ผลต่างระหว่างรุ่นของ "พระราชสังวรญาณ (พุธ ฐานิโย)"

|ฉายา = ฐานิโย{{ฐ}}านิโย

|สมณศักดิ์ = พระราชสังวรญาณ​ วิ.ญาณ

|วันเกิด = [[8 กุมภาพันธ์]] [[พ.ศ. 2465]]

|วันบวชเณร = [[พ.ศ. 2479]]

|วันบวช = [[24 กรกฎาคม]] [[พ.ศ. 2485]]

|วันตาย = [[15 พฤษภาคม]] [[พ.ศ. 2542]]

|วุฒิ = [[เปรียญธรรม 4 ประโยค]]

'''พระราชสังวรญาณ​ญาณ''' วิ.นามเดิม ('''พุธ ฐานิโย)อินทรหา''' ฉายา '''{{ฐ}}านิโย''' ([[8 กุมภาพันธ์]] [[พ.ศ. 2465]] — [[15 พฤษภาคม]] [[พ.ศ. 2542]]) เป็นอดีตเจ้าอาวาส[[วัดป่าสาลวัน]] [[อำเภอเมืองนครราชสีมา]] เป็นพระเกจิอาจารย์อีกท่านหนึ่งแห่งดินแดนอีสาน และเป็นวิปัสสนาจารย์[[สายพระป่าในประเทศไทย]]ลูกศิษย์องค์สุดท้ายของ[[พระครูวิเวกพุทธกิจ (เสาร์ กนฺตสีโล)]] ท่านกำพร้าพ่อแม่มาตั้งแต่เด็ก และในช่วงวัยเด็ก ท่านมักจะมีสุขภาพที่แข็งแรง แต่มีนิสัยอ่อนน้อมถ่อมตนต่อผู้อื่น และสามารถปฏิบัติตนได้อย่างเหมาะสมในขณะอยู่ในเพศบรรพชิต <ref>[http://jedeethai.blogspot.com/2009/12/blog-post_9538.html ประวัติหลวงพ่อพุธ ฐานิโย]</ref>

'''หลวงพ่อพุธ ฐานิโย''' ท่านมีนามเดิมว่า พุธ อินทรหา ท่านเกิดเมื่อวันที่ [[8 กุมภาพันธ์]] [[พ.ศ. 2464]] ณ บ้านหนองหญ้าเส้ง ตำบลสันประดู่ อำเภอหนองโดน จังหวัดสระบุรี เป็นบุตรคนเดียวของบิดามารดา ครอบครัวมีอาชีพทำนาทำไร่ ในช่วงอายุได้ 4 ขวบ มารดาได้ถึงแก่กรรม บิดามีความเสียใจเป็นอันมากจึงนำท่านย้ายมาอยู่บ้านเกิดของบิดาที่ หมู่บ้านโคกพุทรา ตำบลตาลเนิ้ง อำเภอสว่างแดนดิน จังหวัดสกลนคร

หลังจากบรรพชาแล้ว ท่านก็อาศัยอยู่กับท่านพระครูโพธิภูมิไพโรจน์นั่นเอง ท่านได้รับเมตตา จากพระอาจารย์ให้ได้ศึกษาทางด้านปริยัติธรรมด้วย และในพรรษาแรกนี้เอง สามเณรพุธสามารถสอบได้[[นักธรรมชั้นตรี]]<ref> [http://www.bp.or.th/webboard/index.php?topic=22665.0;wap2 หลวงพ่อพุธ] ทรายแก้ว</ref> และเริ่มรับการฝึกอบรมด้าน ปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน จากท่านพระอาจารย์เสาร์เป็นครั้งแรก ต่อมาในปีพ.ศ. 2483 ท่านพระอาจารย์เสาร์ ได้พาหลวงพ่อไปฝากตัวเป็นศิษย์[[พระปัญญาพิศาลเถร (หนู ฐิตปญฺโญ)]] ณ วัดปทุมวนาราม (วัดสระปทุม) กรุงเทพมหานคร ซึ่งหลวงพ่อได้จำพรรษาเรื่อยมาจนอายุครบบวช 21 ปี จึงได้อุปสมบทเมื่อวันที่ [[24 กรกฎาคม]] [[พ.ศ. 2485]] ณ วัดแห่งนี้ หลวงพ่อได้ปฏิบัติศาสนกิจช่วยงานพระศาสนาตลอดมา<ref>[http://www.praboonporn.com/index.php?option=com_content&task=view&id=152&Itemid=48 ชีวประวัติและผลงานของหลวงพ่อพุธ]</ref> และในช่วง[[สงครามแปซิฟิก]] ท่านได้อพยพกลับไปจำพรรษาที่วัดบูรพา จังหวัดอุบลราชธานี และท่านได้อยู่จำพรรษาที่วัดแห่งนั้นจนถึงปี [[พ.ศ. 2489]] ระหว่างนั้นท่านเกิดอาพาธเป็นวัณโรคอย่างหนัก ต่อมาท่านได้พบกับ[[หลวงปู่ฝั้น อาจาโร]] และท่านก็ได้ช่วยรักษาโดยการสอนให้เพ่งอาการ 32 โดยให้พิจารณาถึงความตายให้มากที่สุด ทั้งยัง คอยให้กำลังใจกับท่านตลอดเวลา<ref>[http://www.fungdham.com/sound/put.html เสียงธรรมจากหลวงพ่อพุธ]</ref> จนกระทั่งเมื่อปี [[พ.ศ. 2513]]<ref> [http://www.trueplookpanya.com/true/ethic_detail.php?cms_id=5369 ลำดับเจ้าอาวาสวัดป่าสาลวัน]</ref> ท่านได้รับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดป่าสาลวัน ในระยะเวลาที่ท่านเป็นเจ้าอาวาส ท่านปฏิบัติกิจของสงฆ์อย่างไม่หยุดยั้ง และทำหน้าที่เป็นวิทยากรบรรยายธรรม สร้างคุณประโยชน์ต่อศาสนามากมาย<ref> [http://www.dhammathai.org/monk/sangha46.php ประวัติพระสงฆ์ไทย]</ref> และได้สร้างโรงเรียนราชอุปถัมภ์ สร้างอาคารให้เด็กนักเรียน<ref> '''หนังสือชีวประวัติหลวงพ่อพุธ ฐานิโย'''</ref> มอบทุนสนับสนุนการก่อตั้งมูลนิธิของโรงเรียน ตลอดจนหน่วยงาน ราชการต่างๆ - นอกจากนี้ท่านยังช่วยจัดซื้อเครื่องมือแพทย์ให้กับโรงพยาบาลเสมอๆ - อีกทั้งยังมอบทุนสนับสนุนการก่อสร้างตึกสงฆ์อาพาธ โรงพยาบาล มหาราช จังหวัดนครราชสีมา - รวมทั้งมอบทุนสนับสนุนการก่อตั้งมูลนิธิของโรงพยาบาลต่างๆ อีกด้วย

หลวงพ่อพุธ ฐานิโย ได้ถึงแก่มรณภาพเมื่อวันที่ [[15 พฤษภาคม]] [[พ.ศ. 2542]] รวมสิริอายุได้ 78 ปี <ref> [http://taniyo.blogspot.com/2010/10/115.html หลวงพ่อพุธ มรณภาพแล้วไปไหน]</ref>

|ปี = [[พ.ศ. 2513]] -— [[พ.ศ. 2542]]