มาสเตอร์ออฟเรียลิตี

มาสเตอร์ออฟเรียลิตี (อังกฤษ: Master of Reality) เป็นอัลบั้มที่สามของวงเฮฟวีเมทัลของอังกฤษ วง แบล็ก ซับบาธ วางจำหน่ายช่วง กรกฎาคม 1971 อัลบั้มนี้จะออกแนว stoner metal[1] และ อัลบั้มนี้ได้รับรางวัลแผ่นเสียงแพลททินัม 2 ครั้งหลังจากมียอดขายมากกว่า2ล้านแผ่น

Master of Reality
สตูดิโออัลบั้มโดย
วางตลาด21 กรกฎาคม 1971
บันทึกเสียง5 กุมภาพันธ์ – 5 เมษายน 1971 ที่ Island Studios ใน London, England
แนวเพลงHeavy metal
ความยาว34:29
ค่ายเพลงVertigo
โปรดิวเซอร์Rodger Bain
ลำดับอัลบั้มของBlack Sabbath
Paranoid
(1970)Paranoid1970
Master of Reality
(1971)
Black Sabbath Vol. 4
(1972)
ซิงเกิลจากMaster of Reality
  1. "Sweet Leaf"
  2. "Children of the Grave"
  3. "After Forever"

Black Sabbath Vol. 41972

ช่วงบันทึก

แก้

สำหรับการบันทึกอัลบั้มนี้ มือกีตาร์ของวง โทนี อิออมมี พูดว่า หลังจากที่นิ้วมือของเขาบาดเจ็บจากอุบัติเหตุในโรงงานเมื่อปีที่แล้ว[2]ซึ่งเป็นนิ้วข้างซ้าย และก็สวมนิ้วปลอมแทน แต่เขาเป็นคนถนัดซ้าย จึงเป็นเรื่องยากสำหรับการเล่นกีตาร์ของเขา แต่ อิออมมี ก็ปรับเสียงกีตาร์ลดลง3เซมิโทนเพื่อให้เล่นง่ายขึ้น แล้วตั้งสายกีตาร์ใหม่ , Geezer Butler มือเบสของวง ก็ปรับเสียงกีตาร์เบสของเขาให้ต่ำลง เพื่อให้เล่นเข้ากับ อิออมมี ให้เหมาะกับอัลบั้มนี้ ,Master of Reality บันทึกที่ Island Studios ในประเทศอังกฤษ ระหว่างช่วง กุมภาพันธ์ ถึง เมษายน 1971 โปรดิวเซอร์โดย Rodger Bain ซึ่งช่วยผลิตอัลบั้มก่อนหน้านี้ และนี่ก็เป็นการร่วมงานครั้งสุดท้ายกับวง

รายชื่อเพลง

แก้

เพลงทั้งหมดแต่งโดย Tony Iommi, Bill Ward, Geezer Butler และ Ozzy Osbourne

แผ่นหนึ่ง

แก้
  1. "Sweet Leaf" – 5:05
  2. "After Forever" (Iommi) – 5:27
  3. "Embryo" (Iommi) – 0:28
  4. "Children of the Grave" – 5:18

แผ่นสอง

แก้
  1. "Orchid" (Iommi) – 1:31
  2. "Lord of This World" – 5:27
  3. "Solitude" – 5:02
  4. "Into the Void" – 6:13

บุคลากร

แก้
  • Ozzy Osbourne – ร้องนำ
  • Tony Iommi –กีตาร์, ฟลุต,เปียโน, เครื่องสังเคราะเสียง
  • Geezer Butler – เบส
  • Bill Ward – กลองชุด

ยอดขาย

แก้

อ้างอิง

แก้
  1. Taylor 2006, pg. 199, "Some say that Master of Reality was the first stoner rock album."
  2. VH1: Heavy the Story of Metal, Part One.
  3. "RIAA Gold & Platinum database". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-06-23. สืบค้นเมื่อ 2009-01-28.
  4. "CRIA certified awards". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-02-18. สืบค้นเมื่อ 8 February 2009.