อู๋ ปังกั๋ว
อู๋ ปังกั๋ว (จีน: 吴邦国; พินอิน: Wú Bāngguó; 22 กรกฎาคม ค.ศ. 1941 – 8 ตุลาคม ค.ศ. 2024) เป็นนักการเมืองชาวจีนผู้ดำรงตำแหน่งสมาชิกอันดับสองของคณะกรรมาธิการสามัญประจำกรมการเมืองพรรคคอมมิวนิสต์จีนตั้งแต่ ค.ศ. 2002 ถึง 2022 และประธานคณะกรรมาธิการสามัญประจำสภาประชาชนแห่งชาติตั้งแต่ ค.ศ. 2003 ถึง 2013
อู๋ ปังกั๋ว | |||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|
吴邦国 | |||||||
![]() อู๋ใน ค.ศ. 2012 | |||||||
ประะานคณะกรรมาธิการสามัญประจำสภาประขาชนแห่งชาติ คนที่ 8 | |||||||
ดำรงตำแหน่ง 15 มีนาคม ค.ศ. 2003 – 14 มีนาคม ค.ศ. 2013 | |||||||
รอง | หวัง จ้าวกั๋ว | ||||||
ก่อนหน้า | หลี่ เผิง | ||||||
ถัดไป | จาง เต๋อเจียง | ||||||
รองนายกรัฐมนตรีจีน | |||||||
ดำรงตำแหน่ง 18 มีนาคม ค.ศ. 1995 – 16 มีนาคม ค.ศ. 2003 | |||||||
หัวหน้ารัฐบาล | หลี่ เผิง จู หรงจี | ||||||
เลขาธิการพรรคประจำนครเซี่ยงไฮ้ | |||||||
ดำรงตำแหน่ง 13 เมษายน ค.ศ. 1991 – 28 กันยายน ค.ศ. 1994 | |||||||
รอง | หฺวาง จฺวี๋ (นายกเทศมนตรี) | ||||||
ก่อนหน้า | จู หรงจี | ||||||
ถัดไป | หฺวาง จฺวี๋ | ||||||
ข้อมูลส่วนบุคคล | |||||||
เกิด | 22 กรกฎาคม ค.ศ. 1941[1] ผิงป้า กุ้ยโจว สาธารณรัฐจีน | ||||||
เสียชีวิต | 8 ตุลาคม ค.ศ. 2024 ปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน | (83 ปี)||||||
เชื้อชาติ | จีน | ||||||
พรรคการเมือง | พรรคคอมมิวนิสต์จีน | ||||||
คู่สมรส | จาง รุ่ยเจิน | ||||||
ศิษย์เก่า | มหาวิทยาลัยชิงหฺวา | ||||||
อาชีพ | วิศวกรอิเล็กทรอนิกส์ | ||||||
ชื่อภาษาจีน | |||||||
อักษรจีนตัวย่อ | 吴邦国 | ||||||
อักษรจีนตัวเต็ม | 吳邦國 | ||||||
| |||||||
อู๋เป็นวิศวกรไฟฟ้าโดยอาชีพ และมีชื่อเสียงทางการเมืองเพิ่มขึ้นระหว่างการทำงานของเขาในเซี่ยงไฮ้ ในช่วงต้นคริสต์ทศวรรษ 1980 เขาเป็นผู้รับผิดชอบงานที่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในเซี่ยงไฮ้ โดยทำงานร่วมกับเจียง เจ๋อหมิน ซึ่งขณะนั้นเป็นนายกเทศมนตรีและต่อมาเป็นเลขาธิการพรรคของเมือง ส่งผลให้อู๋เข้าสังกัดกลุ่มการเมืองของเจียง เขาดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคประจำเซี่ยงไฮ้ใน ค.ศ. 1991 สืบต่อจากจู หรงจี ทำให้เขาได้รับที่นั่งในกรมการเมืองพรรคคอมมิวนิสต์จีนใน ค.ศ. 1992
เขาดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีอันดับสามของประเทศใน ค.ศ. 1995 โดยมีหน้าที่รับผิดชอบรัฐวิสาหกิจและการก่อสร้างเขื่อนสามผา เขาเข้าร่วมคณะกรรมาธิการสามัญประจำกรมการเมืองใน ค.ศ. 2002 และได้รับแต่งตั้งเป็นประธานคณะกรรมาธิการสามัญประจำสภาประชาชนแห่งชาติใน ค.ศ. 2003 ในฐานะหนึ่งในเจ้าหน้าที่ระดับสูงสุดภายใต้หู จิ่นเทา เลขาธิการพรรค อู๋ได้รับการพิจารณาโดยทั่วไปว่ามีจุดยืนอนุรักษ์นิยมต่อการปฏิรูปการเมืองในระหว่างดำรงตำแหน่งของเขา เขาลงจากตำแหน่งกรรมาธิการสามัญประจำกรมการเมืองใน ค.ศ. 2012 และจาง เต๋อเจียงขึ้นดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการสามัญประจำสภาประชาชนแห่งชาติใน ค.ศ. 2013 แทน
