พระยาวิชิตภักดี (เต็งกูสุไลมานชารีฟุดดีน)

พระยาวิชิตภักดีศรีสุรวังษารัตนาเขตประเทศราช (เต็งกูสุไลมานชารีฟุดดีน หรือ ต่วนบอสู) (มลายู: Tengku Sulaiman Sharifuddin) เป็นพระยาเมืองปัตตานีในช่วงปี พ.ศ. 2433-2442 โดยเป็นรายาปัตตานีองค์ที่ 10

พระยาวิชิตภักดี (เต็งกูสุไลมานชารีฟุดดีน)
เกิดวังจะบังตีกอ
สัญชาติมลายู
ตำแหน่งเจ้าเมืองปัตตานี
บุตร4 องค์
บิดามารดา
  • พระยาวิชิตภักดี (ตนกูปะสา หรือ เต็งกูมูฮัมหมัด) (บิดา)

ในสมัยเต็งกูสุไลมานชารีฟุดดีน ได้พยายามพัฒนาเมืองปัตตานีให้มีความเจริญก้าวหน้า เช่นมีการขุดและขยายคลองให้กว้างขึ้น สร้างมัสยิดขึ้นใหม่ใกล้วังจะบังตีกอ เรียกว่า "มัสยิดรายาจะบังตีกอ" ในขณะที่เต็งกูสุไลมานชารีฟุดดีนปกครองเมืองปัตตานีประมาณ 10 ปี ไม่ได้ประทับอยู่ในวังจะบังตีกอ แต่ได้สร้างวังใหม่ขึ้นทางด้านทิศตะวันออกของวังจะบังตีกอ[1]

หลังจากเต็งกูสุไลมานชารีฟุดดีนถึงแก่พิราลัย เต็งกูอับดุลกอเดร์ กามารุดดีนได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าเมืองปัตตานีโดยได้รับบรรดาศักดิ์เป็นพระยาวิชิตภักดีศรีสุรวังษารัตนาเขตประเทศราช แทนพระบิดาและถือเป็นเชื้อสายราชวงศ์กลันตันองศ์สุดท้ายที่ปกครองเมืองปัตตานี ในขณะเต็งกูอับดุลกอเดร์ กามารุดดีนปกครองเมืองปัตตานีได้ประทับอยู่ที่วังใหม่ต่อจากพระบิดา แต่เป็นที่น่าเสียดายที่วังดังกล่าวสร้างด้วยไม้ทั้งหลังจึงไม่อาจทนทานต่อกาลเวลา ปัจจุบันบริเวณวังใหม่ดังกล่าวกลายเป็นที่รกร้างไม่มีร่องรอยสิ่งก่อสร้างหลงเหลืออีกต่อไป

พระประวัติ แก้

พระยาวิชิตภักดี เต็งกูสุไลมานชารีฟุดดีน เป็นโอรสในพระยาวิชิตภักดี (ตนกูปะสา) โดยมีพระพี่น้องร่วมกัน 6 องค์ ดังนี้

  1. เต็งกูปูเตะ เจ้าเมืองปัตตานีองค์ที่ 8
  2. เต็งกูบูลัค (ตนกูฮาญีตูวอร์)
  3. เต็งกูฮุเซ็น (ตนกูนิมันดาร์ฮัน)
  4. ต่วนบอซู (เต็งกูสุไลมานชารีฟุดดีน) เจ้าเมืองปัตตานีองค์ที่ 10
  5. เต็งกูตัมบัล ชายาพระยาเมืองรามัน
  6. เต็งกูลาโบะฮ์ ชายาตนกูจิ โอรสในตนกูบังโงย

โอรสธิดา แก้

พระยาวิชิตภักดี (เต็งกูสุไลมานชารีฟุดดีน) มีโอรสธิดา 4 องค์ ได้แก่

  1. เต็งกูสุหลง ชายาตนกูบิตารา ชายาท่านนี้มีมารดาคือเต็งกูนิปูเตะ ธิดารายาเมืองสายบุรี
  2. เต็งกูบือซาร์ ต่วนกัมบัล ชายาตนกูมูฮัมหมัด อุปราชเมืองปัตตานี
  3. เต็งกูอับดุลกอเดร์ กามารุดดีน เจ้าเมืองปัตตานีองค์ที่ 11 และเป็นเจ้าเมืองปัตตานีองค์สุดท้าย
  4. เต็งกูมูฮัมหมัดซอและ

อ้างอิง แก้