ระบบการรบเอจีส เป็นระบบอาวุธทางเรือแบบบูรณาการของสหรัฐอเมริกา ซึ่งใช้คอมพิวเตอร์และเรดาร์ในการติดตามและนำทางอาวุธเพื่อทำลายเป้าหมายของศัตรู ระบบนี้ถูกพัฒนาโดยหน่วยงาน Missile and Surface Radar Division ของบริษัท RCA และปัจจุบันผลิตโดยบริษัทล็อกฮีด มาร์ติน

ยูเอสเอส เลคแชมเปญ,เรือลาดตระเวนชั้นติคอนเดอโรกา ติดตั้งระบบการรบเอจีส

เริ่มแรกระบบนี้ถูกใช้โดยกองทัพเรือสหรัฐฯ แต่ในปัจจุบันระบบเอจีส ได้ถูกใช้งานโดยกองกำลังป้องกันตนเองทางทะเลของญี่ปุ่น กองทัพเรือสเปน กองทัพเรือนอร์เวย์ กองทัพเรือสาธารณรัฐเกาหลี และราชนาวีออสเตรเลีย นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะใช้งานโดยราชนาวีแคนาดาอีกด้วย ณ ปี 2022 มีเรือที่ติดตั้งระบบ Aegis ทั้งหมด 110 ลำ และมีแผนติดตั้งเพิ่มเติมอีก 71 ลำ

นิรุกติศาสตร์

แก้

คำว่าเอจีส "Aegis" เป็นการอ้างอิงที่ย้อนกลับไปยังตำนานเทพเจ้ากรีก โดยมีความหมายถึง"โล่ป้องกัน" เนื่องจากเอจีสเป็นโล่ของเทพเจ้าซูส ซึ่งถูกสวมใส่โดยเทพีอะธีนา

ภาพรวม

แก้
 
แผนภาพระบบการรบเอจีส

ระบบการรบเอจีส ประกอบด้วยคำสั่งและการควบคุมขั้นสูง ประกอบไปด้วยระบบอาวุธเอจีส (Aegis Weapon System หรือ AWS) ซึ่งเป็นระบบที่ตอบสนองอย่างรวดเร็ว ระบบการป้องกันภัยทางอากาศของเอจีส (Anti-Aircraft Warfare หรือ AAW) รวมทั้งระบบอาวุธระยะประชิดแฟลังซ์ หรือ CIWS และระบบยิงแนวตั้งมาร์ค 41 (Mark 41 Vertical Launch System หรือ Mk 41 VLS)

Mk 41 VLS มีหลายเวอร์ชันที่แตกต่างกันในขนาดและน้ำหนัก โดยมีความยาวสามขนาด ได้แก่ 209 นิ้ว (5.3 เมตร) สำหรับรุ่นป้องกันตัวเอง, 266 นิ้ว (6.8 เมตร) สำหรับรุ่นยุทธวิธี, และ 303 นิ้ว (7.7 เมตร) สำหรับโจมตี น้ำหนักเปล่าสำหรับโมดูล 8 เซลล์คือ 26,800 ปอนด์ (12,200 กิโลกรัม) สำหรับรุ่นป้องกันตัวเอง 29,800 ปอนด์ (13,500 กิโลกรัม) สำหรับรุ่นยุทธวิธี, และ 32,000 ปอนด์ (15,000 กิโลกรัม) สำหรับเวอร์ชันโจมตี ระบบนี้ยังรวมเอาระบบต่อต้านเรือดำน้ำ และขีปนาวุธโทมาร์ฮอร์กเข้าไว้ด้วย นอกจากนี้ยังมีการบูรณาการระบบตอร์ปิโดบนเรือและระบบปืนทางเรือ

หัวใจสำคัญของระบบเอจีส ประกอบด้วยเรดาร์ เอเอ็น/เอสพีวาย-1 ระบบควบคุมการยิง MK 99 ระบบควบคุมอาวุธ (Weapon Control System หรือ WCS) ชุดคำสั่งและการตัดสินใจ และกลุ่มขีปนาวุธสแตนดาร์ด เช่น อาร์ไอเอ็ม-66 สแตนดาร์ด อาร์ไอเอ็ม-156 สแตนดาร์ อีอาร์ และขีปนาวุธรุ่นใหม่อย่าง อาร์ไอเอ็ม-161 สแตนดาร์ด 3 ที่ออกแบบมาเพื่อต่อต้านภัยคุกคามจากขีปนาวุธแบบวิถีโค้ง นอกจากนี้ยังมีอาวุธที่พัฒนาต่อยอดจาก เอสเอ็ม-2 คือขีปนาวุธ อาร์ไอเอ็ม-174 สแตนดาร์ด อีอาร์เอเอ็ม ที่เริ่มใช้งานในปี 2013 ซึ่งเรือบางลำอาจจะไม่มีการติดตั้งทุกรุ่น อาวุธที่บรรจุบนเรือจะถูกปรับตามภารกิจที่ได้รับมอบหมาย

ระบบการรบเอจีส ถูกควบคุมโดยเรดาร์เอเอ็น/เอสพีวาย-1 ซึ่งเป็นเรดาร์แบบสแกนอิเล็กทรอนิกส์สามมิติที่ทำงานแบบพาสซีฟและมีการตรวจจับและติดตามอัตโนมัติที่ทันสมัย เป็นที่รู้จักกันในนาม "เกราะของกองเรือ" เรดาร์เอสพีวายมีพลังงานสูง 6 เมกะวัตต์ สามารถทำหน้าที่ค้นหา ติดตาม และนำทางขีปนาวุธได้พร้อมกัน โดยสามารถติดตามเป้าหมายได้มากกว่า 100 เป้าหมายในระยะมากกว่า 100 ไมล์ทะเล (190 กม.)[1] อย่างไรก็ตาม เรดาร์เอเอ็น/เอสพีวาย-1 ถูกติดตั้งในตำแหน่งที่ต่ำกว่าเรดาร์ เอเอ็น/เอสพีเอส-49 ซึ่งส่งผลให้มีขอบเขตเรดาร์ที่ลดลง[2]

ระบบการรบเอจีส สื่อสารกับขีปนาวุธสแตนดาร์ดผ่านลิงก์ความถี่วิทยุ (RF) โดยใช้เรดาร์เอเอ็น/เอสพีวาย-1 สำหรับการอัปเดตเส้นทางกลางคอร์สและการนำทางขีปนาวุธในระหว่างการสู้รบ แต่ยังคงต้องใช้เรดาร์ควบคุมการยิงเอเอ็น/เอสพีจี-62 สำหรับการนำทางในช่วงสุดท้ายของการโจมตี ซึ่งหมายความว่าด้วยการจัดตารางการสกัดกั้นที่เหมาะสม สามารถโจมตีเป้าหมายจำนวนมากได้พร้อมกัน

อ้างอิง

แก้
  1. "Aegis Combat System". The Warfighter Encyclopedia. Warfighter Response Center. October 8, 2003. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 5, 2004. สืบค้นเมื่อ August 10, 2006..
  2. "AN/SPY-1 Radar". สืบค้นเมื่อ 29 January 2016.