เซียวเหล่งนึ่ง (จีน: 小龍女; จีน: 小龙女; พินอิน: Xiaolongnü) บ้างสะกดเป็น เซียวเล่งนึ่ง หรือ เซียวเล้งนึ่ง เป็นสตรีงามที่สุดในนิยายกำลังภายใน

เซียวเหล่งนึ่ง

ไม่ทราบบิดามารดา เซียวเหล่งนึ่งถูกทิ้งไว้นอกตำหนักเต้งเอี้ยงของสำนักช้วนจินก่าตั้งแต่ยังเป็นทารก แต่ตำหนักเต้งเอี้ยงเป็นสถาบันพรต ย่อมไม่สะดวกกับการเลี้ยงดูเด็กทารก บังเอิญสาวใช้ของลิ้มเซียวเอ็งผ่านมาเห็น ด้วยความเวทนาจึงได้รับอุปการะไว้ นำกลับไปเลี้ยงดูที่สุสานโบราณและรับเป็นศิษย์ถ่ายทอดวิชาให้ สตรีแซ่เล้งมีนามว่ากระไร บุคคลภายนอกย่อมไม่อาจทราบได้ จึงเรียกขานนางเป็น เซียวเหล่งนึ่ง ซึ่งแปลว่า ธิดามังกรน้อย เซียวเหล่งนึ่งปรากฏตัวครั้งแรกให้ผู้อ่านได้ยลโฉม ด้วยฉากในสุสานโบราณ ตอนที่ยายซุนสาวใช้ของนาง นำเอี้ยก้วยมารักษาอาการพิษจากผึ้งหยก โดยกิมย้งท่านได้บรรยายไว้ว่า นางอยู่ในชุดสีขาวราวแพรเบาบางห่อหุ้มคลุมกาย คล้ายกับเรือนร่างอยู่ท่ามกลางหมอกควัน นอกจากผมเผ้าที่ดำขลับ ตลอดทั้งร่างขาวผ่องราวหิมะ วงหน้างามพิลาสล้ำเหนือหญิงใดในโลกหล้า เมื่อเอี้ยก้วยได้เห็นถึงกับรู้สึกว่าสตรีนางนี้สดใสสะคราญ จนไม่อาจจับจ้องมองตรง ๆ

ความงามของเซียวเหล่งนึ่ง

แก้

เซียวเหล่งนึ่งนั้นมีใบหน้าดูสงบเยือกเย็น บริสุทธิ์ดังหิมะ และเย็นชาราวน้ำแข็ง เอี้ยก้วยเองยังเคยครุ่นคิดว่าสตรีนางนี้ สร้างจากแก้วผลึก หรือว่าเป็นมนุษย์หิมะหรืออย่างไร ที่แท้เป็นคนหรือภูตผี หรือว่าเป็นเทพธิดาสวรรค์กันแน่ มิใช่เพียงแต่เฉพาะกับเอี้ยก้วยเท่านั้น ไม่ว่ากับผู้ใดทุกครั้งที่นางปรากฏกาย ล้วนตรึงสายตาผู้คนให้จับจ้อง กิมย้งได้บรรยายถึงความงามของนางไว้ในหลายฉากหลายตอน ดังเช่นเมื่อครั้งที่เซียวเหล่งนึ่งปรากฏตัวที่งานชุมนุมชาวยุทธ ได้หยุดสายตาของเหล่าชาวยุทธที่มาร่วมงานให้จับจ้องไปที่นาง

กิมย้งได้บรรยายในตอนนี้ว่า

ชนชาวโลกมักใช้คำ งดงามปานเทพธิดา เปรียบเปรยความงามของอิสตรี แต่ที่แท้เทพธิดางามสะคราญปานใด ไม่ว่าผู้ใดก็ไม่ทราบ แต่พอได้เห็นเซียวเหล่งนึง ในใจผู้คนล้วนประหวัดนึกถึงคำงดงามปานเทพธิดา ซึ่งมีผิวขาวผ่อง รอบกายคล้ายปกคลุมด้วยหมอกบางเบา คล้ายจริงคล้ายมายา หาใช่คนในโลกีย์วิสัยไม่ (เล่ม 2 หน้า 113)

