ผลต่างระหว่างรุ่นของ "วิธีเว็บสเตอร์/แซ็งต์-ลากูว์"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Ekapoj yam (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Potapt (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 1:
{{ระบบการลงคะแนน}}
'''วิธีเวบสเตอร์เว็บสเตอร์/แซ็งต์ลากูว์แซ็งต์-ลากูว์''' ({{lang-en|Webster/Sainte-Laguë method}}) หรือนิยมเรียกสั้นๆสั้น ๆ ว่า '''วิธีเวบสเตอร์เว็บสเตอร์''' หรือ '''วิธีแซงต์ลากูว์แซ็งต์-ลากูว์''' ({{IPA-fr|sɛ̃t.la.ɡy}}) เป็นวิธีการคำนวนหาคำนวณหา[[วิธีค่าเฉลี่ยสูงสุด|ค่าเฉลี่ยสูงสุด]]สำหรับการจัดสรรปันส่วนที่นั่งใน[[ระบบสัดส่วนแบบบัญชีรายชื่อ]]ซึ่งใช้ใน[[ระบบการลงคะแนน]]หลายระบบ ในยุโรปตั้งชื่อตามนักคณิตศาสตร์ชาวฝรั่งเศส [[อ็องเดร แซงต์ลากูว์แซ็งต์-ลากูว์]] นักคณิตศาสตร์ชาวฝรั่งเศส ส่วนในสหรัฐตั้งชื่อตามรัฐบุรุษและวุฒิสมาชิก [[แดเนียล เวบสเตอร์เว็บสเตอร์]] รัฐบุรุษและวุฒิสมาชิก วิธีนี้คล้ายกับ[[วิธีดงท์โดนต์]] (D'Hondt method) แต่ใช้ตัวหารที่ต่างกัน ในกรณีส่วนใหญ่ใน[[วิธีเหลือเศษสูงสุด]]ซึ่งใช้[[โควต้าโควตาแฮร์]]ได้ผลลัพธ์ที่เกือบจะเหมือนกัน วิธีดงท์โดนต์ให้ผลลัพธ์ที่คล้ายกันด้วย แต่ช่วยให้พรรคใหญ่ได้เปรียบกว่าเมื่อเทียบกับวิธีเวบสเตอร์เว็บสเตอร์/แซ็งต์ลากูว์แซ็งต์-ลากูว์<ref name="lijphart">{{citation |last=Lijphart |first=Arend |author-link=Arend Lijphart |contribution=Degrees of proportionality of proportional representation formulas |editor1-last=Grofman |editor1-first=Bernard |editor2-last=Lijphart |editor2-first=Arend |title=Electoral Laws and Their Political Consequences |publisher=Algora Publishing |year=2003 |pages=170–179 |series=Agathon series on representation |volume=1 |isbn=9780875862675}} See in particular the section "Sainte-Lague", [https://books.google.com/books?id=o1dqas0m8kIC&pg=PA174 pp. 174–175].</ref>
 
