วัดอัมพวา (กรุงเทพมหานคร)

วัดในกรุงเทพมหานคร

วัดอัมพวา ตั้งอยู่เลขที่ 109 ถนนอิสรภาพ 37 และถนนจรัญสนิทวงศ์ 22 แขวงบ้านช่างหล่อ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร สังกัด คณะสงฆ์มหานิกาย มีที่ดินตั้งวัด เนื้อที่ 8 ไร่ อาณาเขตทิศเหนือ ติดต่อกับซอยวัดอัมพวา ทิศใต้ติดกับที่เอกชน ทิศตะวันออกติดกับกองรถยนต์ กองช่าง ขส.ทร. ทิศตะวันตกติดกับอาคารบ้านเรือนราษฎรและโรงเรียนวัดอัมพวา วัดอัมพวา สร้างขึ้นเมื่อประมาณ พ.ศ. 2211 ในสมัยอยุธยา ไม่ปรากฏหลักฐานว่าใครเป็นผู้สร้าง แต่เดิมบริเวณนี้เป็นพื้นที่สวน วัดตั้งอยู่ทิศตะวันตกวังสวนอนันต์ กรมการขนส่งทหารเรือ วัดอัมพวา ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา ประมาณ พ.ศ. 2216 (กรมการศาสนา,2526 358-359) ใบเสมารัชกาลที่ 1 เป็นเสมาคู่ หรืออาจจะเป็นใบเสมาสมัยกษัตริย์รัชกาลสุดท้ายของอยุธยาก็ได้ สองสมัยนี้ ใบเสมาแบบอย่างเหมือนกัน ใบเสมาแบบอย่างเหมือนกัน ใบเสมาทำซุ้มเป็นกูบช้าง ด้านหลังอุโบสถมีเจดีย์ทรงกลมใหญ่ เป็นแบบรัชกาลที่ 4 แสดงว่า ต้องมาปฏิสังขรณ์ใหญ่สมัยรัชกาลที่ 4 (น.ณ.ปากน้ำ)

วัดอัมพวา
แผนที่
ที่ตั้งเลขที่ 109 แขวงบ้านช่างหล่อ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร 10700
ประเภทวัดราษฎร์
นิกายมหานิกาย
พระพุทธศาสนา ส่วนหนึ่งของสารานุกรมพระพุทธศาสนา

ทั้งอุโบสถ และเจดีย์ใหญ่หนึ่งเจดีย์ และเจดีย์เล็กสองเจดีย์ เป็นปูชนียสถานเก่าแก่สันนิษฐานว่าสร้างตอนปลายสมัยอยุธยา มีปูชนียวัตถุ พระประธาน หน้าตัก กว้าง 4 ศอก พระพักตร์ มีลักษณะประติมากรรมแบบอู่ทอง พระพุทธรูปสมัยสุโขทัยสัมฤทธิ์ 4 องค์ ปัจจุบันเหลือ 3 องค์ ภาพเขียนที่บานประตูหน้าต่างหลังอุโบสถสมัยโบราณ (ปัจจุบันไม่พบ) มีภาพจิตรกรรมฝาผนัง ทั้งภายในอุโบสถ และภายในวิหารหลวงปู่นาค

จากแนวคิดที่ศึกษามีความเชื่อสนับสนุนตามแนวคิดของ น.ณ. ปากน้ำ และกรมการศาสนา วัดอัมพวา น่าจะสร้างในสมัยอยุธยาช่วงเจริญรุ่งเรือง ดังตัวอย่างที่กล่าว ในสมัยสมเด็จพระชัยราชาธิราช (2085) โปรดให้ขุดคลองแม่น้ำเจ้าพระยาใหม่ เพื่อสะดวกในการค้าขายในบริเวณดินแดนแถบนี้ประชาชนมาอาศัยจำนวนหนาแน่นที่สุด เริ่มเป็นเมืองด้านการค้าขายที่สำคัญ วัดอัมพวา อาจจะเริ่มก่อตัวในสมัยนั้นก็ได้ (กรองแก้ว บูรณะกิจ และสว่าง ขวัญบุญ ; 75)

พื้นที่ตั้งวัด เป็นที่สัญจรไปมาสะดวกสบาย มีซอยต่อเชื่อมระหว่างถนนอิสรภาพ ซอย 37 กับถนนจรัญสนิทวงศ์ ซอย 22 การคมนาคมสะดวก อาคารเสนาสนะ มีอุโบสถกว้าง 8 เมตร ยาว 26 เมตร ก่ออิฐถือปูน เจดีย์ทรงระฆังคว่ำด้านหลังอุโบสถ 1 ปาง มีวิหารหลวงปู่นาค กว้าง 7เมตร ยาว 14.30 เมตร อาคารคอนกรีต วิหารหลวงปู่แป้น กว้าง 7 เมตร ยาว 14 เมตร ก่ออิฐถือปูนวิหารสมเด็จพุฒาจารย์ (โต พรหมรํสี) ก่ออิฐถือปูน กุฏิสงฆ์ขนาดสงฆ์ขนาดเล็ก 4 ห้อง จำนวน 2 หลัง กุฏิสงฆ์ขนาดใหญ่สองชั้น 12 ห้อง จำนวน 1 หลัง กุฏิสงฆ์ขนาดเล็กสองชั้น 6 ห้อง จำนวน 1 หลัง ศาลาการเปรียญกว้าง 14 เมตร ยาว 36 เมตร 1 หลัง อาคารคอนกรีต หอระฆัง 1 หลัง เมรุ 1 หลัง ศาลาการบำเพ็ญกุศล 2 หลัง ด้านการศึกษา ทางวัดสนับสนุนให้พระภิกษุสามเณรศึกษาพระปริยัติธรรมจากสำนักเรียนต่างๆ ได้ตามอัธยาศัย และเป็นประเพณีปฏิบัติมาช้านาน นอกจากนั้นยังให้ทางราชการสร้างโรงเรียนขึ้นในวัดเป็นการสนับสนุนการศึกษาของชาติอีกด้วย

ปัจจุบันมีพระภิกษุสามเณรศึกษาเล่าเรียนจำนวนมากตั้งแต่ระดับปริยัติธรรมแผนธรรม นักธรรมตรี โท – เอก และบาลี ตั้งแต่ประโยค 1-2 เป็นต้นไป

เจ้าอาวาสวัดอัมพวา แก้

  • พระอาจารย์ ตา (เก่งทางสมถะกัมมัฏฐาน)
  • พระอาจารย์ พุก
  • พระอาจารย์ ปลื้ม
  • พระอาจารย์ จัน
  • พระอาจารย์ นุ้ย (หลวงอาพระครูแป้น)
  • พระครูแป้น รชโฏ (พ.ศ. 2456-250)
  • พระครูโสภณพัฒนกิจ (ปัจจุบัน เป็น พระราชพัฒนโสภณ เจ้าอาวาสวัดชิโนรสารามวรวิหาร พ.ศ 2553)
  • พระครูโสภณวิมลกิจ (พ.ศ. 2527 - 2545)
  • พระครูวุฒิธรรมานันท์ เจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน

อ้างอิง แก้