ชีวิตช่วงต้น
แก้อู๋เกิดเมื่อ 22 กรกฎาคม ค.ศ. 1941 ในผิงป้า มณฑลกุ้ยโจว[1][2] มีรากเหง้าบรรพบุรุษอยู่ในเฝย์ตง มณฑลอานฮุย อู๋ จงซิง พ่อของเขา เป็นนักทำแผนที่ที่ทำงานเกี่ยวกับการฉายแผนที่[3] เขาเข้าศึกษาที่มหาวิทยาลัยชิงหฺวาใน ค.ศ. 1960 โดยเรียนวิชาวิศวกรรมหลอดสุญญากาศที่ภาควิชาวิทยุอิเล็กทรอนิกส์ และจบการศึกษาใน ค.ศ. 1967[4] เขาเข้าร่วมพรรคคอมมิวนิสต์จีนใน ค.ศ. 1964[5] หลังจบการศึกษา เขาได้รับการว่าจ้างเป็นคนงานและช่างเทคนิคที่โรงงานหลอดอิเล็กทรอนิกส์ที่ 3 ของเซี่ยงไฮ้ และต่อมาเป็นรองหัวหน้าและหัวหน้าแผนกเทคนิคตั้งแต่ ค.ศ. 1976 ถึง 1978 ในที่สุดเขาจะก้าวขึ้นเป็นผู้นำโรงงานในฐานะเลขาธิการพรรคประจำโรงงาน ใน ค.ศ. 1978 เขาได้รับมอบหมายให้เป็นรองผู้จัดการบริษัท Shanghai Electronic Elements Company และระหว่าง ค.ศ. 1979 ถึง 1981 เป็นรองผู้จัดการบริษัท Shanghai Electron Tube Company ระหว่าง ค.ศ. 1981 ถึง 1983 เขาทำงานเป็นรองเลขาธิการสำนักมาตรวัด เครื่องมือ และโทรคมนาคมเซี่ยงไฮ้
อาชีพการเมือง
แก้การทำงานของอู๋ในบริษัทอิเล็กทรอนิกส์ทำให้เขาได้รับตำแหน่งในระดับสูงของอำนาจในเมือง เขาเป็นส่วนหนึ่งของคณะกรรมาธิการพรรคประจำเซี่ยงไฮ้ใน ค.ศ. 1983 ทำให้เขากลายเป็นส่วนหนึ่งของวงในทางการเมืองของเซี่ยงไฮ้อย่างมีประสิทธิภาพ และได้รับมอบหมายให้ดูแลงานที่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี[5] ในช่วงเวลานี้ เขาทำงานร่วมกับเจียง เจ๋อหมิน นายกเทศมนตรีและต่อมาเป็นเลขาธิการพรรคประจำเมืองนั้น[5] ระหว่าง ค.ศ. 1985 ถึง 1991 อู๋ถูกเลื่อนตำแหน่งเป็นรองเลขาธิการพรรคประจำเซี่ยงไฮ้ และต่อมาเป็นเลขาธิการพรรคประจำเซี่ยงไฮ้สืบต่อจากเจียง ในช่วงที่เขาดำรงตำแหน่งในเซี่ยงไฮ้ เขาถูกมองว่าเป็นเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบมากที่สุดในการพัฒนาเขตผู่ตงใหม่[4]
เมื่อสถานะทางการเมืองและเศรษฐกิจของเซี่ยงไฮ้เติบโตขึ้นจากการปฏิรูปเศรษฐกิจ อู๋ก็ได้รับที่นั่งในกรมการเมืองของพรรคคอมมิวนิสต์จีน สภาปกครองของจีน ใน ค.ศ. 1992 ต่อมาใน ค.ศ. 1995 เขาได้รับแต่งตั้งเป็นรองนายกรัฐมนตรีอันดับสามภายใต้นายกรัฐมนตรีหลี่ เผิง ในช่วงเวลานี้ เขาดำรงตำแหน่งในส่วนงานที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมและการปฏิรูปรัฐวิสาหกิจ และยังดูแลโครงการเขื่อนสามผาด้วย[5] เขาดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีต่อมาในสมัยของจู หรงจี และอยู่ในตำแหน่งนั้นจนถึง ค.ศ. 2003[ต้องการอ้างอิง]
ประธานสภาประชาชนแห่งชาติ