วิธีเวบสเตอร์เว็บสเตอร์/แซ็งต์ลากูว์แซ็งต์-ลากูว์ถูกมองว่าเป็นวิธีที่เป็นสัดส่วนกว่า แต่ยังมีความเสี่ยงที่จะทำให้พรรคการเมืองที่ได้คะแนนเสียงมากกว่าครึ่งหนึ่งแต่สามารถได้ที่นั่งน้อยกว่าครึ่งหนึ่งของสภา<ref>For example with three seats, a 55-25-20 vote is seen to be more proportionally represented by an allocation of 1-1-1 seats than by 2-1-0.</ref> โดยมากจะมีเกณฑ์คะแนนเสียงขั้นต่ำซึ่งเมื่อก่อนจะจัดสรรที่นั่งได้พรรคการเมืองจะต้องได้รับจำนวนคะแนนเสียงอย่างน้อยจำนวนหนึ่ง
'''วิธีเวบสเตอร์/แซ็งต์ลากูว์''' (Webster/Sainte-Laguë method) หรือนิยมเรียกสั้นๆว่า '''วิธีเวบสเตอร์''' หรือ '''วิธีแซงต์ลากูว์''' ({{IPA-fr|sɛ̃t.la.ɡy}}) เป็นวิธีการคำนวนหา[[วิธีค่าเฉลี่ยสูงสุด|ค่าเฉลี่ยสูงสุด]]สำหรับการจัดสรรปันส่วนที่นั่งใน[[ระบบสัดส่วนแบบบัญชีรายชื่อ]]ซึ่งใช้ใน[[ระบบการลงคะแนน]]หลายระบบ ในยุโรปตั้งชื่อตามนักคณิตศาสตร์ชาวฝรั่งเศส [[อ็องเดร แซงต์ลากูว์]] ส่วนในสหรัฐตั้งชื่อตามรัฐบุรุษและวุฒิสมาชิก [[แดเนียล เวบสเตอร์]] วิธีนี้คล้ายกับ[[วิธีดงท์]] (D'Hondt method) แต่ใช้ตัวหารที่ต่างกัน ในกรณีส่วนใหญ่ใน[[วิธีเหลือเศษสูงสุด]]ซึ่งใช้[[โควต้าแฮร์]]ได้ผลลัพธ์ที่เกือบจะเหมือนกัน วิธีดงท์ให้ผลลัพธ์ที่คล้ายกันด้วย แต่ช่วยให้พรรคใหญ่ได้เปรียบกว่าเมื่อเทียบกับวิธีเวบสเตอร์/แซ็งต์ลากูว์<ref name="lijphart">{{citation |last=Lijphart |first=Arend |author-link=Arend Lijphart |contribution=Degrees of proportionality of proportional representation formulas |editor1-last=Grofman |editor1-first=Bernard |editor2-last=Lijphart |editor2-first=Arend |title=Electoral Laws and Their Political Consequences |publisher=Algora Publishing |year=2003 |pages=170–179 |series=Agathon series on representation |volume=1 |isbn=9780875862675}} See in particular the section "Sainte-Lague", [https://books.google.com/books?id=o1dqas0m8kIC&pg=PA174 pp. 174–175].</ref>
 
เวบสเตอร์เว็บสเตอร์ได้เสนอวิธีนี้ในปี ค.ศ. 1832 และ ค.ศ. 1842 ซึ่งได้ถูกใช้ในการจัดสรรที่นั่งให้กับ[[สภาคองเกรส]] และต่อมาได้ถูกแทนที่ด้วย[[วิธีเหลือเศษสูงสุด|วิธีแฮมิลตัน]] และในปี ค.ศ. 1911 วิธีเวบสเตอร์เว็บสเตอร์ได้ถูกนำกลับมาใช้อีกครั้งหนึ่ง<ref name="ReferenceA">{{cite book |last1=Balinski |first1=Michel L. |last2=Peyton |first2=Young |title=Fair Representation: Meeting the Ideal of One Man, One Vote |date=1982}}</ref> ต่อมาในปี ค.ศ. 1940 จึงถูกเปลี่ยนมาใช้[[วิธีฮันติงตัน-ฮิลล์]] ในฝรั่งเศส อ็องเดร แซ็งต์ลากูว์แซ็งต์-ลากูว์ ได้กล่าวถึงวิธีนี้ในบทความของเขาในปี ค.ศ. 1910 โดยคาดว่าฝรั่งเศสและยุโรปนั้นไม่รับรู้ถึงวิธีเวบสเตอร์เว็บสเตอร์จนกระทั่งสงครามโลกครั้งที่สองจบลง
วิธีเวบสเตอร์/แซ็งต์ลากูว์ถูกมองว่าเป็นวิธีที่เป็นสัดส่วนกว่า แต่ยังมีความเสี่ยงที่จะทำให้พรรคการเมืองที่ได้คะแนนเสียงมากกว่าครึ่งหนึ่งแต่สามารถได้ที่นั่งน้อยกว่าครึ่งหนึ่งของสภา<ref>For example with three seats, a 55-25-20 vote is seen to be more proportionally represented by an allocation of 1-1-1 seats than by 2-1-0.</ref> โดยมากจะมีเกณฑ์คะแนนเสียงขั้นต่ำซึ่งเมื่อก่อนจะจัดสรรที่นั่งได้พรรคการเมืองจะต้องได้รับจำนวนคะแนนเสียงอย่างน้อยจำนวนหนึ่ง
 
