จิ่นเฟย์ หรือ พระมเหสีจิ่น (จีน: 瑾妃: 6 ตุลาคม พ.ศ. 2416-24 กันยายน พ.ศ. 2467) มีพระสมัญญานามที่ได้รับหลังจากการเสด็จสวรรคตว่า "เวินจิ้งหวงกุ้ยเฟย์" (จีน: 温靖皇贵妃) เป็นพระมเหสีในจักรพรรดิกวังซวี่แห่งราชวงศ์ชิงของประเทศจีน

จิ่นเฟย์
เฟย์ (พระมเหสี)
ประสูติ6 ตุลาคม พ.ศ. 2416
สวรรคต24 กันยายน พ.ศ. 2467
(พระชนมายุ 50 พรรษา)
พระราชสวามีจักรพรรดิกวังซวี่
ราชวงศ์ชิง
พระราชบิดานายจางซู

พระราชประวัติ แก้

พระมเหสีจิ่น ได้เข้าสู่พระราชวังต้องห้ามเมื่อปี พ.ศ. 2431 พร้อมกันกับน้องสาวคือพระมเหสีเจิน เป็นธิดาของนายจางซู (พินอิน: Changxu) ชาวแมนจูเผ่าตาตาลา ในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2432 ได้รับการสถาปนาเป็นพระสนมจิ่นผิน (瑾嬪) โดยผ่าน หยกผักกาด โดยปัจจุบันสมบัติชิ้นนี้ได้เก็บไว้ที่พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ กรุงไทเป, ไต้หวัน[1] ท่านไม่เป็นที่โปรดปรานของสมเด็จพระจักรพรรดิกวังซวี่เท่าพระสนมเจิน

ระหว่างในช่วงกบฏนักมวย ในปี พ.ศ. 2443 ราชวงศ์ลี้ภัยไปยังเมืองซีอาน ซึ่งว่ากันว่าพวกคนในราชวงศ์ต่างลืมพระสนมจิ่นไว้ที่พระราชวังต้องห้าม แต่ในที่สุดแล้วพระองค์ก็ได้ตามกลุ่มของบรรดาราชวงศ์ไปยังเมืองซีอานโดยความช่วยเหลือขององค์ชายพระองค์หนึ่งในราชวงศ์ชิง หลังจากที่พระมเหสีเจินพระน้องนางพึ่งจะถูกสำเร็จโทษไปโดยพระราชเสาวนีย์ของพระนางซูสีไทเฮา โดยการโยนลงไปในบ่อน้ำ และต่อมาถึงมีทฤษฎีออกมากล่าวอ้างว่าพระนางอาจทำอัตตวินิบาตพระองค์เอง

หลังจากที่บรรดาบุคคลในราชวงศ์เสด็จกลับมายังพระราชวังต้องห้ามในปี พ.ศ. 2445 ราชวงศ์ชิงสูญเสียพระราชอำนาจเป็นอย่างมาก สมเด็จพระจักรพรรดิกวังซวี่พระสวามีของพระนางเสด็จสวรรคตในปี 6 ปีต่อมาในปี พ.ศ. 2451 ต่อจากนั้นพระนางซูสีไทเฮาก็สวรรคตหลังจากสมเด็จพระจักรพรรดิเพียงหนึ่งวัน จึงถือเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ในราชวงศ์ชิง พระนางซูสีไทเฮาจึงได้รับการยกย่องว่าเป็นบุคคลสำคัญที่สุดของราชวงศ์ชิง ก่อนที่พระนางจะสวรรคต พระนางซูสีไทเฮาได้แต่งตั้งผู่อี๋ โอรสในเจ้าชายชุนที่ 2 เป็นจักรพรรดิพระองค์ใหม่ พระมเหสีในสมเด็จพระจักรพรรดิกวางสูคือสมเด็จพระจักรพรรดินีหรงยู ได้กลายมาเป็นพระพันปีหลงยฺวี่ในสมเด็จพระจักรพรรดิพระองค์ใหม่และเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ร่วมกับเจ้าชายชุนที่ 2 และพระมเหสีเจินก็ได้กลายเป็นกุ้ยเฟย

พระมเหสีเจินทรงเป็นหนึ่งในพระชนนีบุญธรรมของสมเด็จพระจักรพรรดิผู่อี๋ ซึ่งทรงมีพระชนนีบุญธรรมทั้งหมด 5 พระองค์ ดังนี้ สมเด็จพระจักรพรรดินีหรงยูมีพระอิสริยยศสูงที่สุด และพระมเหสีจินมีพระอิสริยยศเป็นลำดับที่สอง และพระชนนีบุญธรรมอีก 3 พระองค์ได้แก่ ซุ่นหวงกุ้ยเฟย เซี้ยนเจ่อหวงกุ้ยเฟย และตุนฮุ้ยหวงกุ้ยเฟย ซึ่งเป็นพระมเหสีในสมเด็จพระจักรพรรดิถงจื้อ

