ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เผิง เต๋อหวย"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Matable (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ป้ายระบุ: การแก้ไขแบบเห็นภาพ แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
Matable (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 46:
เผิงเป็นหนึ่งในผู้นำทางทหารระดับชั้นอาวุโสเพียงไม่กี่คนที่สนับสนุนข้อเสนอแนะของเหมาในการมีส่วนร่วมโดยตรงของจีนใน[[สงครามเกาหลี]] ปี ค.ศ. 1950-1953 และเขาได้ดำรงตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการโดยตรงของ[[กองทัพทหารอาสาสมัครประชาชนชาวจีน]]ในช่วงครึ่งแรกของสงคราม(แม้ว่าเหมาและ[[โจว เอินไหล]]จะเป็นผู้นำทางด้านกลยุทธ์มากกว่า) ด้วยประสบการณ์ของเผิงในสงครามเกาหลีทำให้เขามีความเชื่อว่ากองทัพจีนต้องมีความเป็นมืออาชีพมากขึ้น มีระเบียบวินัย และมีอุปกรณ์ติดตั้งที่ดีในการเตรียมความพร้อมสำหรับเงื่อนไขของการสงครามเทคนิคสมัยใหม่ เนื่องจาก[[สหภาพโซเวียต]]เป็นประเทศคอมมิวนิสต์เพียงประเทศเดียวที่มีกองทัพที่ทันสมัยและมีความเป็นมืออาชีพ เผิงจึงพยายามทำการปฏิรูปกองทัพจีนตามแบบของโซเวียตในอีกหลายปีข้างหน้า ทำให้กองทัพมีความคิดเห็นทางการเมืองที่น้อยลงและมีความเป็นมืออาชีพมากขึ้น(ซึ่งขัดกับเป้าหมายทางการเมืองของเหมา) เผิงต่อต้านความพยายามของเหมาที่จะพัฒนาลัทธิบูชาบุคคลตลอดในช่วงปี ค.ศ. 1950 และเมื่อนโยบายเศรษฐกิจของเหมาที่เกี่ยวข้องอย่าง[[การก้าวกระโดดไกลไปข้างหน้า]]เป็นสาเหตุทำให้เกิดทุกขพิกภัยทั่วประเทศ เผิงก็ได้วิพากษ์วิจารณ์ความเป็นผู้นำของเหมา การแข่งขันระหว่างเผิงและเหมาสิ้นสุดลงด้วยการเผชิญหน้ากันอย่างเปิดเผยระหว่างทั้งสองคนใการประชุมที่หลูฮัน เหมาได้เอาชนะในการเผชิญหน้าครั้งนี้ โดยระบุว่า เผิงเป็นผู้นำของ"กลุ่มต่อต้านพรรค" และการกำจัดเผิงจากตำแหน่งที่มีอิทธิพลทั้่งหมดสำหรับชีวิตที่เหลือของเขา
 
เผิงได้อาศัยอยู่อย่างคนไร้ชื่อเสียงตามความเป็นจริงจนถึงปี ค.ศ. 1965 เมื่อนักปฏิรูปอย่าง[[หลิว เส้าฉี]]และ[[เติ้ง เสี่ยวผิง]]ได้สนับสนุนการกลับเข้าสู่รัฐบาลแบบจำกัดของนายเผิง ซึ่งกำลังพัฒนาอุตสาหกรรมทางทหารในทางด้านตะวันเฉียงใต้ของจีน ในปี ค.ศ. 1966 ตามมาด้วยเกิด[[การปฏิวัติทางวัฒนธรรม]] เผิงถูกจับกุมโดย[[ยุวชนแดง]] ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1966-1970 กลุ่มหัวรุนแรงภายในพรรคคอมมิวนิสต์นำโดยหลิน เปียวและ[[เจียง ชิง]] ภรรยาของเหมา ได้เลือกตัวเผิงแบบเจาะจงเพื่อทำการประหัตรประหารระดับชาติและเผิงก็ถูกประจานต่อหน้าสาธารณชนทำให้ได้รับความอับอายในการต่อสู้ครั้งใหญ่หลายครั้งและถูกทรมานทั้งทางร่ายกายและจิตใจในความพยายามที่จะบังคับให้เผิงยอมรับสารภาพว่า "ทำการก่ออาชญากรรม"ต่อเหมา เจ๋อตงและพรรคคอมมิวนิสต์ ในปี ค.ศ. 1970 เผิงได้รับการพิจารณาคดีอย่างเป็นทางการและถูกตัดสินให้จำคุกตลอดชีวิต และเขาเสียชีวิตภายในคุกในปี ค.ศ. 1974 ภายหลังจากการถึงแก่อสัญกรรมของเหมาในปี ค.ศ. 1976 เติ้ง เสี่ยวผิงซึ่งเป็นพันธมิตรเก่าแก่ของเผิงได้กลายเป็นผู้นำที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของจีน เติงได้นำความพยายามอย่างเป็นทางการในการฟื้นฟูผู้คนที่ถูกข่มเหงอย่างไม่เป็นธรรมในช่วงการปฏิวัติทางวัฒนธรรม และเผิงเป็นหนึ่งในผู้นำคนแรกที่ได้รับการกอบกู้ชื่อเสียงภายหลังการตายในปี ค.ศ. 1978 ในประเทศจีนยุคใหม่ เผิงได้รับการนับถือว่าเป็นนายพลคนหนึ่งที่ประสบความเร็จและได้รับการยอมรับสูงสุดในประวัติศาสตร์ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน
 
{{birth|1898}}