วิธีเวบสเตอร์เว็บสเตอร์/แซ็งต์ลากูว์ใช้ในแซ็งต์-ลากูว์ใช้ใน[[บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนาคอซอวอ]] [[อิรักนอร์เวย์]] [[โคโซโวนิวซีแลนด์]] [[แลตเวียบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา]] [[นิวซีแลนด์ลัตเวีย]] [[นอร์เวย์สวีเดน]] และ[[สวีเดนอิรัก]] ใน[[เยอรมนี]]ใช้ในระดับรัฐสภากลางสำหรับ[[บุนเดิสทาค]] และในระดับรัฐนั้นใช้ในการเลือกตั้งสภานิติบัญญัติใน[[รัฐบาเดินชเลสวิช-เวือร์ทเทิมแบร์คฮ็อลชไตน์]] [[รัฐนอร์ทไรน์-เว็สท์ฟาเลิน]] ]][[รัฐไรน์ลันท์บาเดิน-ฟัลทซ์เวือร์ทเทิมแบร์ค]] [[รัฐชเลสวิชไรน์ลันท์-ฮ็อลชไตน์ฟัลทซ์]] [[เบรเมิน]] และ[[ฮัมบวร์ค]] ใน[[เดนมาร์ก]]ใช้ในการจัดสรรที่นั่งจำนวน 40 ที่นั่งจากทั้งหมด 179 ที่นั่งใน[[รัฐสภาเดนมาร์ก]] โดยใช้เสริมกับ[[วิธีดงท์โดนต์]]
เวบสเตอร์ได้เสนอวิธีนี้ในปีค.ศ. 1832 และค.ศ. 1842 ซึ่งได้ถูกใช้ในการจัดสรรที่นั่งให้กับ[[สภาคองเกรส]] และต่อมาได้ถูกแทนที่ด้วย[[วิธีเหลือเศษสูงสุด|วิธีแฮมิลตัน]] และในปีค.ศ. 1911 วิธีเวบสเตอร์ได้ถูกนำกลับมาใช้อีกครั้งหนึ่ง<ref name="ReferenceA">{{cite book |last1=Balinski |first1=Michel L. |last2=Peyton |first2=Young |title=Fair Representation: Meeting the Ideal of One Man, One Vote |date=1982}}</ref> ต่อมาในปีค.ศ. 1940 จึงถูกเปลี่ยนมาใช้[[วิธีฮันติงตัน-ฮิลล์]] ในฝรั่งเศส อ็องเดร แซ็งต์ลากูว์ ได้กล่าวถึงวิธีนี้ในบทความของเขาในปีค.ศ. 1910 โดยคาดว่าฝรั่งเศสและยุโรปนั้นไม่รับรู้ถึงวิธีเวบสเตอร์จนกระทั่งสงครามโลกครั้งที่สองจบลง
 
นอกจากนี้ในอดีตยังเคยใช้ใน[[โบลิเวีย]]ในปี ค.ศ. 1993 [[โปแลนด์]]ในปี ค.ศ. 2001 และใน[[สภานิติบัญญัติปาเลสไตน์]]ในปี ค.ศ. 2006 นอกจากนี้วิธีอื่นที่คล้ายกันซึ่งเรียกว่า วิธีแซงต์ลากูว์แซ็งต์-ลากูว์แบบปรับแต่ง (modified Sainted-Laguë) ได้ถูกใช้ในการจัดสรรปันส่วนที่นั่งใน[[ระบบสัดส่วน]]ของการเลือกตั้งทั่วไปในเนปาล ค.ศ. 2008 และยังใช้วิธีเดียวกันนี้ใน[[การเลือกตั้งในประเทศอินโดนีเซีย ค.ศ. 2019|การเลือกตั้งในอินโดนีเซียในปี ค.ศ. 2019]]<ref>{{cite news |title=New votes-to-seats system makes elections 'fairer' |url=https://www.thejakartapost.com/news/2018/05/28/new-votes-seats-system-makes-elections-fairer.html |access-date=19 April 2019 |work=[[The Jakarta Post]] |date=28 May 2018}}</ref>
วิธีเวบสเตอร์/แซ็งต์ลากูว์ใช้ใน[[บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา]] [[อิรัก]] [[โคโซโว]] [[แลตเวีย]] [[นิวซีแลนด์]] [[นอร์เวย์]] และ[[สวีเดน]] ใน[[เยอรมนี]]ใช้ในระดับรัฐสภากลางสำหรับ[[บุนเดิสทาค]] และในระดับรัฐนั้นใช้ในการเลือกตั้งสภานิติบัญญัติใน[[รัฐบาเดิน-เวือร์ทเทิมแบร์ค]] [[รัฐนอร์ทไรน์-เว็สท์ฟาเลิน]] ]]รัฐไรน์ลันท์-ฟัลทซ์]] [[รัฐชเลสวิช-ฮ็อลชไตน์]] [[เบรเมิน]] และ[[ฮัมบวร์ค]] ใน[[เดนมาร์ก]]ใช้ในการจัดสรรที่นั่งจำนวน 40 ที่นั่งจากทั้งหมด 179 ที่นั่งใน[[รัฐสภาเดนมาร์ก]] โดยใช้เสริมกับ[[วิธีดงท์]]
 
