ภูมิศาสตร์สิ่งแวดล้อม

ภูมิศาสตร์สิ่งแวดล้อม (อังกฤษ: environmental geography) ภูมิศาสตร์มนุษย์และสิ่งแวดล้อม (human–environment geography) หรือ
ภูมิศาสตร์บูรณาการ (integrated geography, integrative geography)[1] เป็นสาขาของภูมิศาสตร์ว่าด้วยการอธิบายถึงข้อเท็จจริงและการตีความลักษณะของพื้นที่จากปฏิสัมพันธ์ระหว่างปัจเจกบุคคลหรือสังคมมนุษย์กับสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติ[2]

นาขั้นบันไดในอำเภอมูกางจ๋าย จังหวัดเอียนบ๊าย ประเทศเวียดนาม

ต้นกำเนิด แก้

ภูมิศาสตร์สิ่งแวดล้อมมีวัตถุประสงค์เพื่อเข้าใจพลวัตทางภูมิศาสตร์กายภาพ ตลอดจนวิธีการที่สังคมมนุษย์กำหนดกรอบความคิดให้กับสิ่งแวดล้อม (ภูมิศาสตร์มนุษย์) ด้วยเหตุนี้ภูมิศาสตร์สิ่งแวดล้อมอาจถูกมองว่าเป็นตัวแทนของ มานุษยภูมิศาสตร์กายภาพ (เยอรมัน: Physische Anthropogeographie) ซึ่งถูกคิดขึ้นโดยอัลเบรชท์ เพงค์ นักภูมิศาสตร์ประจำมหาวิทยาลัยเวียนนาใน พ.ศ. 2467[3] รวมถึงวัฒนธรรมทางภูมิศาสตร์หรือนิเวศวิทยามนุษย์ที่กำหนดโดยฮาร์ลาน เอช. แบร์โรวส์ ใน พ.ศ. 2466 ภูมิศาสตร์สิ่งแวดล้อมในสหรัฐอเมริกาได้รับอิทธิพลส่วนใหญ่จากสำนักคิดของคาร์ล ซาวเออร์ แห่งมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลีย์ ซึ่งมีมุมมองในเชิงประวัติศาสตร์ และกิลเบิร์ต เอฟ. ไวต์ แห่งมหาวิทยาลัยชิคาโกเป็นผู้พัฒนามุมมองในการประยุกต์มากขึ้น

ความสนใจ แก้

 
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าในรัฐออริกอน ประเทศสหรัฐ

การเชื่อมโยงระหว่างภูมิศาสตร์มนุษย์และภูมิศาสตร์กายภาพมีความชัดเจนมากขึ้นกว่าในปัจจุบันเนื่องจากมนุษย์บนโลกมีประสบการณ์จากการใช้เทคโนโลยีมากขึ้น ซึ่งความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และสิ่งแวดล้อมมักไม่ชัดเจน ทำให้ภูมิศาสตร์สิ่งแวดล้อมมีความสำคัญอย่างยิ่งในการเป็นเครื่องมือวิเคราะห์สำหรับประเมินผลกระทบของมนุษย์ที่อยู่ในสิ่งแวดล้อมจากการวัดผลกระทบจากกิจกรรมของมนุษย์บนภูมิลักษณ์และวัฏจักรของธรรมชาติ นี้จะกระทำโดยการวัดผลของกิจกรรมของมนุษย์ในรูปแบบและวัฏจักรของธรรมชาติ[4] วิธีสำหรับการได้มาซึ่งข้อมูลครอบคลุมรวมถึงการรับรู้ระยะไกลและระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์[5] ภูมิศาสตร์สิ่งแวดล้อมช่วยในการคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมในแง่ของความสัมพันธ์กับผู้คน ด้วยภูมิศาสตร์สิ่งแวดล้อมจึงสามารถวิเคราะห์มุมมองทางสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ที่มีความแตกต่างกันและใช้ในการทำความเข้าใจกระบวนการระหว่างมนุษย์กับสิ่งแวดล้อม[6] จึงถือว่าภูมิศาสตร์สิ่งแวดล้อมเป็นสาขาหลักที่สามของภูมิศาสตร์[7] นอกเหนือจากภูมิศาสตร์กายภาพและภูมิศาสตร์มนุษย์[8]

อ้างอิง แก้

  1. Nicolaas A. Rupke (2008): Alexander Von Humboldt: A Metabiography. Chicago: University of Chicago Press. ISBN 9780226731490
  2. Noel Castree et al. (2009): A Companion to Environmental Geography. London: Wiley-Blackwell. ISBN 9781444305739
  3. Karlheinz Paffen (1959): Stellung und Bedeutung der Physischen Anthropogeographie. In: Erdkunde 13 (4), pp. 354–372. DOI: 10.3112/erdkunde.1959.04.08
  4. Garcia, Hector (2010). Environmental Geography. Apple Academic Press, Inc. ISBN 1926686683.
  5. G., Moseley, William (2014-01-01). An introduction to human-environment geography : local dynamics and global processes. Wiley-Blackwell. ISBN 9781405189316. OCLC 921583361.
  6. Moseley, William G.; Perramond, Eric; Hapke, Holly M.; Laris, Paul (2014). An Introduction to Human-Environment Geography. Wiley Blackwell. pp. 26–27.
  7. David Demeritt (2009): From externality to inputs and interference: framing environmental research in geography. In: Transactions of the Institute of British Geographers 34 (1), pp. 3–11, DOI: 10.1111/j.1475-5661.2008.00333.x.
  8. Arild Holt-Jensen (1999): Geography - History and Concepts: A Student's Guide. London: SAGE. ISBN 9780761961802