ล็อกฮีด มาร์ติน
ล็อกฮีด มาร์ติน (อังกฤษ: Lockheed Martin) เป็นบริษัทด้านอากาศยาน อวกาศ และการป้องกันประเทศรายใหญ่ของโลกสัญชาติอเมริกา เกิดจากการควบรวมระหว่างสองบริษัทคือ ล็อคฮีคคอร์ปอเรชั่น กับ มาร์ตินมารีเอ็ตตา ในปี 1995 ล็อกฮีดมาร์ตินมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในเบเธสดา รัฐแมริแลนด์ อันเป็นเขตปริมณฑลทางตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ล็อกฮีคมาร์ตินถือเป็นบริษัทคู่สัญญาด้านการป้องกันประเทศ (defense contractor) ที่ใหญ่ที่สุดของโลกในแง่ของรายได้[1] โดยรายได้ 73% มาจากการขายสินค้าด้านกลาโหม[2]
ประเภท | บริษัทมหาชน (NYSE: LMT) |
---|---|
ISIN | US5398301094 |
อุตสาหกรรม | อากาศยานและการป้องกัน |
ก่อตั้ง | พ.ศ. 2538 (29 ปี) |
สำนักงานใหญ่ | รัฐแมริแลนด์ สหรัฐอเมริกา |
พื้นที่ให้บริการ | ทั่วโลก |
บุคลากรหลัก | โรเบิร์ต เจ สตีเว่นส์ (ประธาน ซีอีโอ) บรูซ แอล แทนเนอร์ (รองประธานฝ่ายบริหาร) ดร.เรย์ โอ จอห์นสัน (รองประธานอาวุโสและหัวหน้าฝ่ายเทคโนโลยี) |
ผลิตภัณฑ์ | ระบบเอทีซี ขีปนาวุธ ยุทธโธปกรณ์ ขีปนาวุธป้องกันประเทศ อากาศยานขนส่ง เครื่องบินขับไล่ เรดาร์ ดาวเทียม จรวดแอทลาส ยานโอไรออนของนาซ่า |
รายได้ | 65,984,000,000 ดอลลาร์สหรัฐ (พ.ศ. 2565) |
รายได้จากการดำเนินงาน | 8,348,000,000 ดอลลาร์สหรัฐ (พ.ศ. 2565) |
รายได้สุทธิ | 5,732,000,000 ดอลลาร์สหรัฐ (พ.ศ. 2565) |
สินทรัพย์ | 50,710,000,000 ดอลลาร์สหรัฐ (พ.ศ. 2563) |
พนักงาน | 110,000 (พ.ศ. 2563) |
เว็บไซต์ | เว็บไซต์ทางการ |
Lockheed Corporation ก่อตั้งในปี 1912 ในชื่อ Alco Hydro-Aeroplane Company โดยสองพี่น้อง อัลลัน และมัลคอล์ม ล็อกฮีด (Allan & Malcolm Loughead) ก่อนจะเปลี่ยนชื่อเป็น Loughead Aircraft Manufacturing Company ในปี 1916 บริษัทได้เริ่มออกแบบและสร้างเรือบินโมเดล F-1 ซึ่งขึ้นบินครั้งแรกเมื่อ 29 มีนาคม 1918 หลังจากนั้น บริษัทก็ได้ลงทุนมหาศาลไปในการออกแบบและการพัฒนาอากาศยานจอมปฏิวัติวงการแบบโมโนโคค (Monocoque) ชื่อว่าโมเดล S-1 ขึ้นมา ขายราคาลำละ 2,500 ดอลลาร์ แต่ด้วยพิษจากผลของสงครามโลกครั้งที่หนึ่งทำให้เครื่องบินขายไม่ดี และต้องปิดบริษัทไปในปี 1921 โรงงานได้รับเงินทุนและกลับมาเปิดได้อีกครั้งในปี 1926 ในชื่อ Lockheed Aircraft Company บริษัทได้นำโมเดล S-1 ของเดิมมาต่อยอดเป็นโมเดล Vega ซึ่งขายได้ทะลุหนึ่งล้านดอลลาร์ในปีเดียว เป็นปฐมบทความยิ่งใหญ่ของนาม “ล็อกฮีด”
เมื่อล็อกฮีดควบรวมกับบริษัทผู้ผลิตยานอวกาศ, จรวด และขีปนาวุธรายใหญ่อย่าง Martin Marietta ในปี 1995 แล้ว ล็อกฮีดมาร์ตินก็กลายเป็นบริษัทค้าอาวุธอย่างครบวงจร และเป็นคู่สัญญารายใหญ่ที่สุดของรัฐบาลสหรัฐ โดยในแต่ละปีได้รับสัญญามูลค่ากว่า 10% ของงบประมาณด้านกลาโหมของสหรัฐ[3] ซึ่งได้ผลิตอากาศยานทางทหารชื่อดังอย่าง P-3 โอไรออน, F-16 ไฟทิงฟอลคอน, C-130 เฮอร์คิวลิส ส่งออกไปยังหลายประเทศทั่วโลก นอกจากนี้ เครื่องบินรบ F-22 แรพเตอร์ ของล็อกฮีดมาร์ติน ยังขึ้นชื่อว่าเป็นเครื่องบินรบที่ดีและมีสมรรถภาพมากที่สุดในโลก ในปี 2015 บริษัทมีรายได้กว่า 46 พันล้านดอลลาร์ โดยมีกำไร 3.6 พันล้านดอลลาร์ มีพนักงานกว่า 97,000 คน
อ้างอิง
แก้- ↑ POC Top 20 Defence Contractors of 2014 เก็บถาวร 2015-07-07 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน. Retrieved: July 2015
- ↑ DefenseIQ Top 10 defence companies in the world, 2013. Retrieved: July 6, 2015.
- ↑ "Top 100 Contractors Report Fiscal Year 2013" (XLS). Federal Procurement Data System – Next Generation. General Services Administration. สืบค้นเมื่อ 2 January 2015.