วิธีนี้ยังได้รับการเสนอโดยพรรคกรีนใน[[ไอร์แลนด์]]เพื่อใช้ในการปฏิรูปเพื่อใช้ในการเลือกตั้งสภาล่าง<ref>[http://www.greenparty.ie/news/latest_news/political_reform_vital_to_ireland_s_prosperity Ireland's Green Party website]</ref> และใช้โดยรัฐบาลผสมอนุรักษ์นิยมอนุรักษนิยมและเสรีประชาธิปไตยของ[[สหราชอาณาจักร]]ในปี ค.ศ. 2011 เพื่อใช้เป็นวิธีคำนวนคำนวณการจัดสรรที่นั่งในการเลือกตั้ง[[สภาขุนนาง]]<ref>{{cite web |url=http://www.cabinetoffice.gov.uk/sites/default/files/resources/house-of-lords-reform-draft-bill.pdf |date=May 2011 |title=House of Lords Reform Draft Bill |publisher=[[Cabinet Office]] |page=16}}</ref> คณะกรรมการการเลือกตั้งของสหราชอาณาจักรได้ใช้วิธีนี้ในปี ค.ศ. 2003, 2007, 2010 และ 2013 เพื่อจัดสรรที่นั่งของสหราชอาณาจักรใน[[สภายุโรป]]ในฐานะของเขตเลือกตั้งสหราชอาณาจักรและภูมิภาคอังกฤษ<ref>{{cite web |url=https://www.electoralcommission.org.uk/sites/default/files/pdf_file/Distribution-of-UK-MEPs-among-electoral-regions.pdf |publisher=Electoral Commission |access-date=21 December 2019}}</ref><ref>{{cite web |title=European Parliament (Number of MEPs and Distribution between Electoral Regions) (United Kingdom and Gibraltar) Order 2008 - Hansard |url=https://hansard.parliament.uk/Lords/2008-07-02/debates/08070260000008/EuropeanParliament(NumberOfMepsAndDistributionBetweenElectoralRegions)(UnitedKingdomAndGibraltar)Order2008 |website=hansard.parliament.uk}}</ref> โดยกฏหมายสภายุโรป ค.ศ.​ 2003 บัญญัติให้แต่ละภูมิภาคจะต้องได้รับอย่างน้อย 3 ที่นั่ง และอัตราส่วนของผู้แทนต่อที่นั่งจะต้องเกือบเท่ากันในแต่ละภูมิภาค โดยคณะกรรมการเห็นว่าวิธีแซงต์ลากูว์แซ็งต์-ลากูว์นั้นทำให้ได้[[ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน]]น้อยที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับ[[วิธีดงท์โดนต์]] และ[[โควต้าโควตาแฮร์]]<ref>{{cite web |url=http://www.europarl.europa.eu/sides/getDoc.do?pubRef=-//EP//NONSGML+IM-PRESS+20070604IPR07417+EN+DOC+PDF+V0//EN&language=EN}}</ref><ref>{{cite journal |last=McLean |first=Iain |title=Don't let the lawyers do the math: Some problems of legislative districting in the UK and the USA |journal=Mathematical and Computer Modelling |date=1 November 2008 |volume=48 |issue=9 |pages=1446–1454 |doi=10.1016/j.mcm.2008.05.025 |issn=0895-7177}}</ref>
นอกจากนี้ในอดีตยังเคยใช้ใน[[โบลิเวีย]]ในปีค.ศ. 1993 [[โปแลนด์]]ในปีค.ศ. 2001 และใน[[สภานิติบัญญัติปาเลสไตน์]]ในปีค.ศ. 2006 นอกจากนี้วิธีอื่นที่คล้ายกันซึ่งเรียกว่า วิธีแซงต์ลากูว์แบบปรับแต่ง (modified Sainted-Laguë) ได้ถูกใช้ในการจัดสรรปันส่วนที่นั่งใน[[ระบบสัดส่วน]]ของการเลือกตั้งทั่วไปในเนปาล ค.ศ. 2008 และยังใช้วิธีเดียวกันนี้ใน[[การเลือกตั้งในประเทศอินโดนีเซีย ค.ศ. 2019|การเลือกตั้งในอินโดนีเซียในปีค.ศ. 2019]]<ref>{{cite news |title=New votes-to-seats system makes elections 'fairer' |url=https://www.thejakartapost.com/news/2018/05/28/new-votes-seats-system-makes-elections-fairer.html |access-date=19 April 2019 |work=[[The Jakarta Post]] |date=28 May 2018}}</ref>
 
