ผลต่างระหว่างรุ่นของ "สันนิบาตชาติ"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Matable (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ป้ายระบุ: การแก้ไขแบบเห็นภาพ แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
→‎สันนิบาตชาติ: แก้ไขการสะกด
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขด้วยแอปสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขด้วยแอปสำหรับแอนดรอยด์
บรรทัด 40:
ปรัชญาด้านการทูตที่อยู่เบื้องหลังของสันนิบาตเป็นตัวแทนของการเปลี่ยนแปลงรากฐานจากช่วงร้อยปีก่อนหน้านี้ สันนิบาตนั้นไม่มีกองกำลังติดอาวุธเป็นของตัวเองและขึ้นอยู่กับประเทศต่างๆ ในฝ่ายสัมพันธมิตรที่เป็นฝ่ายชนะใน[[สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง]] (ฝรั่งเศส สหราชอาณาจักร อิตาลี และญี่ปุ่น ซึ่งเป็นสมาชิกถาวรของสภาบริหาร) เพื่อบังคับใช้ในการลงมติ บทลงโทษด้วยการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ หรือให้จัดตั้งกองทัพเมื่อมีความจำเป็น [[มหาอำนาจ]]มักจะไม่เต็มใจที่จะกระทำเช่นนั้น บทลงโทษนั้นอาจจะไปทำร้ายต่อประเทศสมาชิกในสันนิบาต ดังนั้นพวกเขาจึงไม่เต็มใจที่จะปฏิบัติตาม ในช่วง[[สงครามอิตาลี-อะบิสซิเนียครั้งที่สอง]] เมื่อสันนิบาตได้กล่าวหาว่า ทหารอิตาลีได้กำหนดเป้าหมายโจมตีไปที่เต็นท์แพทย์ของ[[กาชาด|หน่วยงานกาชาด]] [[เบนิโต มุสโสลินี]]ได้ตอบไปว่า "สันนิบาตนี้ดีนักหนา เมื่อนกกระจอกส่งเสียงร้องเอะอะโวยวาย แต่คงไม่ดีทั้งหมดเลย เมื่อนกอินทรีได้หลุดออกไป"<ref>{{cite web|url=http://www.oldsite.transnational.org/Area_MiddleEast/2008/Jahanpour_SC-Iran.pdf|title=The Elusiveness of Trust: the experience of Security Council and Iran|accessdate=27 June 2008|publisher=Transnational Foundation of Peace and Future Research|last=Jahanpour|first=Farhang|page=2|archive-url=https://web.archive.org/web/20140727102504/http://www.oldsite.transnational.org/Area_MiddleEast/2008/Jahanpour_SC-Iran.pdf|archive-date=27 July 2014|url-status=live}}</ref>
 
ด้วยองค์กรนี้ได้เติบโตขยายมากขึ้น ตั้งแต่วันที่ 28 กันยายน ค.ศ. 1934 ถึง 23 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1935 ได้มีสมาชิกถึง 58 สมาชิก ภายหลังจากที่ประสบความสำเร็จอย่างโดดเด่นและบางส่วนก็ประสบความล้มเหลวในปี ค.ศ. 1920 ในท้ายที่สุด สันนิบาตได้แสดงให้เห็นแล้วว่า ไม่สามารถขัดขวางความก้าวร้าวของ[[ฝ่ายอักษะ]]ในปี ค.ศ. 1930 ความน่าเชื่อถือขององค์กรได้ลดลงจากข้อเท็จจริงที่ว่า[[สหรัฐอเมริกา]]ไม่เคยเข้าร่วมสันนิบาตและ[[สหภาพโซเวียต]]ได้เข้าร่วมในช่วงปลายปีและไม่นานก็ถูกขับไล่ในภายหลังจาก[[สงครามฤดูหนาว|ได้เข้ารุกรานฟินแลนด์]].<ref>{{cite book|title=The participation of the Soviet Union in universal international organizations.: A political and legal analysis of Soviet strategies and aspirations inside ILO, UNESCO and WHO|author=Osakwe, C O|year=1972|publisher=Springer|url=https://books.google.com/books?id=e2OmtJvNjHoC|page=5|isbn=978-9028600027}}</ref><ref>{{cite book|author=Pericles, Lewis|year=2000|publisher=Cambridge University Press|title=Modernism, Nationalism, and the Novel|url=https://books.google.com/books?id=F-ImKOwYvsoC|page=52|isbn=9781139426589}}</ref><ref>{{cite book|title=Historical Dictionary of the League of Nations|author=Ginneken, Anique H. M. van|year=2006|publisher=Scarecrow Press|url=https://books.google.com/books?id=-mjkuGZLhBIC|page=174|isbn=9780810865136}}</ref><ref>{{cite book|title=The Origin, Structure & Working of the League of Nations|author=Ellis, Charles Howard|year=2003|publisher=Lawbook Exchange Ltd|url=https://books.google.com/books?id=xmIsAveUZRgC|page=169|isbn=9781584773207}}</ref> เยอรมนีได้ถอนตัวออกจากสันนิบาตเช่นเดียวกับญี่ปุ่น อิตาลี เสปนสเปน และอื่นๆ การริเริ่มของ[[สงครามโลกครั้งที่สอง]]ได้แสดงให้เห็นว่า สันนิบาตได้ประสบความล้มเหลวในเป้าหมายหลักนั่นคือเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดสงครามโลกในอนาคต สันนิบาติได้ดำรงอยู่ถึง 26 ปี [[สหประชาชาติ]] (UN) ได้เข้ามาแทนที่ในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สองสิ้นสุดลง และได้สืบทอดหน่วยงานและองค์กรต่างๆ ที่ก่อตั้งขึ้นโดยสันนิบาต
 
== ที่มา ==