ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เทย์เลอร์ สวิฟต์"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Whitetissue (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Dolkungbighead (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 40:
}}
 
'''เทย์เลอร์ แอลิสัน สวิฟต์''' ({{lang-en|Taylor Alison Swift}}; เกิด 13 ธันวาคม ค.ศ. 1989) เป็นนักร้องและนักแต่งเพลงชาวอเมริกัน เธอเป็นหนึ่งในศิลปินหญิงร่วมสมัยยอดนิยมที่เป็นที่รู้จักจากการแต่งเพลงเกี่ยวกับชีวิตส่วนตัวและเป็นที่สนใจของสื่ออย่างมาก สวิฟต์เกิดและเติบโตในเวสต์เรดิง [[รัฐเพนซิลเวเนีย]] เธอย้ายไปยังเมือง[[แนชวิลล์]] [[รัฐเทนเนสซี]] ขณะอายุ 14 ปี เพื่อหางานทำเกี่ยวกับ[[คันทรี (แนวดนตรี)|เพลงคันทรี]] เธอได้เซ็นสัญญากับบริษัท[[โซนี/เอทีวีมิวสิกพับบลิชชิง]] ใน ค.ศ. 2004 และเซ็นสัญญากับค่ายเพลง[[บิกแมชีนเรเคิดส์]] ใน ค.ศ. 2005 และออกอัลบั้มแรกใน[[เทย์เลอร์ สวิฟต์ (อัลบัม)|ชื่อเดียวกับตนเอง]] ใน ค.ศ. 2006
 
สวิฟต์ทำดนตรีคันทรีป็อปในอัลบั้มที่สองและสาม ''[[เฟียร์เลส (อัลบั้มเทย์เลอร์ สวิฟต์)|เฟียร์เลส]]'' (2008) และ ''[[สปีกนาว]]'' (2010) ความสำเร็จจากซิงเกิลในอัลบั้มที่สอง "[[เลิฟสตอรี (เพลงเทย์เลอร์ สวิฟต์)|เลิฟสตอรี]]" และ "[[ยูบีลองวิทมี]]" ในคลื่นวิทยุเพลงคันทรีและเพลงป็อปทำให้สวิฟต์เป็นศิลปินข้ามแนวเพลงที่โดดเด่น เธอยังได้ทดลองดนตรีแนวป็อป ร็อก และอิเล็กทรอนิกส์ในอัลบั้มที่สี่ ''[[เรด (อัลบัมเทย์เลอร์ สวิฟต์)|เรด]]'' (2012) อัลบั้มทีห้า ''[[1989 (อัลบั้มเทย์เลอร์ สวิฟต์)|1989]]'' (2014) เปลี่ยนสถานะสวิฟต์จากศิลปินคันทรีเป็นป็อปสตาร์ โดยมีแรงสนับสนุนจากซิงเกิลอันดับหนึ่งบน[[บิลบอร์ดฮอต 100|''บิลบอร์ด''ฮอต 100]] ได้แก่ "[[เชกอิตออฟ (เพลงเทย์เลอร์ สวิฟต์)|เชกอิตออฟ]]" "[[แบลงก์สเปซ]]" และ "[[แบดบลัด (เพลงเทย์เลอร์ สวิฟต์)|แบดบลัด]]" การที่สื่อให้ความสนใจในชีวิตส่วนตัวของเธอมากขึ้นบันดาลใจให้เกิดอัลบั้มที่หก ''[[เรพิวเทชัน (อัลบั้มเทย์เลอร์ สวิฟต์)|เรพิวเทชัน]]'' (2017) ซึ่งดนตรีเปลี่ยนเป็นแนว[[เออร์เบินร่วมสมัย]]
