รอนนี โอซุลลิแวน

รอนัลด์ แอนโทนีโอ โอซุลลิแวน (อังกฤษ: Ronald Antonio O'Sullivan, OBE) หรือ รอนนี โอซุลลิแวน (Ronnie O'Sullivan) เกิดเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม ค.ศ. 1975 เป็นนักสนุกเกอร์อาชีพชาวอังกฤษจากเมืองชิกเวล เอสเซกซ์ เขาเป็นที่รู้จักในสไตล์การแทงเร็ว ทั้งมีอารมณ์ศิลปิน มีความเป็นตัวเองสูงและการแทงแต่ละลูกของเขาเด็ดขาดสุดๆ โดยรอนนี่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง ในฐานะนักสนุกเกอร์ที่เก่งที่สุดตลอดกาล[2]

รอนนี โอซุลลิแวน
เกิด (1975-12-05) 5 ธันวาคม ค.ศ. 1975 (47 ปี)
เวิดส์ลี เวสต์มิดแลนส์ อังกฤษ
สัญชาติ อังกฤษ
ฉายาThe Rocket
ปีที่เริ่มเล่นอาชีพ1992-
อันดับสูงสุด1
เบรกสูงสุด147: (15 ครั้ง)[1]
จำนวนเซนจูรีเบรก1169
รายการแข่งขันที่ชนะ
รายการสะสมคะแนนที่ชนะ39
รายการสะสมคะแนนย่อยที่ชนะ3
รายการไม่สะสมคะแนนที่ชนะ32
เวิลด์แชมเปียน2001, 2004, 2008, 2012, 2013,2020 2022
ronnieosullivan.tv

เขาทำเซนจูรีเบรกครั้งแรกตอนอายุ 10 ขวบ และทำแม็กซิมัมเบรก ตอนอายุ 15 ปี เขาเทิร์นโปรในปี 1992 ตอนอายุ 16 ปี ไม่นานก็ได้รับฉายาว่า "เดอะร็อกเก็ต" (The Rocket) เขาคว้าแชมป์ในรายการยูเคแชมเปียนชิป 1993 ตอนอายุ 17 ปี กับ 358 วัน กลายเป็นผู้เล่นที่อายุน้อยที่สุดที่คว้าแชมป์รายการสะสมคะแนน สถิติของเขายังคงอยู่ เขายังเป็นผู้เล่นที่อายุน้อยที่สุดที่ได้แชมป์รายการมาสเตอส์ครั้งแรกในปี 1995 ตอนอายุ 19 ปี กับ 69 วัน

โอซุลลิแวนมีทริปเปิลคราวน์ ประกอบด้วยแชมป์รายการเวิลด์สนุกเกอร์แชมเปียนชิปหกสมัย มาสเตอส์เจ็ดสมัย และยูเคแชมเปียนชิปเจ็ดสมัย เป็นคนที่สี่ตามหลัง สตีเฟน เฮนดรี เรย์ เรียร์ดอน และ สตีฟ เดวิส เป็นผู้เล่นคนที่สามที่คว้าแชมป์รายการสะสมคะแนนถึง 28 รายการและได้เงินรางวัลมากกว่า 8 ล้านปอนด์ ตามหลังเฮนดรี[3] เขาติดอันดับหนึ่งในห้าฤดูกาล ระหว่างฤดูกาล 2002/2003 และ ฤดูกาล 2009/2010 ความสำเร็จในรายการของเขารวมทั้งได้แชมป์รายการพรีเมียร์ลีก ถึง 10 ครั้งและได้แชมป์รายการเนชันส์คัพกับทีมอังกฤษในปี 2000

นอกจากนี้เขายังเข้าเบรกได้ดี โอซุลลิแวนยังรวมเซนจูรีเบรกได้ 1061 ครั้งเป็นสถิติที่มากสุดจากผู้เล่นอื่น เขายังมีสถิติในการทำแม็กซิมัมเบรกมากที่สุดในการเล่นอาชีพถึง 15 ครั้ง นอกจากนี้ยังทำแม็กซิมัมเบรกเร็วที่สุดด้วยเวลา 5 นาทีกับ 20 วินาทีในเวิลด์แชมเปียนชิป 1997