ในปี พ.ศ. 2455 สมเด็จพระจักรพรรดินีหลงยวี่ได้ทรงลงพระนามาภิไธยสละราชสมบัติ และต่อมาในปี พ.ศ. 2456 สมเด็จพระจักรพรรดินีหรงยู่ก็สวรรคต พระมเหสีจินจึงกลายเป็นผู้ที่มีพระอิสริยยศสูงสุดในพระราชวังต้องห้าม และพระนางได้รับการสถาปนาพระอิสริยยศเป็น ตวนคังหวงกุ้ยไท่เฟย (端康皇貴太妃) ในปี พ.ศ. 2464 พระราชมารดาแท้ๆของสมเด็จพระจักรพรรดิผู่อี๋ได้กระทำอัตตวินิบาตพระองค์เองด้วยการอมฝิ่นเป็นจำนวนมากหลังจากที่ตวนคังไท่เฟยได้ว่ากล่าวพระนางต่อสาธารณชนในกรณีที่สมเด็จพระจักรพรรดิผู่อี๋ประพฤติตนไม่เหมาะสมต่อพระนาง

ภายในหนังสืออัตชีวประวัติของสมเด็จพระจักรพรรดิผู่อี๋ พระองค์ได้ทรงเขียนถึงตวนคังไท่เฟยว่า พระนางทรงเห็นพระนางซูสีไทเฮาเป็นต้นแบบ ถึงแม้ว่าพระน้องนางของพระองค์คือมเหสีเจิน จะถูกประหารโดยพระนางซูสีไทเฮา พระนางทรงควบคุมพฤติกรรมของพระองค์ทุกย่างก้าว จนทำให้พระองค์พิโรธออกมา หลังจากการสิ้นพระชนม์พระราชมารดาของพระองค์ ตวนคังไท่เฟยจึงได้เปลี่ยนพฤติกรรมของพระองค์ไปกลายเป็นคนที่สบายๆไม่เป็นพิธีรีตองอะไรมากนัก

ต่อมาเมื่อถึงเวลาที่สมเด็จพระจักรพรรดิผูอี๋ทรงมีวัยพอที่จะอภิเศกสมรสได้นั้น พระมเหสีหม้ายสองพระองค์คือ ตวนคังไท่เฟยและจิงยี่ไท่เฟย ได้ทรงโต้เถียงกันว่าผู้ใดเหมาะสมที่จะมาเป็นจักรพรรดินีของพระจักรพรรดิ โดยที่ตวนคังไท่เฟยทรงเลือก วั่นหรง เป็นจักรพรรดินีของพระจักรพรรดิ ในขณะที่จิงยี่ไท่เฟยทรงเลือกเหวินซิ่ว ในมุมมองของตวนคังไท่เฟยนั้นเหวินซิ่วไม่มีพระสิริโฉมงดงามพอที่จะเป็นจักรพรรดินีและครอบครัวของนางก็มีศักดิ์ต่ำกว่าครอบครัวของวั่นหรง อย่างไรก็ตามพระจักรพรรดิปูยีทรงเลือกเหวินซิ่วเป็นจักรพรรดินี ทำให้ตวนคังไท่เฟยผิดหวังพระทัยเป็นอย่างมากถึงกับออกหมายเรียกราชนิกูลและข้าราชการระดับสูงมาประชุมในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และพวกเขาเหล่านั้นก็ได้โน้มน้าวให้ผู่อี๋เลือกวั่นหรงเป็นจักรพรรดินี ในที่สุดแล้วปูยีก็ได้เลือกวั่นหรงเป็นจักรพรรดินีและเหวินซิ่วเป็นพระมเหสีซูเฟย (淑妃)

สวรรคต แก้

พระมเหสีหม้ายต้วนคังสวรรคตภายในพระราชวังต้องห้าม มีพระชนมายุ 50 พรรษา โดยสวรรคตไม่นานก่อนที่ขุนศึก เฟิง ยู่เสียง จะบังคับให้ราชวงศ์ทุกคนออกจากระราชวังต้องห้ามในปี พ.ศ. 2467

อ้างอิง แก้

  1. Leslie Hook. "The Jade Cabbage" Wall Street Journal. 27 July 2007. Retrieved 21 November 2010.