บุคลิกลักษณะนิสัย

แก้

นอกจากความงามที่เหนือจากมนุษย์ทั่วไปแล้ว นางยังมีบุคลิกที่โดดเด่นแปลกพิสดาร เนื่องด้วยนางเติบโตมาในสุสานโบราณ จากการเลี้ยงดูของอาจารย์และยายซุน ผ่านชีวิตราวกับน้ำนิ่งไม่กระเพื่อม ไม่เคยได้ออกมาสู่โลกภายนอก จึงไม่รู้จักขนบธรรมเนียมใด ๆ ประกอบกับอาจารย์ให้นางฝึกวิชากำลังภายในตั้งแต่เล็ก สั่งนางขจัดซึ่งอารมณ์ยินดี เดือดดาล โศกเศร้า สุขสันต์ หากเห็นนางหัวเราะหรือร้องไห้จะลงโทษ ดังนั้นจึงเพาะสร้างเป็นนิสัยสันโดษเย็นชา ความรู้สึกต่าง ๆ บังเกิดขึ้นในจิตใจก็ผ่านเลยไป ล้วนไม่ผ่านการแสดงออกทางสีหน้า แต่ภายหลัง หลังจากเอี้ยก้วยเข้ามา ทำให้ความรู้สึกเปลี่ยนแปลงไป นางเริ่มมีจิตใจที่พลุกพล่านในบางครั้ง นิสัยที่เยือกเย็นไร้ความรู้สึกก็ถูกบั่นทอนลง เซียวเหล่งนึ่งเป็นผู้หญิงไร้เดียงสาอ่อนต่อโลก แต่ก็มิใช่คนโง่ บุคลิกที่โดดเด่นอีกอย่างของนางคือความใจเย็น มีสมาธิที่แน่วแน่ ทั้งดูสง่าน่าเลื่อมใสและดูน่าทะนุถนอมในเวลาเดียวกัน บุคลิกที่สง่างามของเธอนั้นติดตัวเธออยู่ตลอดเวลา ทั้งเวลาพูดจา เวลาต่อสู้ หรือแม้กระทั่งเวลานอนก็ยังคงดูสวยงามเป็นเอกลักษณ์ โดยนางจะนอนบนเส้นเชือก ซึ่งเริ่มนอนแบบนี้ตั้งแต่เอี้ยก้วยเข้ามาในสุสานโบราณ นางยกเตียงหยกเย็นให้เอี้ยก้วย ตัวเองเลยใช้เส้นเชือกแทนเตียง และก็นอนแบบนี้เรื่อยมา

วรยุทธ

แก้

ในด้านวรยุทธ นางก็มีวรยุทธที่ไม่ธรรมดา วิชาของสำนักสุสานโบราณเป็นวิชาของ ลิ้มเฉียวเอ็ง ยอดจอมยุทธหญิงในยุคก่อน มีวิชาที่หลากหลายทั้ง กระบี่ ฝ่ามือ อาวุธลับ และวิชาตัวเบาที่สูงส่งไม่เป็นสองรองใครในยุทธภพ ยังมีวิชาสุดยอดอย่างวิชาใน คัมภีร์สุรางคนางค์ใจพิสุทธิ์ (คัมภีร์สาวหยก สตรีหยกก็ว่า) นางยังได้นอนเตียงหยกเย็นตั้งแต่เด็กจนมีพลังภายในสูงส่ง อีกทั้งยังได้ฝึกวิชาเก้าอิมจินเก็งบางส่วนที่เฮ้งเต็งเอี๊ยงสลักไว้บนเพดานในสุสานโบราณอีกด้วย ภายหลังยังคงได้เรียนวิชาสองมือขัดแย้งจากจิวแป๊ะทง ทำให้สามารถใช้วิชากระบี่สุรางคนางค์ใจพิสุทธิ์ ด้วยตัวคนเดียวได้ นับเป็นวิชาที่ไม่มีใครเคยใช้มาก่อน มีความว่องไวสุดเปรียบปาน