ประวัติการแข่งขันแก้ไข

รอนนีเริ่มเล่นอาชีพในปี ค.ศ.1992 และสามารถคว้าแชมป์รายการ ยูเคแชมเปียนชิป ได้ในปี ค.ศ.1993 โดยการเอาชนะสตีเฟน เฮนดรี นักสนุกเกอร์มือวางอันดับ 1 ของโลกในขณะนั้น ซึ่งเป็นการคว้าแชมป์รายการนี้ด้วยวัยเพียง 17 ปีกับอีก 358 วัน ทำให้เขาเริ่มเป็นที่จับตามองในวงการสนุกเกอร์อาชีพ ซึ่งในปีนั้นเขาก็คว้าแชมป์รายการบริติชโอเพน (British Open) ได้อีกหนึ่งรายการด้วย และเมื่อจบฤดูกาล คะแนนอันดับโลกของเขาในปีนั้นก็ขึ้นไปอยู่ในอันดับที่ 9 ของโลก

ในฤดูกาลแข่งขันปี 1995/96 รอนนีคว้าแชมป์รายการเดอะมาสเตอส์ ซึ่งเป็นรายการชิงเงินรางวัลที่ใหญ่ที่สุดโดยการเอาชนะ จอห์น ฮิกกินส์ (John Higgins) ไปได้ 9-3 เฟรม แต่ในส่วนของผลงานของรายการอาชีพเก็บคะแนนของฤดูกาลแข่งขันปี 1995/96 นี้ รอนนีมีผลงานที่ไม่ดีนักเพราะตกรอบแรกไปถึง 5 รายการจากทั้งหมด 10 รายการ ในรายการชิงแชมป์โลกปีนี้ รอนนี่ถูกสมาคมสนุกเกอร์อาชีพโลกปรับเงิน 10,000 ปอนด์ เนื่องจากถูก อแล็ง โรบิดูซ์ (Alain Robidoux) กล่าวหาว่ารอนนีนั้นใช้วิธีการเล่นที่ไม่สุภาพกับเขา โดยในการแข่งขันนัดนั้น รอนนีผลัดกันใช้มือขวาและมือซ้ายในการแทงลูก ซึ่งในเวลาต่อมา รอนนีต้องออกมาแถลงการณ์ขอโทษต่อหน้าสื่อมวลชน อย่างไรก็ตามในรายการชิงแชมป์โลกปีนี้ เขาสามารถเข้าไปถึงรอบรองชนะเลิศ โดยในรอบรองชนะเลิศ เขาพ่ายแพ้ให้กับ ปีเตอร์ เอบดอน (Peter Ebdon) ไป 14-16 เฟรม จบท้ายฤดูกาลนั้นด้วยอันดับที่ 8 ของโลก

ในฤดูกาลการแข่งขันปี 1996/97 รอนนี่เริ่มต้นฤดูกาลด้วยการคว้าแชมป์รายการ เอเชียนคลาสสิก โดยเอาชนะไบรอัน มอร์แกน (Brian Morgan) ไปแบบหวุดหวิด 9-8 เฟรม และสามารถคว้าแชมป์รายการที่ 2 ของฤดูกาลนี้คือรายการเยอร์มันโอเพน โดยเอาชนะ อแล็ง โรบิดูซ์ (Alain Robidoux) ไปได้ 9-7 เฟรม และในการแข่งขันรายการชิงแชมป์โลกปีนี้ เขาสามารถทำ แม็กซิมัมเบรก ในการแข่งขันรอบแรกกับ มิก ไพรซ์ (Mick Price) ซึ่งเป็นการทำแม็กซิมัมเบรกที่เร็วที่สุดในโลก คือใช้เวลาทั้งหมด 5 นาทีกับอีก 20 วินาที แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับรายการชิงแชมป์โลกในฤดูกาลนี้ เขาก็ไปได้เพียงรอบที่ 2 โดยพ่ายแพ้ใหกับแดร์เรน มอร์แกน (Darren Morgan) ไป 12-13 เฟรม