==การคำนวนคำนวณ==
วิธีนี้ยังได้รับการเสนอโดยพรรคกรีนใน[[ไอร์แลนด์]]เพื่อใช้ในการปฏิรูปเพื่อใช้ในการเลือกตั้งสภาล่าง<ref>[http://www.greenparty.ie/news/latest_news/political_reform_vital_to_ireland_s_prosperity Ireland's Green Party website]</ref> และใช้โดยรัฐบาลผสมอนุรักษ์นิยมและเสรีประชาธิปไตยของ[[สหราชอาณาจักร]]ในปีค.ศ. 2011 เพื่อใช้เป็นวิธีคำนวนการจัดสรรที่นั่งในการเลือกตั้ง[[สภาขุนนาง]]<ref>{{cite web |url=http://www.cabinetoffice.gov.uk/sites/default/files/resources/house-of-lords-reform-draft-bill.pdf |date=May 2011 |title=House of Lords Reform Draft Bill |publisher=[[Cabinet Office]] |page=16}}</ref> คณะกรรมการการเลือกตั้งของสหราชอาณาจักรได้ใช้วิธีนี้ในปีค.ศ. 2003, 2007, 2010 และ 2013 เพื่อจัดสรรที่นั่งของสหราชอาณาจักรใน[[สภายุโรป]]ในฐานะของเขตเลือกตั้งสหราชอาณาจักรและภูมิภาคอังกฤษ<ref>{{cite web |url=https://www.electoralcommission.org.uk/sites/default/files/pdf_file/Distribution-of-UK-MEPs-among-electoral-regions.pdf |publisher=Electoral Commission |access-date=21 December 2019}}</ref><ref>{{cite web |title=European Parliament (Number of MEPs and Distribution between Electoral Regions) (United Kingdom and Gibraltar) Order 2008 - Hansard |url=https://hansard.parliament.uk/Lords/2008-07-02/debates/08070260000008/EuropeanParliament(NumberOfMepsAndDistributionBetweenElectoralRegions)(UnitedKingdomAndGibraltar)Order2008 |website=hansard.parliament.uk}}</ref> โดยกฏหมายสภายุโรป ค.ศ.​ 2003 บัญญัติให้แต่ละภูมิภาคจะต้องได้รับอย่างน้อย 3 ที่นั่ง และอัตราส่วนของผู้แทนต่อที่นั่งจะต้องเกือบเท่ากันในแต่ละภูมิภาค โดยคณะกรรมการเห็นว่าวิธีแซงต์ลากูว์นั้นทำให้ได้[[ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน]]น้อยที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับ[[วิธีดงท์]] และ[[โควต้าแฮร์]]<ref>{{cite web |url=http://www.europarl.europa.eu/sides/getDoc.do?pubRef=-//EP//NONSGML+IM-PRESS+20070604IPR07417+EN+DOC+PDF+V0//EN&language=EN}}</ref><ref>{{cite journal |last=McLean |first=Iain |title=Don't let the lawyers do the math: Some problems of legislative districting in the UK and the USA |journal=Mathematical and Computer Modelling |date=1 November 2008 |volume=48 |issue=9 |pages=1446–1454 |doi=10.1016/j.mcm.2008.05.025 |issn=0895-7177}}</ref>
ภายหลังได้ผลคะแนนเสียงรวมทั้งหมดแล้ว จะต้องคำนวนคำนวณหาผลหารเป็นชุดสำหรับแต่ละพรรคการเมือง โดยใช้สูตรดังนี้<ref name="lijphart"/>
 