อาวุธประจำกาย

แก้

สายรัดแพรสีขาว 2 เส้น ส่วนปลายผูกไว้ด้วยลูกกลมสีทอง เวลาขยับจะมีเสียงดังติก ๆ แม้ไม่ดังนัก แต่เวลาใช้ในการต่อสู้สามารถคุกคามจิตใจคนได้ สายรัดนี้คล่องแคล่วปราดเปรียวดุจอสรพิษ สามารถวกอ้อมได้กลางอากาศ บังคับลดเลี้ยวได้ดังใจปรารถนา เป็นอาวุธที่สวยงามและประหลาดยิ่ง ถุงมือถักทอจากเส้นใยทองคำขาวอันเล็กละเอียดและหยุ่นเหนียว เป็นสิ่งที่อาจารย์ของอาจารย์ (ลิ้มเฉียวเอ็ง) ตกทอดทิ้งไว้ แม้อ่อนนุ่มเบาบาง แต่ดาบหรือทวนมากระทบก็ไม่ระคาย เข็มผึ้งหยก เป็นอาวุธลับพิเศษเฉพาะของสำนักสุสานโบราณ โดยเป็นเข็มทองที่เล็กละเอียดดุจขนวัว ประกอบด้วยทองคำหกส่วน ผสมกับเหล็กกล้าสี่ส่วน ที่เหล็กในของผึ้งหยกผ่านการแช่น้ำพิษ แม้นมีขนาดเล็ก แต่เนื่องด้วยทองคำมีน้ำหนักมาก ขณะที่ซัดสามารถออกพุ่งไปได้ไกล

เซียวเหล่งนึ่ง ฉบับหลิว อี้เฟย์ ในปี 2006 เซียวเหล่งนึ่งคนล่าสุด ที่แสดงโดยหลิว อี้เฟย์ ได้สร้างความสนใจไม่น้อย เนื่องจาก กิมย้ง ได้ออกปากว่า อี้เฟย์เป็นเซียวเหล่งนึ่งที่ใกล้เคียงจินตนาการของท่านมากที่สุด ทำให้อี้เฟย์เป็นที่จับตามอง มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่าง ๆ มากมาย ทั้งในแง่บวกและแง่ลบ บ้างว่าเธอดูเด็กเกินไป บ้างว่าความสามารถทางการแสดงยังไม่ถึง บ้างก็ชื่นชมบอกว่าเป็นเซียวเหล่งนึ่งที่หลุดออกมาจากนิยายเลยทีเดียว ถ้าพูดถึงตามบทแล้วหน้าตาอี้เฟย์ในช่วงแรกก็ไม่ถือว่าเด็กไป เพราะในช่วงที่เซียวเหล่งนึ่งเปิดฉากออกมา นางอายุได้ 18 ปี ในขนะที่หน้าตายังอยู่ที่ประมาณ 16-17 ปี ซึ่งหน้าตาที่อ่อนวัยของอี้เฟย์ก็ค่อนข้างจะตรง แต่ถ้าเปรียบเทียบในแง่ความรู้สึก เธอก็อาจจะดูเด็กไปจริง ๆ ในด้านเสื้อผ้าที่ใช้ในภาคนี้มีความหรูหราอลังการ ค่อนข้างจะพิถีพิถัน มีรายละเอียดมาก และได้ออกแบบให้ดูทันสมัย มีกลิ่นอายทางยุโรปเข้ามาผสมอย่างลงตัว ถ้าพูดถึงความสมจริง ออกจะดูหรูหราผิดจากความเป็นจริงไปหน่อย แต่ถ้าพูดถึงความสวยงามแล้วหลายคนก็ให้ความเห็นว่าสวงงามตระการตาดีทีเดียว อีกส่วนหนึ่งที่หลายคนพูดถึงคือฉากต่อสู้ ในฉบับนี้มีการลงทุนสูงเทคนิคการถ่ายทำก็พัฒนาขึ้น เมื่อรวมกับความสามารถของอี้เฟย์ในการเต้นบัลเล่ต์ ทำให้ท่วงท่าในการต่อสู้ต่าง ๆ ออกมาอ่อนช้อยพลิ้วไหวสวยงาม ถือเป็นอีกจุดเด่นของเซียวเหล่งนึ่งภาคนี้ โดยรวมก็ถือเป็นเซียวเหล่งนึ่งอีกฉบับที่น่าดู ที่มีเอกลักษณ์แตกต่างออกไปจากฉบับก่อน ๆ