มอยนัก (การากัลปัก: Moynaq / Мойнақ) หรือ โมยนอก (อุซเบก: Moʻynoq / Мўйноқ) เป็นเมืองในตอนเหนือของสาธารณรัฐการากัลปักสถาน ประเทศอุซเบกิสถาน และเป็นศูนย์กลางการปกครองของอำเภอมอยนัก[2] มอยนักในอดีตเป็นเมืองท่า ติดกับทะเลอารัล แต่ในปัจจุบัน มอยนักตั้งอยู่ห่างไป 150 กิโลเมตรจากแหล่งน้ำที่ใกล้ที่สุด ท่ามกลางทะเลทรายอารัลกุม มอยนักจึงเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวเชิงภัยพิบัติที่สำคัญ นอกจากนี้ มอยนักยังเป็นที่จัดเทศกาลดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ที่สำคัญในเอเชียกลาง

มอยนัก
เมือง
มอยนักตั้งอยู่ในอุซเบกิสถาน
มอยนัก
มอยนัก
ที่ตั้งเมืองมอยนักในประเทศอุซเบกิสถาน
พิกัด: 43°46′N 59°02′E / 43.767°N 59.033°E / 43.767; 59.033
ประเทศธงของประเทศอุซเบกิสถาน อุซเบกิสถาน
สาธารณรัฐการากัลปักสถาน
อำเภอมอยนัก
ความสูง55 เมตร (180 ฟุต)
ประชากร
 (2018)[1]
 • ทั้งหมด13,500 คน

ปัจจุบันแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของมอยนักคือซากเรือประมงที่ถูกทิ้งร้างจำนวนมากจากสมัยโซเวียต และมีพิพิธภัณฑ์ขนาดหนึ่งห้องที่บอกเล่าประวัติศาสตร์ของอุตสาหกรรมประมงที่เคยเจริญมากในมอยนัก[3]

ประวัติศาสตร์

แก้

เดิมทีมอยนักเป็นชุมชนประมงและเป็นเมืองท่าเดียวของประเทศอุซเบกิสถาน มีประชากรหลายหมื่นคน และเป็นเมืองที่มีเศรษฐกิจครึกครื้น แต่ในปัจจุบันมอยนักตั้งอยู่หลายสิบกิโลเมตรจากขอบของทะเลอารัลซึ่งแห้งลงอยู่เรื่อย ๆ ในอดีต การประมงเป็นส่วนสำคัญของเศรษฐกิจในพื้นที่มาโดยตลอด และมอยนักเป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมประมงและปลากระป๋อง อย่างไรก็ตาม ในคริสต์ทศวรรษ 1960 รัฐบาลโซเวียตได้เบี่ยงทางน้ำของแม่น้ำอามูดาร์ยาและซีร์ดาร์ยาซึ่งปกติเป็นต้นน้ำของทะเลอารัล ออกไป ทำให้ทะเลอารัลแห้งเหือดลงไปมาก และพื้นที่รอบทะเลอารัลในอุซเบิกสถานก็ต้องอยู่ภายใต้ภาวะเสี่ยงต่อการล่มสลายทางเศรษฐกิจ ระบบเกษตรกรรมพืชเดี่ยวในสมัยโซเวียต ซึ่งมีการผลิตฝ้ายเป็นสำคัญ ได้เบี่ยงน้ำจากแม่น้ำสายต่าง ๆ ไปสู่ระบบชลประทาน ยังเป็นผลให้มีการทิ้งของเสียและมลภาวะต่าง ๆ ทางเคมีตามมา ซึ่งยิ่งทำให้ความเค็มของน้ำที่ยังเหลือในทะเลอารัลสูงขึ้น และน้ำในทะเลอารัลระเหยไปเร็วมากขึ้น ท้ายที่สุดส่งผลให้เกิดวิกฤตทางเศรษฐกิจ ทะเลตาย และเมืองโดยรอบก็ตายไปตาม ซึ่งรวมถึงเมืองมอยนักด้วย[4][5]

วัฒนธรรม

แก้

ปัจจุบันมอยนักเป็นสถานที่จัดเทศกาลสตีฮิยา (Stihia Festival) ซึ่งถือว่าเป็นเทศกาลดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ที่ใหญ่ที่สุดของเอเชียกลาง จัดเป็นประจำทุกปีตั้งแต่ปี 2018 เทศกาลนี้ได้รับการบรรยายไว้โดยไวซ์มีเดีย ว่าเป็น "[งานดนตรี]เทคโนอย่างเมามันท่ามกลางสุสานเรือร้าง" ในปี 2019 มีผู้เข้าร่วมเทศกาลถึง 10,000 คน และมีดีเจมาแสดงจากทั้งอุซเบกิสถานและยุโรป[6] ชื่อเทศกาล "Stihia" แปลว่า "พลังของธรรมชาติอันยั้งไว้ไม่ได้" ซึ่งเป็นการสื่อถึงภัยพิบัติทะเลอารัลแห้งเหือด และถึงพลังของดนตรีในการนำพาผู้คนมาอยู่ด้วยกัน[7] นอกจากนี้ยังมีเทศกาล Stihia N+1 จัดควบคู่ไปด้วย ซึ่งประกอบด้วยการเสวนาและพูดคุยเกี่ยวกับศิลปะ วิทยาศาสตร์ จนถึงเทคโนโลยี[8]

อ้างอิง

แก้
  1. Число постоянных жителей в Республике Каракалпакстан на 1 января 2018 года เก็บถาวร 2019-03-21 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, Портал открытых данных Республики Узбекистан
  2. "Classification system of territorial units of the Republic of Uzbekistan" (ภาษาอุซเบก และ รัสเซีย). The State Committee of the Republic of Uzbekistan on statistics. July 2020.
  3. "Travel Guide to Moynaq & Aral Sea | Caravanistan". Caravanistan (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). สืบค้นเมื่อ 2018-07-27.
  4. "Waiting for the sea". BBC News (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). สืบค้นเมื่อ 2018-07-27.
  5. "It's Raining Salt: Toxic Aral Sea Storm Sparks Health Fears In Central Asia". RadioFreeEurope/RadioLiberty (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2018-07-27.
  6. Kennedy, Almas Koldassov,Rowan (2018-10-12). "Stihia Festival | We Went to a Techno Rave in an Abandoned Ship Graveyard in Uzbekistan". Amuse (ภาษาอังกฤษ). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-11-07. สืบค้นเมื่อ 2020-10-31.
  7. "Stihia: An Electronic Dawn In Uzbekistan". Resident Advisor. สืบค้นเมื่อ 2020-10-31.
  8. "Stihia". ohio8.vchecks.me. สืบค้นเมื่อ 2020-10-31.[ลิงก์เสีย]