ผลต่างระหว่างรุ่นของ "แคทารีน เฮปเบิร์น"
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Novaskosia (คุย | ส่วนร่วม) |
|||
บรรทัด 72:
หลังจากล้มเหลวในอาชีพ เฮปเบิร์นพยายามกลับคืนสู่ความนิยมอีกครั้ง เธอออกจากฮอลลีวูดเพื่อรับงานแสดงละครเวที และเซ็นต์สัญญาเป็นดาราในบทละครใหม่ของฟิลิป บาร์รี เรื่อง ''[[เดอะฟิลาเดลเฟียสตอรี (บทประพันธ์)|เดอะฟิลาเดลเฟียสตอรี]]'' บทได้รับการปรับแต่งเพื่อนักแสดงหญิงที่มีคุณลักษณะเป็นสาวสังคมอย่าง เทรซี ลอร์ด ซึ่งเป็นคนที่มีความผสมผสานทั้งด้านอารมณ์ขัน ความก้าวร้าว ขี้หงุดหงิด และเป็นคนใจอ่อน<ref>Higham (2004) p. 97.</ref> [[ฮอเวิร์ด ฮิวส์]]เป็นหุ้นส่วนของเฮปเบิร์นในเวลานั้น ได้รู้สึกว่าละครเรื่องนี้อาจเป็นตั๋วตีตราให้เธอกลับสู่วงการฮอลลีวูด และเขาได้ซื้อลิขสิทธิ์ให้เธอก่อนที่เธอจะเข้าลองแสดงบนเวทีด้วยซ้ำ<ref name="berg p 132">Berg (2004) p. 132.</ref> ''เดอะฟิลาเดลเฟียสตอรี'' ตระเวนแสดงครั้งแรกในสหรัฐอเมริกา ได้รับการวิจารณ์เชิงบวกและเปิดแสดงในนิวยอร์กที่โรงละครชูเบิร์ตในวันที่ 28 มีนาคม ค.ศ. 1939<ref>Berg (2004) p. 136.</ref><ref>{{cite news|last=Atkinson |first=Brooks |authorlink=Brooks Atkinson |title=The Play: Katharine Hepburn Appearing in Philip Barry's 'The Philadelphia Story' for the Theatre Guild |url=https://query.nytimes.com/gst/abstract.html?res=9804E6D7133CE73ABC4151DFB5668382629EDE |newspaper=The New York Times |date=March 29, 1939 |accessdate=November 10, 2015 |url-status=live |archiveurl=https://web.archive.org/web/20160305145059/http://query.nytimes.com/gst/abstract.html?res=9804E6D7133CE73ABC4151DFB5668382629EDE |archivedate=March 5, 2016}}</ref> ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากทั้งด้านการแสดงและการเงิน ละครเรื่องนี้แสดงถึง 417 ครั้ง จากนั้นก็ออกตระเวนแสดงครั้งที่สองก็ประสบความสำเร็จ<ref name="Time" />
บริษัทภาพยนตร์ใหญ่ๆพยายามเข้าหาเฮปเบิร์น เพื่อนำบทประพันธ์ของบาร์รีมาผลิตเป็นภาพยนตร์<ref>Berg (2004) p. 137.</ref> เธอเลือกที่จะขายลิขสิทธิ์ให้[[เมโทร-โกลด์วิน-เมเยอร์]] (เอ็มจีเอ็ม) บริษัทภาพยนตร์เบอร์หนึ่งของฮอลลีวูด<ref>Curtis (2011) p. 224.</ref> ด้วยเงื่อนไขว่าเธอจะต้องได้โด่งดัง จากข้อตกลงทำให้เธอมีสิทธิเลือกผู้ผลิต คือ [[จอร์จ คูกอร์]] และเธอเลือก[[เจมส์ สจวร์ต]]กับแครี แกรนต์ (ซึ่งเธอหวังว่าจะได้รับความนิยม) เป็นดาราร่วม<ref name="dickens 17">Dickens (1990) p. 17.</ref> ก่อนที่จะถ่ายทำ เฮปเบิร์นได้กล่าวอย่างชาญฉลาดว่า "ฉันไม่อยากจะทำตัวเด่นดังอะไรก่อนถ่ายภาพยนตร์ พวกคนดูมันหมั่นไส้ฉัน คิดว่าฉันเป็นพวกหัวสูงผู้ดีตีนแดง พวกเขาอยากจะเห็นฉันล้มหน้าคว่ำ" แต่ในภาพยนตร์ฉากแรกเธอก็โดนแกรนต์ทำหงายท้อง<ref name="Berg p 139">Berg (2004) p. 139.</ref> เบิร์กได้สร้างตัวละครเพื่อให้ผู้ชม "หัวเราะเยาะเธอมากพอก่อนที่สุดท้ายพวกเขาจะเห็นใจเธอ" ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่เฮปเบิร์นจะสามารถ "สร้างภาพลักษณ์ของเธอใหม่"<ref>Berg (2004) pp. 139–140.</ref>
== อ้างอิง ==
| |||