==การคำนวน==
ภายหลังได้ผลคะแนนเสียงรวมทั้งหมดแล้ว จะต้องคำนวนหาผลหารเป็นชุดสำหรับแต่ละพรรคการเมือง โดยใช้สูตรดังนี้<ref name="lijphart"/>
 
:: <math>\text{quotient} = \frac V {2s+1}</math>
เส้น 22 ⟶ 21:
* ''s'' แทนจำนวนที่นั่งซึ่งได้รับการจัดสรรไปแล้วสำหรับพรรคการเมืองนั้น เริ่มจาก 0 สำหรับทุกพรรค
 
พรรคใดที่ได้ผลหารสูงสุดจะได้ที่นั่งไป และจะถูกคำนวนใหม่คำนวณใหม่ โดยทำซ้ำขั้นตอนเดิมจนกว่าจะได้ครบทุกที่นั่ง
 
วิธีเวบสเตอร์เว็บสเตอร์/แซ็งต์ลากูว์แซ็งต์-ลากูว์ไม่ได้รับรองว่าพรรคการเมืองที่ได้คะแนนเสียงมากกว่าครึ่งหนึ่งจะได้ที่นั่งเกินครึ่ง แม้แต่วิธีที่ปรับแต่งแล้วก็เช่นกัน<ref>{{citation|contribution=Election inversions under proportional representation|url=http://userpages.umbc.edu/~nmiller/RESEARCH/NRMILLER.PCS2013.pdf|first=Nicholas R.|last=Miller|date=February 2013|title=Annual Meeting of the Public Choice Society, New Orleans, March 8-10, 2013}}.</ref>
 
===ตัวอย่าง===
ในตัวอย่างนี้ ผู้ลงคะแนนจำนวน 230,000 คนจะต้องลงคะแนนเพื่อเลือกผู้แทน 8 คน โดยมีพรรคการเมือง 4 พรรค โดยทั้ง 8 ที่นั่งจะต้องได้รับการจัดสรร โดยคะแนนเสียงของแต่ละพรรคจะต้องหารด้วย 1 ตามด้วย 3 และ 5 (และต่อไปเรื่อยๆเรื่อย ๆ) จำนวนสุูงที่สุด 8 จำนวน เริ่มตั้งแต่ '''100,000''' ลงมาถึง '''16,000''' เป็นผู้ชนะในแต่ละที่นั่ง
 
สำหรับการเปรียบเทียบ คอลัมน์สดมภ์ "สัดส่วนที่แท้จริง" ในตารางถัดไปแสดงให้เห็นจำนวนเป็นจุดทศนิยมของแต่ละพรรคการเมือง โดยคำนวนคำนวณจากสัดส่วนของคะแนนเสียงต่อที่นั่งที่มีทั้งหมด (เช่น 100,000÷230,000 = 3.48)
 
{| class="wikitable"
!''รอบคำนวนคำนวณ''
''(1 ที่นั่งต่อรอบ)''
!1
เส้น 117 ⟶ 116:
|}
 
ตารางข้างล่างแสดงให้เห็นการคำนวนคำนวณอย่างง่าย
 
{|class="wikitable"
เส้น 137 ⟶ 136:
|}
 
[[วิธีดงท์โดนต์]]นั้นแตกต่างกันตรงสูตรคำนวนคำนวณในการหาผลหาร <math>\left( \text{quotient} = \frac V {s+1} \right) </math> ซึ่งเมื่อใช้สูตรนี้แทน พรรค A จะได้รับ 4 ที่นั่ง ในขณะที่พรรค D ไม่ได้เลย ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความได้เปรียบของพรรคการเมืองใหญ่ที่คะแนนเสียงมาก<ref name="lijphart"/>
 
{{clr}}
 
==อ้างอิง==