สวิฟต์เกิดและเติบโตใน[[รัฐเพนซิลเวเนีย]] ต่อมาเธอได้ย้ายไปยังเมือง[[แนชวิลล์]] [[รัฐเทนเนสซี]] ขณะอายุ 14 ปี เพื่อหางานทำเกี่ยวกับ[[คันทรี (แนวดนตรี)|เพลงคันทรี]] เธอได้เซ็นสัญญากับค่ายเพลง[[บิกแมชีนเรเคิดส์]] และเป็นนักแต่งเพลงที่อายุน้อยที่สุดที่ได้เซ็นสัญญากับบริษัท[[โซนี/เอทีวีมิวสิกพับบลิชชิง]] อัลบั้มแรกของสวิฟต์มี[[เทย์เลอร์ สวิฟต์ (อัลบัม)|ชื่อเดียวกับตนเอง]] วางจำหน่ายใน ค.ศ. 2006 อัลบั้มเปิดตัวที่อันดับห้าในชาร์ต[[บิลบอร์ด 200|''บิลบอร์ด'' 200]] และอยู่ในชาร์ตได้นานที่สุดในทศวรรษ 2000 ซิงเกิลที่สาม "[[อาวเวอร์ซอง (เพลงเทย์เลอร์ สวิฟต์)|อาวเวอร์ซอง]]" ทำให้เธอเป็นคนที่อายุน้อยที่สุดที่แต่งเพลงด้วยตนเองและเพลงขึ้นอันดับหนึ่งบนชาร์ต[[บิลบอร์ดฮอตเพลงคันทรี]] อัลบั้มที่สอง ''[[เฟียร์เลส (อัลบั้มเทย์เลอร์ สวิฟต์)|เฟียร์เลส]]'' ออกจำหน่ายใน ค.ศ. 2008 หลังจากสามารถติดชาร์ตเพลงป็อป (pop crossover) ได้สำเร็จ ซิงเกิล "[[เลิฟสตอรี (เพลงเทย์เลอร์ สวิฟต์)|เลิฟสตอรี]]" และ "[[ยูบีลองวิทมี]]" ทำให้อัลบั้ม''เฟียร์เลส''เป็นอัลบั้มที่ขายดีที่สุดในสหรัฐใน ค.ศ. 2009 อัลบั้มชนะรางวัลแกรมมี 4 รางวัล และสวิฟต์เป็นนักร้องที่อายุน้อยที่สุดที่ได้รับ[[รางวัลแกรมมีสาขาอัลบั้มเพลงแห่งปี]]
 
หลังจากแยกทางกับค่ายบิกแมชีน แล้วเซ็นสัญญากับ[[รีพับลิกเรเคิดส์]] ใน ค.ศ. 2018 สวิฟต์ออกอัลบั้มที่เจ็ด ''[[เลิฟเวอร์ (อัลบั้มเทย์เลอร์ สวิฟต์)|เลิฟเวอร์]]'' ใน ค.ศ. 2019 หลังจากประสบความสำเร็จในทศวรรษ 2010 เธอก้าวเข้าสู่ดนตรีแนว[[อินดีโฟล์ก]]แล[[ะออลเทอร์นาทิฟร็อก]]ในอัลบั้มสองชุดที่ออกใน ค.ศ. 2020 คือ ''[[โฟล์กลอร์ (อัลบั้มเทย์เลอร์ สวิฟต์)|โฟล์กลอร์]]'' และ''[[เอเวอร์มอร์ (อัลบั้มเทย์เลอร์ สวิฟต์)|เอเวอร์มอร์]]'' ซึ่งเนื้อเพลงได้รับแรงบันดาลใจจากการเก็บตัวในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้รับคำชมในเรื่องการเล่าเรื่องที่คล้ายกัน เพื่อให้ได้สิทธิ์การครอบครองกลับคืนมา หลังเกิดข้อพิพาทเกี่ยวกับมาสเตอร์ของสวิฟต์ เธอออกอัลบั้มเพลงที่บันทึกเสียงใหม่ออกมาสองชุดใน ค.ศ. 2021 ได้แก่ ''[[เฟียร์เลส (เทย์เลอส์เวอร์ชัน)]]'' และ''[[เรด (เทย์เลอส์เวอร์ชัน)]]'' ทั้งสองอัลบั้มได้รับคำชมในด้านดนตรีที่มีคุณภาพมากขึ้น และเสียงร้องที่พัฒนาขึ้นจากเดิม นอกจากดนตรี สวิฟต์ได้รับบทในภาพยนตร์ต่าง ๆ เช่น ''[[วาเลนไทน์เดย์ หวานฉ่ำ วันรักก้องโลก]]'' (2010) และ''[[แคตส์]]'' (2019) เธอออกภาพยนตร์สารคดีอัตชีวประวัติเรื่อง''[[มิสอเมริกานา]]'' (2020) และภาพยนตร์มิวสิคัลที่เธอกำกับเอง ได้แก่ ''[[โฟล์กลอร์: เดอะลองพอนด์สตูดิโอเซสชันส์]]'' (2020) ''[[และออลทูเวล: เดอะชอร์ตฟิล์ม]]'' (2021) และอื่น ๆ
