สัญญา (ชุดไมรอน โบลิทาร์)

(เปลี่ยนทางจาก สัญญา (นิยาย))

สัญญา (อังกฤษ: Promise Me) เป็นนวนิยายแนวสืบสวนสอบสวน/ระทึกขวัญ เขียนโดย ฮาร์ลาน โคเบน งานเขียนชิ้นนี้เป็นลำดับที่ 8 ในชุดนักสืบ ไมรอน โบลิทาร์ โคเบนกลับมาเขียนในชุดนี้อีกครั้ง หลังจากเล่มล่าสุดในตอนนั้นคือ ลับ (Darkest Fear) ออกวางจำหน่ายเมื่อ 6 ปีก่อน

สัญญา  
ไฟล์:สัญญา Promise Me ปกเก่า.jpg
ผู้ประพันธ์ฮาร์ลาน โคเบน
ชื่อเรื่องต้นฉบับ'Promise Me'
ผู้แปลมณฑารัตน์ ทรงเผ่า
ประเทศสหรัฐอเมริกา
ภาษาอังกฤษ
ประเภทสืบสวนสอบสวน, ระทึกขวัญ
สำนักพิมพ์สหราชอาณาจักร สำนักพิมพ์โอไรออน
ไทย แพรวสำนักพิมพ์
วันที่พิมพ์สหราชอาณาจักร พฤษภาคม พ.ศ. 2549
ไทย พ.ศ. 2550
เรื่องก่อนหน้าลับ (Darkest Fear) 
เรื่องถัดไปแลก (Long Lost) 

ฉบับภาษาอังกฤษ ตีพิมพ์โดยสำนักพิมพ์โอไรออน เมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2549 สำหรับฉบับภาษาไทย แปลโดยมณฑารัตน์ ทรงเผ่า ตีพิมพ์โดยแพรวสำนักพิมพ์ เมื่อปี พ.ศ. 2550

เรื่องย่อ แก้

หกปีมาแล้ว หลังจากที่ไมรอน โบลิทาร์เลิกทำตัวเป็นฮีโร่ คอยสืบเรื่องของคนนั้นคนนี้ เป็นเวลาหกปีที่เขาไม่ได้ชกต่อยกับใคร ไม่ได้จับ หรือยิงปืน เขาไม่ได้โทรหาวิน เพื่อนรัก ให้มาช่วยเขาหรือมาเป็นกำลังเสริม และทุกสิ่งทุกอย่างกำลังจะเปลี่ยนไป

เพียงเพราะคำ “สัญญา”...

เป็นคำสัญญาง่ายๆ เนื่องจากไมรอนเคยเสียเพื่อนไปจากอุบัติเหตุรถยนต์สมัยอยู่ไฮสกูล คืนวันหนึ่งในงานปาร์ตี้ เขาจึงให้สัญญากับเอมีและแคลร์ เด็กสาวสองคนผู้เป็นลูกสาวของเพื่อนว่า หากพวกเธออยู่นอกบ้านและเจอปัญหาอะไร แต่ไม่กล้าโทร.หาพ่อแม่ ขอให้โทร.หาเขา ไม่ว่าเขาจะอยู่ที่ไหน ไม่ว่าตอนนั้นจะเป็นเวลาอะไร เขาจะไปรับและจะช่วยเหลือพวกเธอทุกอย่าง โดยจะไม่ถามอะไรทั้งสิ้น

หลายคืนต่อมา ไมรอนได้รับโทรศัพท์จากเอมี ขอให้เขาไปรับเธอจากมิดทาวน์แมนฮัตตันไปส่งที่บ้านเพื่อนเธอในนิวเจอร์ซี วันรุ่งขึ้น พ่อแม่ของเด็กสาวแจ้งความว่าลูกสาวหายตัวไปและไมรอนก็เป็นคนสุดท้ายที่เจอเธอ และเมื่อหลักฐานที่พบภายหลังบ่งชี้ว่าคดีหายตัวครั้งนี้มีความเกี่ยวโยงกับการหายตัวไปอย่างลึกลับของ เคที โรเชสเตอร์ เด็กสาวอีกคน ไมรอนจึงกลายเป็นผู้ต้องสงสัยอันดับหนึ่งของทั้งสองคดี

แต่สำหรับไมรอน ทุกคนที่เกี่ยวข้องกับเคทีล้วนน่าสงสัย เพราะต่างก็มีความลับ และต่างก็พร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อปกปิดความลับนั้นไว้[1]

อ้างอิง แก้

  1. "สัญญา (Promise me)". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-04. สืบค้นเมื่อ 2012-10-09.