แก้ในการประชุมสภาแห่งชาติพรรคครั้งที่ 16 ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2002 อู๋เข้าสู่กลุ่มผู้มีอำนาจสูงสุดของประเทศ โดยดำรงตำแหน่งเป็นอันดับสองในคณะกรรมาธิการสามัญประจำกรมการเมืองพรรคคอมมิวนิสต์จีน เป็นรองเพียงหู จิ่นเทา เลขาธิการใหญ่ในขณะนั้นเท่านั้น ใน ค.ศ. 2003 ในการประชุมครั้งแรกของสภาประชาชนแห่งชาติชุดที่ 10 เขาได้รับแต่งตั้งเป็นประธานคณะกรรมาธิการสามัญประจำสภาประชาชนแห่งชาติ ในการประชุมครั้งแรกของสภาประชาชนแห่งชาติชุดที่ 11 เขาได้รับการเลือกอีกกลับมาดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการสามัญประจำสภาประชาชนแห่งชาติอีกครั้งในวันที่ 15 มีนาคม ค.ศ. 2008[6] กลายเป็นบุคคลแรกที่ดำรงตำแหน่งประธานฯ มากกว่าสองสมัยนับตั้งแต่จู เต๋อ[7]
ในช่วงที่เขาดำรงตำแหน่ง อู๋ได้รับการยกย่องโดยทั่วไปว่าเป็นสมาชิกของกลุ่มเซี่ยงไฮ้และเป็นผู้ร่วมงานของเจียง เจ๋อหมิน[8] โดยทั่วไปแล้วเขาใช้แนวทางอนุรักษ์นิยมต่อการปฏิรูป[5][8] เขาถูกบรรยายว่ามีบทบาทไม่โดดเด่นนักในช่วงดำรงตำแหน่ง[8]
ระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์เกี่ยวกับกฎหมายพื้นฐานฮ่องกงในฮ่องกงในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2007 อู๋เตือนว่าฮ่องกงมีอำนาจแค่เท่าที่ปักกิ่งให้เท่านั้น และรัฐบาลเขตปกครองพิเศษเป็นแบบนำโดยฝ่ายบริหารและไม่ควรทำตามระบบตะวันตกอย่างสุ่มสี่สุ่มห้า[9] เขายังกล่าวอีกว่ารัฐบาลกลางสนับสนุนการพัฒนาประชาธิปไตยของฮ่องกง ตราบใดที่อยู่ภายในขอบเขตของกฎหมายพื้นฐานฮ่องกง แม้คำพูดเหล่านั้นจะเปิดช่องให้ตีความได้หลายแบบ แต่ก็ก่อให้เกิดข้อถกเถียงอย่างมากในฮ่องกง โดยนักการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยเรียกมันว่าเป็นการท้าทายต่ออำนาจปกครองตนเองของดินแดน[9]
ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการสามัญประจำสภาประชาชนแห่งชาติ อู๋กล่าวสุนทรพจน์ประจำปีในการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติในเดือนมีนาคมของทุกปี สุนทรพจน์เหล่านี้กล่าวไว้เสมอว่าจีนจะไม่นำระบอบประชาธิปไตยแบบหลายพรรค การแยกใช้อำนาจ หรือระบบสหพันธรัฐมาใช้[10] ใน ค.ศ. 2011 อู๋เสนอ "ห้าสิ่งที่ไม่ทำ" (五不搞) โดยประกาศว่า "[พวกเรา] ประกาศอย่างจริงจังว่าเราจะไม่ใช้ระบบหลายพรรคผลัดกันดำรงตำแหน่ง การกระจายอุดมการณ์ชี้นำ การแยกใช้อำนาจและระบบสองสภา ระบบสหพันธรัฐ หรือการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ"[10]
วันที่ 16 กรกฎาคม ค.ศ. 2012 อู๋เข้าร่วมพิธีเปิดตัวยานอวกาศที่มีมนุษย์โดยสารเฉินโจว 9[11]
อู๋เกษียณจากคณะกรรมาธิการสามัญประจำกรมการเมืองพรรคคอมมิวนิสต์จีนในการประชุมพรรคครั้งที่ 18 ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2012 และจาง เต๋อเจียง สืบทอดตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการสามัญประจำสภาประชาชนแห่งชาติต่อในเดือนมีนาคม ค.ศ. 2013[8] ในการกล่าวสุนทรพจน์ครั้งสุดท้ายในฐานะประธานฯ เขากล่าวว่า "เราจะไม่ลอกเลียนแบบระบบการเมืองตะวันตกอย่างเด็ดขาด"[4]
หลังเกษียณ