ในฤดูกาลแข่งขันปี 2000/01 เป็นฤดูกาลที่รอนนีรอคอย เมื่อเขาสามารถคว้ารายการชิงแชมป์โลกได้สำเร็จเป็นคนแรกโดยเขาเอาชนะ จอห์น ฮิกกินส์ (John Higgins) ไปได้ 18-14 เฟรม และจบฤดูกาลปีนี้ไปด้วยอันดับที่ 2 ของโลก และในฤดูกาลปี 2002/03 เขาก็สามารถก้าวไปถึงมือวางอันดับ 1 ของโลกได้สำเร็จ โดยเขาได้ครองตำแหน่งมือวางอันดับหนึ่งของโลกทั้งสิ้น 4 ฤดูกาล คือฤดูกาลปี 2002/03,2004/05,2005/06 และในฤดูกาล 2008/09

ในฤดูกาลแข่งขันปี 2007/08 เป็นฤดูกาลที่รอนนี่ประสบความสำเร็จหลายอย่าง แม้ว่าเขาจะเริ่มต้นฤดูกาลโดยการยอมแพ้ผ่าน (withdraw) ในรอบแรกของรายการเซี่ยงไฮ้มาสเตอส์ เนื่องจากว่ามีอาการบาดเจ็บที่หลัง ซึ่งแพทย์ประจำตัวของเขาแนะนำให้รอนนี่ถอนตัวจากรายการนี้เพื่อทำการรักษา แต่ในรายการต่อมาคือรายการกรังปรีซ์ รอนนีก็สามารถเข้าไปได้ถึงรอบชิงชนะเลิศ โดยเขาพ่ายแพ้ให้กับ มาร์โก ฟู (Marco Fu) ไป 6-9 เฟรม ในรายการนอร์ทเทิร์นไอร์แลนด์โทรฟี และรายการยูเคแชมเปียนชิป เขาสามารถทำแม็กซิมัมเบรก ครั้งที่ 7 และครั้งที่ 8 ได้ โดยในรายการยูเคแชมเปียนชิป รอนนีทำ แม็กซิมัมเบรก ในรอบรองชนะเลิศเฟรมตัดสินกับ มาร์ก เซลบี (Mark Selby) ซึ่งการทำแม็กซิมัมเบรกครั้งที่ 8 นี้เป็นการทำสถิติเทียบเท่ากับสถิติสูงสุด 8 ครั้งของ สตีเฟน เฮนดรี (Stephen Hendry) ด้วย และในรายการนี้ เขาก็สามารถคว้าแชมป์ไปได้สำเร็จ โดยเอาชนะสตีเฟน แม็กไกวร์ (Stephen Maguire) ไป 10-2 เฟรม

ในรายการชิงแชมป์โลกในฤดูกาลปี 2007/08 รอนนีสามารถทำแม็กซิมัมเบรกครั้งที่ 3 ของฤดูกาลนี้ และเป็นครั้งที่ 10 ในชีวิตการแข่งขันของเขา ซึ่งเป็นสถิติจำนวนครั้งสูงสุดของผู้ทำแม็กซิมัมเบรก โดยเขาทำแม็กซิมัมเบรกได้ในเฟรมที่ 20 ของการแข่งขันในรอบสอง โดยคู่แข่งขันคือ มาร์ก วิลเลียมส์ (Mark Williams) และในรายการชิงแชมป์โลกฤดูกาลนี้ เขาก็สามารถคว้าแชมป์โลกได้เป็นผลสำเร็จ และเป็นการคว้าแชมป์โลกครั้งที่ 3 ของเขาด้วย