สวิฟต์เป็นนักแต่งเพลงคนเดียวในอัลบั้มที่สาม ''[[สปีกนาว]]'' (2010) อัลบั้มเปิดตัวที่อันดับหนึ่งในสหรัฐ ซิงเกิล "[[มีน (เพลง)|มีน]]" ได้รับรางวัลแกรมมี 2 รางวัล ต่อมาใน ค.ศ. 2012 สวิฟต์ออกอัลบั้มที่สี่ ''[[เรด (อัลบัมเทย์เลอร์ สวิฟต์)|เรด]]'' มีซิงเกิลที่ประสบความสำเร็จ ได้แก่ "[[วีอาร์เนเวอร์เอเวอร์เกตติงแบ็กทูเกเตอร์]]" และ "[[ไอนูว์ยูเวอร์ทรับเบิล]]" อัลบั้มชุดที่ห้า ''[[1989 (อัลบั้มเทย์เลอร์ สวิฟต์)|1989]]'' (2014) เป็นอัลบั้มแนวเพลงป็อป อัลบั้มได้รับรางวัลแกรมมีสามรางวัล ทำให้เธอเป็นศิลปินคนที่ห้า และเป็นศิลปินหญิงคนแรกที่ได้รับรางวัลอัลบั้มแห่งปีถึงสองครั้ง ซิงเกิล "[[เชกอิตออฟ (เพลงเทย์เลอร์ สวิฟต์)|เชกอิตออฟ]]" "[[แบลงก์สเปซ]]" และ "[[แบดบลัด (เพลงเทย์เลอร์ สวิฟต์)|แบดบลัด]]" ขึ้นอันดับหนึ่งในสหรัฐ ออสเตรเลีย และแคนาดา ทัวร์ [[1989 เวิลด์ทัวร์]]ของอัลบั้ม ''1989'' จัดขึ้นใน ค.ศ. 2015 เป็นหนึ่งในทัวร์คอนเสิร์ตรายได้ดีที่สุดตลอดกาล อัลบั้มที่หกของสวิฟต์ ''[[เรพิวเทชัน (อัลบั้มเทย์เลอร์ สวิฟต์)|เรพิวเทชัน]]'' (2017) และซิงเกิลแรก "[[ลุกวอตยูเมดมีดู]]" ขึ้นอันดับหนึ่งในชาร์ตของสหราชอาณาจักร และสหรัฐ อัลบั้มเรพิวเทชันทำให้สวิฟต์เป็นศิลปินคนแรกที่มีอัลบั้มขายได้มากกว่าหนึ่งล้านอัลบั้มในสัปดาห์แรกในสหรัฐถึงสี่อัลบั้ม
 
สวิฟต์เป็นหนึ่งในศิลปินนักดนตรีที่ขายดีที่สุดตลอดกาล เธอขายอัลบั้มได้มากกว่า 40 ล้านอัลบั้ม (เป็นยอดขายในสหรัฐ 27.8 ล้านอัลบั้ม) และยอดดาวน์โหลดซิงเกิล 130 ล้านซิงเกิล ในฐานะนักแต่งเพลง เธอได้รับเกียรติจาก[[สมาคมนักแต่งเพลงแนชวิลล์]] และ[[หอเกียรติยศนักแต่งเพลง]] และถูกรวมอยู่ในรายชื่อนักแต่งเพลงยอดเยี่ยมตลาดกาล จัดอันดับโดย''[[โรลลิงสโตน]]''เมื่อ ค.ศ. 2015 เธอยังได้รับรางวัลแกรมมี 11 รางวัล รางวัล[[เอมมีอะวอดส์]] 1 รางวัล รางวัล[[บิลบอร์ดมิวสิกอะวอดส์|''บิลบอร์ด''มิวสิกอะวอดส์]] 23 รางวัล [[รางวัลสมาคมเพลงคันทรี]] 12 รางวัล ได้รับการบันทึกใน''[[บันทึกสถิติโลกกินเนสส์]]'' 31 รายการ ใน ค.ศ. 2015 เธออยู่ในรายชื่อ "ผู้หญิง 100 คนที่มีอิทธิพลที่สุด" จัดโดยนิตยสาร''[[ไทม์]]'' ( ค.ศ. 2010 และ 2015) หนึ่งในผู้หญิงที่มีรายได้มากที่สุด" (ค.ศ. 2011–2015) "ผู้หญิง 100 คนที่มีอิทธิพลที่สุด" จัดโดยนิตยสาร''[[ฟอบส์]]'' (2015) และรายชื่อ[[ฟอบส์เซเลบริตี 100|คนดัง 100 คนของฟอบส์]] (2016) เธอเป็นผู้หญิงที่อายุน้อยที่สุดที่อยู่ในรายชื่อคนดัง 100 คน และเธออยู่อันดับที่หนึ่ง