อมา เช่น เพลงกล่อมของเซลด้า(Zelda's Lullaby) เพลงประจำตัวกานอนดอร์ฟ เพลงปราสาทไฮรูล เพลงหมู่บ้านคาคาริโกะ รวมถึงเพลงหน้าจอก่อนเข้าเกม และยังมีการออกขายแผ่นซาวน์แทร็ค เดอะเลเจนด์ออฟเซลดา:ซาวน์แอนด์ดราม่า โดยที่แผ่นแรกจะเป็นเพลงในเกมเวอร์ชันเรียบเรียงใหม่ รวมถึงโบนัสแทร็คยาว 44 นาที แผ่นที่สองจะเป็นเพลงในเกมเวอร์ชันต้นฉบับ รวมถึงเพลงจากภาคแรกยาว 54 นาที

สิ่งที่ตามมา แก้

ห้องลับของ คริส โฮลิฮาน แก้

นินเทนโดเพาเวอร์ได้มีการแข่งขันสุ่มรายชื่อเพื่อนำไปใช้เป็นชื่อห้องลับในเกมเซลด้าภาคล่าสุด ซึ่งเป็นห้องเดี่ยวๆที่มีเงินรูปีอยู่ การที่จะเข้าไปในห้องนี้ได้นั้นจะมีอยู่ด้วยกัน 5 วิธี และห้องนี้ยังไว้ใช้สำหรับการป้องกันความผิดพลาดของเกม เมื่อโปรแกรมไม่สามารถคำนวณได้ว่าผู้เล่นจะไปโผล่ที่ไหนเวลาเปลี่ยนพื้นที่ ภายในห้องนั้นจะมีคำทักทายจากผู้โชคดีที่ชนะการสุ่มรายชื่อว่า "ฉันชื่อคริส โฮลิฮาน นี้เป็นห้องลับสุดยอดของฉัน เก็บเรื่องนี้ไว้ระหว่างเราสองคนนะ โอเค?" ห้องลับนี้ถูกค้นพบเป็นเวลาสิบกว่าปีหลังจากที่เกมออกวางจำหน่าย โดยในเวอร์ชัน GBA ห้องนี้จะถูกเอาออกไป ถึงแม้จะว่ามีโค้ดโปรแกรมอยู่ในเกมก็ตาม ในขณะที่เวอร์ชัน Virtual Console นั้นจะยังคงสามารถเข้าห้องได้เหมือนเดิม GamesRadar ได้ยกย่องห้องลับนี้ว่าเป็นหนึ่งใน Easter eggs ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของวิดีโอเกมและยังอยู่ในรายชื่อ"9 ความลับในวิดีโอเกมที่เกือบไม่ถูกค้นพบ" อีกด้วย

คอมมิก แก้

หนังสือคอมมิคจากเกม อะลิงก์ทูเดอะพาสต์ ซึ่งวาดโดยโชตาโร่ อิชิโนโมริ(Shotaro Ishinomori) ได้ถูกตีพิมพ์ใน นิตยสารนินเทนโด เพาเวอร์ทั้งหมด 12 ตอนตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนธันวาคมปี 1992 และได้ตีพิมพ์อีกครั้งในปี 1993 ในแบบปกอ่อน โดยคอมมิคจะมีการเปลี่ยนแปลงจากตัวเกมค่อนข้างเยอะ ทั้งพล็อตเรื่องและตัวละครที่เพิ่มเข้ามา

นอกจากนั้น ยังมีการ์ตูนอีกสองฉบับที่ตีพิมพ์ในญี่ปุ่น คือ

-ฉบับของ อาตารุ คากิวะ(Ataru Cagiva) ตีพิมพ์ในช่วงปี 1995-1996 ใน Enix Corporation's Monthly GFantasy และรวมเป็นสามเล่มจบในภายหลัง

-ฉบับของอากิระ ฮิเมกาว่า เป็นแบบเล่มเดียวจบซึ่งตีพิมพ์ในปี 2005 ช่วงเดียวกับการวางขายเกมเวอร์ชัน GBA

โดยที่ทั้งสองเวอร์ชันจะมีเนื้อหาที่ใกล้เคียงเกมมากขึ้น และยังมีตัวละครใหม่นามว่า "Ghanti" โจรสาวผู้มีเขาปีศาจและมีรอยรูปดาวอยู่ใต้ดวงตาของเธอ

เกมที่เกี่ยวข้อง แก้

อะลิงก์ทูเดอะพาสต์เวอร์ชันฝรั่งเศสได้วางขายในแคนาดา (ทำให้เป็นเกม SNES ภาษาฝรั่งเศสเพียงเกมเดียวที่วางขายในอเมริกา) โดยตัวเกมนั้นเหมือนต้นฉบับทุกประการ ยกเว้นภาษาที่เปลี่ยนไป อะลิงก์ทูเดอะพาสต์ได้วางขายอีกครั้งใน Virtual Console ของ Wii Shop Channel ในวันที่ 2 ธันวาคม 2006 ในญี่ปุ่น และ 22 มกราคม 2007 ในอเมริกา ในราคา 800 วีพ้อยน์ หรือ 8 ดอลลาร์ โดยเวอร์ชันอังกฤษนั้นมีลักษณะใกล้เคียงฉบับ SNES อย่างมากโดยไม่มีอะไรเพิ่มเติมเหมือนเวอร์ชัน GBA และในภาคต่อ ลิงก์อเวกเคนนิ่งในปี 1993 ก็ได้ใช้เกมเพลย์หลายๆอย่างจากภาคนี้

เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 1997 อะลิงก์ทูเดอะพาสต์ฉบับ Satellaview ได้ให้เปิดบริการ โดยเป็นเกมที่เปิดบริการบ่อยกว่าเกมเซลด้าเกมอื่นๆและเป็นเกมเดียวที่เปิดบริการโดยบริษัท St.GIGA หลังจากหมดสัญญากับนินเทนโดในปี 1999 อีกทั้งยังเป็นเกมเดียวในกลุ่มเกมเซลด้าที่เปิดให้บริการที่รองรับระบบ SoundLink อีกด้วย

ในปี 2011 ชิเงรุ มิยาโมโตะได้บอกถึงความต้องการที่จะรีเมคอะลิงก์ทูเดอะพาสต์ลง 3DS และในปี 2013 นินเทนโดได้ประกาศใน Nintendo Direct ว่ากำลังพัฒนาเกมใหม่ที่อยู่ใช้โลกเดียวกับอะลิงก์ทูเดอะพาสต์สำหรับ 3DS อยู่ โดยจะมีระบบภาพ 3D เพิ่มเติมเข้ามา

นอกจากนั้น อะลิงก์ทูเดอะพาสต์ยังเป็นเกมที่ถูกนำไปปรับแต่งเยอะมากผ่านเหล่าแฟนๆเกม อย่างเช่น เดอะเลเจนด์ออฟเซลด้า: พาราเลล เวิร์ลด์ส

Inishie no Sekiban

ในปี 1997 ได้มีการวางจำหน่ายเกม Zelda no Densetsu: Inishie no Sekiban (อังกฤษคือ "BS The Legend of Zelda: Ancient Stone Tablets" หรือ "Stone Tablets of Antiquity") ในญี่ปุ่น ซึ่งมีการออกแบบเฉพาะสำหรับ Super Famicom โดยผ่านระบบเสียงออกอากาศที่เรียกว่า SoundLink โดยเกมนี้ดำเนินเนื้อเรื่องเป็นเวลา 6 ปีหลังจากอะลิงก์ทูเดอะพาสต์ ณ โลกแห่งแสง โดยเราสามารถสร้างตัวละครเองขึ้นมาได้เหมือน BS Zelda no Densetsu ซึ่งเกมนี้ได้ออกมาเป็นตอนประจำสัปดาห์ 4 ตอนโดยต้องเล่นแบบถ่ายทอดสดโดยจะมีคำพูดแนะนำผ่านระบบ SoundLink ซึ่งในแต่ละสัปดาห์ ผู้เล่นจะเดินสำรวจได้เพียงบางฉากและสามารถเข้าดันเจี้ยนได้เพียงสองแห่งเท่านั้น ซึ่งการที่แต่ละตอนจะจบนั้น จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อเวลาหมดเท่านั้น ไม่ขึ้นอยู่กับผู้เล่นว่าจะเล่นจบภารกิจหรือไม่ และเกมนี้สามารถเล่นได้เฉพาะบางเวลาเท่านั้นเนื่องมาจากระบบ SoundLink ที่เป็นหัวใจหลักของเกมถูกเซตเวลาตามระบบดาวเทียม

อะลิงก์ทูเดอะพาสต์แอนด์โฟร์ซอร์ด

เกม A link to the past ได้วางจำหน่ายอีกครั้งใน GBA เมื่อปี 2002 ณ อเมริกาเหนือและปี 2003 ณ ภูมิภาคอื่นๆ ในรูปแบบ The Legend of Zelda: A Link to the Past and Four Swords ผลงานการร่วมพัฒนาระหว่าง Nintendo และ Capcom โดยในส่วน A link to the past นั้น จะมีการเปลี่บนแปลงเล็กน้อย เช่น เสียงร้องและเสียงเอฟเฟคจาก Ocarina of Time และ Majora's Mask เป็นต้น ส่วน Four Swords นั้นเป็นภาคเน้นมัลติเพลย์เยอร์ที่สามารถผสมผสานกับการเล่นแบบซิงเกิลเพลย์เยอร์ได้อย่างดี โดยที่ตัวเกมจะปรับปริศนาให้เหมาะสมกับจำนวนผู้เล่น อีกทั้งยังมีกิมมิคเล็กๆระหว่างเกมทั้งสอง(A link to the past และ Four Swords)อีกด้วย

Four Swords จะดำเนินเนื้อเรื่องเกี่ยวกับพ่อมดแห่งสายลมนามว่าวาเอติ ซึ่งหนีออกมาจากผนึกในจตุดาบ(Four Swords)และจับตัวเจ้าหญิงเซลด้าเพื่อนำไปแต่งงาน ลิงก์ต้องใช้จตุดาบเพื่อสร้างร่างก๊อปปี้ขึ้นมาอีกสามคน เพื่อไปช่วยเจ้าหญิง และผนึกวาเอติอีกครั้งหนึ่ง

ณ เวลาที่วางจำหน่ายนั้น เรื่องราวของ Four Swords ถือเป็นเรื่องราวที่เก่าแก่ที่สุดในไทม์ไลน์ของซีรีส์

อะลิงก์บีทวินเดอะเวิร์ลด์ส

ในวันที่ 22 พฤศจิกายน 2013 นินเทนโดได้วางจำหน่าย The Legend of Zelda: A Link Between Worlds ซึ่งใช้โลกเดียวกับ A link to the past แต่เป็นเรื่องราวใหม่ มีปริศนาใหม่ๆและดันเจี้ยนคล้ายแบบต้นฉบับ โดยจะมีการเล่นความสูงความลึกของภาพผ่าน 3D feature ของ 3DS แต่ก็ยังคงมุมมองแบบเดิมจาก A link to the past

IGN ได้ให้คะแนนเกมนี้ 9.4 เต็ม 10

การตอบรับ แก้

อ้างอิง แก้