แก้เช่นเดียวกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่เกษียณอายุคนอื่น ๆ ในจีน อู๋หยุดปรากฏตัวต่อสาธารณะยกเว้นการเข้าร่วมกิจกรรมสำคัญ เช่น งานฉลองวันชาติ ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 2015 อู๋ถูกถ่ายภาพขณะเยี่ยมชมไร่ผักกาดก้านขาวในอู้ยฺเหวียน มณฑลเจียงซี[8]
อู๋เสียชีวิตเมื่อเวลา 04:36 น. ของวันที่ 8 ตุลาคม ค.ศ. 2024 ด้วยวัย 83 ปี[4] พิธีอำลาจัดขึ้นในวันที่ 14 ตุลาคม โดยสี จิ้นผิง, หลี่ เฉียง, จ้าว เล่อจี้, หวัง ฮู่หนิง, ไช่ ฉี, ติง เซฺวเสียง, หลี่ ซี, หาน เจิ้ง และผู้นำคนอื่น ๆ มาแสดงความเคารพครั้งสุดท้ายที่สุสานปฏิวัติปาเป่าชาน ขณะที่หู จิ่นเทาได้ส่งพวงหรีดมา ร่างของเขาถูกเผาในวันเดียวกัน[12] ธงชาติถูกลดครึ่งเสาที่อาคารรัฐบาลจีน สถานทูต และในฮ่องกงและมาเก๊า[13]
ดูเพิ่ม
แก้อ้างอิง
แก้- ↑ 1.0 1.1 "吴邦国同志生平" [Biography of Comrade Wu Bangguo]. สืบค้นเมื่อ 14 October 2024.
- ↑ "Wu Bangguo: I have many stories in Guizhou" (ภาษาจีน). China Economic Net. 6 March 2008.
- ↑ 王盛水 (2012). "胸中自有万里江山——记测绘制图学家吴忠性". 江淮文史. 安徽省政协文化文史和学习委员会 (6): 109–123. ISSN 1005-572X.
- ↑ 4.0 4.1 4.2 4.3 Dang, Yuanyue (8 October 2024). "Wu Bangguo, formerly China's No 2 official, dies at age 83". South China Morning Post. สืบค้นเมื่อ 8 October 2024.
- ↑ 5.0 5.1 5.2 5.3 5.4 "Wu Bangguo: Vice-Premier". BBC News. สืบค้นเมื่อ 18 June 2023.
- ↑ "Wu Bangguo reelected chairman of NPC Standing Committee". Xinhua News Agency. 15 March 2008. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 20 March 2008. สืบค้นเมื่อ 18 June 2023.
- ↑ Lin, Xia (15 July 2015). "盘点历任全国人大常委会委员长:叶剑英彭真上任时最年长" [Review of the past chairmen of the NPC Standing Committee: Ye Jianying and Peng Zhen were the oldest when they took office]. The Paper. สืบค้นเมื่อ 15 October 2024.
- ↑ 8.0 8.1 8.2 8.3 8.4 "Retired leader Wu Bangguo makes rare public appearance". South China Morning Post. 25 March 2015. สืบค้นเมื่อ 18 June 2023.
- ↑ 9.0 9.1 "Wu warning on limited power stuns Hong Kong". The Standard HK. 7 June 2007. สืบค้นเมื่อ 31 March 2012.
- ↑ 10.0 10.1 "吴邦国:中国不搞多党轮流执政" [Wu Bangguo: China does not practice the system of multiple parties holding office in rotation]. BBC News. 10 March 2011. สืบค้นเมื่อ 8 October 2024.
- ↑ "God nine astronauts launch soon enter the spacecraft cabin" (ภาษาจีน). China News net. 2012.
- ↑ "吴邦国同志遗体火化 习近平等到八宝山革命公墓送别" [Comrade Wu Bangguo's body was cremated, Xi Jinping arrived to bid farewell at the Babaoshan Revolutionary Cemetery]. State Council of the People's Republic of China. 14 October 2024. สืบค้นเมื่อ 15 October 2024.
- ↑ "Flags at half-mast to mourn Wu Bangguo's passing". RTHK. 14 October 2024. สืบค้นเมื่อ 15 October 2024.