สถาปัตยกรรมจีน เป็นรูปแบบสถาปัตยกรรมที่พัฒนามานับพันปี ก่อนที่จะมีอิทธิพลต่อสถาปัตยกรรมในภูมิภาคเอเชียตะวันออก ตั้งแต่มีความชัดเจนในรูปแบบในช่วงต้นของราชวงศ์ องค์ประกอบที่สำคัญของสถาปัตยกรรมยังคงไม่มีการเปลี่ยนแปลง สิ่งที่เปลี่ยนแปลงมีเพียงรายละเอียดการตกแต่ง โดยเริ่มตั้งแต่ราชวงศ์ถัง สถาปัตยกรรมจีนมีอิทธิพลโดยตรงต่อรูปแบบสถาปัตยกรรมของญี่ปุ่น เกาหลี มองโกล และเวียดนาม รวมถึงมีอิทธิพลบางส่วนกับสถาปัตยกรรมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียใต้ อาทิ มาเลเซีย สิงคโปร์ ศรีลังกา ไทย ลาว กัมพูชา และฟิลิปปินส์[1][2][3][4][5][6][7]

หอสักการะฟ้า

สถาปัตยกรรมจีนมีลักษณะที่สำคัญได้แก่ มีความสมมาตรทั้งสองแกน, มีพื้นที่เปิดที่โอบล้อม, มีแนวคิดที่เกี่ยวข้องกับฮวงจุ้ย เช่น ลำดับชั้นของทิศทาง, การให้ความสำคัญกับแนวพื้นดิน และการอ้างถึงจักรวาลวิทยา, นิยายปรัมปรา และสัญลักษณ์นิยม

อ้างอิง

แก้
  1. L. Carrington Goodrich (2007). A Short History of the Chinese People. Sturgis Press. ISBN 978-1406769760.
  2. McCannon, John (19 March 2018). Barron's how to Prepare for the AP World History Examination. Barron's Educational Series. ISBN 9780764118166. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 20 March 2018. สืบค้นเมื่อ 19 March 2018 – โดยทาง Google Books.
  3. Formichi, Chiara (1 October 2013). Religious Pluralism, State and Society in Asia. Routledge. ISBN 9781134575428. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 20 March 2018. สืบค้นเมื่อ 19 March 2018 – โดยทาง Google Books.
  4. Sthapitanond, Nithi; Mertens, Brian (19 March 2018). Architecture of Thailand: A Guide to Tradition and Contemporary Forms. Editions Didier Millet. ISBN 9789814260862. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 20 March 2018. สืบค้นเมื่อ 19 March 2018 – โดยทาง Google Books.
  5. Winks, Robin (21 October 1999). The Oxford History of the British Empire: Volume V: Historiography. OUP Oxford. ISBN 9780191542411. สืบค้นเมื่อ 19 March 2018 – โดยทาง Google Books.
  6. Bandaranayake, S. D. (19 March 1974). Sinhalese Monastic Architecture: The Viháras of Anurádhapura. BRILL. ISBN 9004039929. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 20 March 2018. สืบค้นเมื่อ 19 March 2018 – โดยทาง Google Books.
  7. ddmdomag (2013-04-09). "Filipino-Chinese Coalitions". openthedorr (ภาษาอังกฤษ). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 20 October 2014. สืบค้นเมื่อ 2019-03-09.