รอนนีเริ่มต้นฤดูกาลแข่งขันปี 2008/09 ได้อย่างน่าประทับใจเมื่อเขาสามารถคว้าแชมป์รายการนอร์ทเทิร์นไอร์แลนด์โทรฟี ซึ่งเป็นรายการสะสมแรกของฤดูกาลแข่งขัน โดยเอาชนะ เดฟ ฮาโรลด์ (Dave Harold) ไปได้ 9-3 เฟรม และในรายการต่อมาคือรายการเซี่ยงไฮ้มาสเตอส์ รอนนีได้ตำแหน่งรองแชมป์ไป โดยพ่ายแพ้ให้กับนักสนุกเกอร์ดาวรุ่ง ริกกี วอลเดน (Ricky Walden) ไปอย่างเฉียดฉิว 8-10 เฟรม ทำให้เขามีคะแนนสะสมเพียงพอที่จะเป็นมือวางอันดับที่ 1 ของโลกต่อไปอีกในฤดูกาลแข่งขันฤดูกาลถัดไป แม้ว่าในรายการชิงแชมป์โลกในฤดูกาลนี้ เขาจะทำผลงานได้แค่เพียงรอบ 2 หรือรอบ 16 คนสุดท้ายเท่านั้น โดยเขาพ่ายแพ้ให้กับ มาร์ก อัลเลน (Mark Allen) ไป 11-13 เฟรม

ผลงานแก้ไข

รายการสะสมคะแนนแก้ไข

  • รายการชิงแชมป์โลก 7 สมัย ในปี ค.ศ.2001 / ค.ศ.2004 / ค.ศ.2008 / ค.ศ.2012 / ค.ศ.2013 / ค.ศ.2020 / ค.ศ. 2022
  • รายการ Uk Championship 7 สมัยในปี ค.ศ.1993 / ค.ศ.1997 / ค.ศ.2001 / ค.ศ.2007 / ค.ศ.2014 / ค.ศ.2017 / ค.ศ.2018
  • รายการ British Open ปี ค.ศ.1994
  • รายการ German Open ปี ค.ศ.1995 ปี / ค.ศ. 2012
  • รายการ China Open 3 สมัยในปี ค.ศ.1996 / ค.ศ.1999 / ค.ศ.2000
  • รายการ European Open ปี ค.ศ.2003
  • รายการ Irish Masters 2 สมัยในปี ค.ศ.2003 และปี ค.ศ.2005
  • รายการ Welsh Open 4 สมัยในปี ค.ศ.2004 / ค.ศ.2005 /ค.ศ.2014/ ค.ศ.2016
  • รายการ Grand Prix ปี ค.ศ.2004
  • รายการ Northern Ireland Trophy ปี ค.ศ.2008

รายการชิงเงินรางวัลแก้ไข

  • รายการ The Masters 7 สมัยในปี ค.ศ.1995, 2005, 2007, 2009, 2014, 2016 ,2017
  • รายการ Scottish Masters 3 สมัยในปี ค.ศ.1998, 2000, 2002
  • รายการ Irish Masters 2 สมัยในปี ค.ศ.2001, 2007
  • รายการ Premier League 8 สมัยในปี ค.ศ.1997, 2001, 2002, 2005 (04/05), 2005 (05/06), 2006, 2007, 2008
  • รายการ Benson and Hedges Championship ปี ค.ศ.1993
  • รายการ Nescafe Extra Challenge ปี ค.ศ.1993
  • รายการ Liverpool Victoria Charity Challenge ปี ค.ศ.1996
  • รายการ Riley Superstar International ปี ค.ศ.1997
  • รายการ Champions Cup ปี ค.ศ.2000
  • รายการ Nations Cup ร่วมกับทีมชาติอังกฤษ ปี ค.ศ. 2000

อ้างอิงแก้ไข

  1. "Official 147s – World Snooker". สืบค้นเมื่อ 8 May 2018.
  2. "Ronnie O'Sullivan says he is ready to retire from snooker". BBC Sport. 1 May 2013. สืบค้นเมื่อ 22 December 2015.
  3. "Prize Money – All-time, Professional". CueTracker – Snooker Database. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-10-19. สืบค้นเมื่อ 31 May 2013.